หมอนวิเศษ


หมอนวิเศษ

หมอนวิเศษ
 
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในประเทศจีนมีชายชาวนาคนหนึ่ง

ชื่อ "อาเฉิน" กำลังนั่งกินอาหารอยู่ในโรงเตี๊ยม ก็ได้มีพ่อค้าเร่คนหนึ่ง

เข้ามาทักทายเขาว่า "พ่อหนุ่ม ทำมาหากินเป็นอย่างไรบ้าง"



"ไม่ไหวเลยครับ ชีวิตของข้าอับจนสิ้นดี" อาเฉินตอบอย่างเศร้าสร้อย

"เจ้าไม่พอใจในวิถีชีวิตของตนเองดอกหรือ?" พ่อเฒ่าสอบถาม

"จะให้ข้าพอใจได้อย่างไรในเมื่อข้าต้องทำงานหนักทั้งวัน

ถ้าข้าได้เป็นเศรษฐี ข้าจึงจะพอใจ" อาเฉินกล่าว พ่อเฒ่านิ่งงันไม่พูดอะไร


ก่อนจากกันพ่อเฒ่าได้ยื่นห่อผ้าในมือให้อาเฉิน และพูดขึ้นว่า
"พ่อหนุ่ม ข้าต้องเดินทางไปหมู่บ้านข้างเคียง พรุ่งนี้เช้าจึงจะกลับ
เจ้าจะเก็บรักษาหมอนใบนี้ไว้ให้ข้าได้หรือไม่? หมอนใบนี้หนุนนอนสบายดี
เจ้าจะใช้หมอนใบนี้หนุนหัวในคืนนี้ก็ได้"

อาเฉินรับคำจะเก็บรักษาหมอนไว้ให้ ทั้งสองจึงแยกทางกัน



ในคืนนั้น อาเฉินใช้หมอนของพ่อเฒ่าหนุนนอน


เมื่ออาเฉินตื่นขึ้นมาก็พบว่ามีแท่งเงิน แท่งทองเต็มไปหมด
"รวยแล้ว ในที่สุดเราก็รวยสมใจนึก" อาเฉินตะโกนสุดเสียงด้วยความดีใจ
"ข้าจะสร้างคฤหาสน์หลังงาม ข้าจะซื้อทุกอย่างที่ข้าต้องการ"



อีกไม่นานคฤหาสน์ของเขาก็สร้างเสร็จ ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขา
อาเฉินเป็นมหาเศรษฐีไปแล้ว เขาไม่ปราถนาจะลดตัวลงไปเสวนากับคนจน
ดังนั้นเขาจึงปิดคฤหาสน์อาศัยอยู่ในนั้นตามลำพัง

อยู่มาไม่นานอาเฉินก็เบื่อหน่าย "ขาดอะไรไปสักอย่าง? อ้อรู้แล้ว
สวนของข้าว่างเปล่านั่นเอง" เขาจึงสั่งให้คนงานหาดอกไม้หลากสีสัน
งดงามที่สุดเท่าที่จะหาได้ และไม้ใหญ่มาปลูกไว้ในสวน และขุดสระเลี้ยงปลา


แต่แล้ว อาเฉินยังรู้สึกเงียบเหงาเปล่าเปลี่ยว
"จะต้องขาดอะไรไปสักอย่าง อ้อรู้แล้ว บ้านหลังนี้เงียบเกินไป"
อาเฉินจึงว่าจ้างนักดนตรี นักรำมาขับกล่อมให้ความบันเทิง

แต่แล้วต่อมาไม่นาน อาเฉินก็รู้สึกเบื่อกับการร้องรำ เขาจึง
ไล่นักดนตรี นักรำออกจากบ้านไป อาเฉินรู้สึกเหงาหงอยอ้างว้าง
"อ้า...สิ่งที่ข้าต้องการคือ ภรรยาสักคน...ใช่แล้ว"


อาเฉินส่งคนรับใช้ไปป่าวประกาศกลางหมู่บ้านว่า หญิงใดที่ยังเป็นโสด
ขอให้มาชุมนุมที่หน้าคฤหาสน์ของเขาในเช้าวันรุ่งขึ้น เพื่อให้เขาเลือกเป็นภรรยา
แต่ ไม่มีหญิงใดโผล่หน้ามาให้เห็นในเช้าวันถัดมา อาเฉินรู้สึกแค้นเคืองฉุนเฉียว
"เฮอะ ชาวนาโง่เง่า ข้าไม่เห็นจะต้องการเลย อยู่คนเดียวก็ได้"


อยู่มาวันหนึ่ง อาเฉินตัดสินใจลงจากเขา อาเฉินนั่งเกี้ยวงดงาม
มีคนรับใช้สี่คนหาม มาดโอ่อ่าภูมิฐานยิ่งนัก แต่อาเฉินก็ต้องประหาดใจ
เมื่อผู้คนในหมู่บ้านไม่มีใครให้ความสนใจเขาเลย เมื่อเขาผ่านโรงเตี๊ยมเก่า
เขาได้ยินเสียงผู้คนทักทายกัน สลับกับเสียงหัวเราะเป็นระยะ เขามองเห็น
เพื่อนเก่าซดข้าวต้มร่วมกัน แม้คนเหล่านั้นจะยากไร้ แต่ก็มีความสุขยิ่ง


