เยี่ยมบ้านเด็ก ๆ ภาค 1


บุกขึ้นบ้านเด็ก บ้านแม่แพม

วันนี้หน้าที่ครูประจำชั้นอย่างครูสุก็ต้องไปหาผู้ปกครองเพื่อให้ผู้ปกครองนักเรียนได้ดูผลการเรียน ก่อนที่จะแสดงความคิดเห็นต่อการเรียนของเด็กใน ปพ.6 หรือเรียกง่าย ๆ ว่า สมุดพก  ปกติแล้วจะมอบให้นักเรียนเอาไปให้ผู้ปกครองที่บ้าน แต่ว่าครูสุก็อยากจะไปพบกับพ่อแม่ของเด็ก และอยากไปเที่ยวด้วย ครูสุจึงไปเยี่