อาเฉินหวนกลับมายังคฤหาสน์อ้างว้าง นั่งครุ่นคิดอยู่เป็นนาน
เขากลายเป็นมหาเศรษฐีแล้ว แต่ก็ไม่มีความสุข ชีวิตแสนสบายแต่อ้างว้าง
อาเฉินอยากจะกลับไปเป็นชาวนาสามัญเช่นเดิม แล้วเขาก็เผลอหลับไป


เมื่ออาเฉินลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็พบว่าตนเองอยู่ในห้องเก่าซอมซ่อ


ทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิม อาเฉินเพิ่งรู้ว่าตัวเองฝันไป เขาวิ่งออกจากกระท่อม
หัวเราะร่าด้วยความยินดี อาเฉินร้องทักทายชาวนาที่เดินผ่านบ้าน เหมือนกับ
เพื่อนรักที่หายหน้าไปนาน และพอถึงตอนสายของวันชายชราเจ้าของหมอน
ก็ได้มาหาอาเฉิน "เป็นอย่างไรพ่อหนุ่ม เมื่อคืนหลับฝันดีหรือไม่"


อาเฉินวิ่งกลับเข้าบ้าน หยิบเอาหมอนห่อผ้าให้เรียบร้อย ยื่นคืนให้เจ้าของ
"ขอบพระคุณท่านผู้เฒ่าเป็นอย่างมาก ที่ให้ยืมหมอนวิเศษใบนี้
ข้าเพิ่งได้บทเรียนล้ำค่าของชีวิต...ไม่มีสุขใดใหญ่หลวงเกินไปกว่า
ความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่อีกแล้ว"



อาเฉินหยิบจอบขึ้นพาดบ่า เดินผิวปากออกจากบ้าน

มุ่งหน้าไปยังท้องนา พ่อเฒ่าอมยิ้ม และออกเดินทางต่อไป

ขอบคุณเรื่องดีๆจาก Internet.

คำสำคัญ (Tags): #หมอนวิเศษ
หมายเลขบันทึก: 170157เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2008 18:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:03 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (12)

คุณครู ปภาพรรณ์ ... ภาพหายไปครับ ทำไงดี :)

สวัสดีค่ะ  อาจารย์

หนูกำลังแก้ไขอยู่ค่ะ

ขอบพระคุณอาจารย์มากนะคะ

  • นิทานชีวิตอ่านแล้วทำให้เกิดกิตนาการ  ของความรู้

 

สนุกดีค่ะ 

          ถ้ามีรูปด้วยก็คงจะดี 

พี่คิดว่า 

           ต้องเอารูปใส่ไว้ที่ไฟล์อัลบั๊มก่อน  แล้วจึงนะมาวางลงใน

บันทึกนะคะ   ไม่อย่างนั้นรูปคงจะหายไปแบบนี้แหละ

 

ขอบคุณค่ะ  พี่นุ้ย

จะรีบดำเนินการแก้ไขค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณ องศาที่ต่างกัน
  • ชอบประโยคนี้มากค่ะ
  • " ไม่มีสุขใดใหญ่หลวงเกินไปกว่า
    ความพึงพอใจในสิ่งที่ตนเองมีอยู่อีกแล้ว "
  • แต่ก็ไม่ควรที่จะหยุดฝัน หรือแสวงหาสิ่งที่ดีกว่า ใช่ไหมคะ
  • ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ

สวัสดีค่ะ  ดอกไม้ที่ปลายดอย

เราควรพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ก็จิง

แต่ก็คงต้องค้นหาฝันของเราต่อไปค่ะ

ดีนะที่เอานิทานที่ปรัชญาชีวิตมาถ่ายทอด อ่านแล้วทำให้รู้จักพอใจในสิ่งที่เรามีและเราเป็นอยู่ แต่ไม่ใช่การท้อแท้หรือท้อถอย ช่วยหามานำเสนออีกนะครับ

สวัสดีค่ะ  คนคุมคน

ขอบคุณนะคะที่แวะเข้ามาอ่าน

สัญญาค่ะว่าคราวหน้าจะนำเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านกันอีก

 (มีรูปประกอบด้วยค่ะ)

ดีจังค่ะ..นิทานนี้ให้แง่คิดดีมาก..ไว้จะเอาไปเล่าให้เด็กๆฟังค่ะ..

ขอบคุณค่ะ..

สวัสดีค่ะ คุณครูแอ๊ว

ขอบคุณนะคะที่เข้ามาทักทายกัน 

คราวหน้าจะนำเรื่องดีๆแบบนี้มาให้อ่านกันอีกนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท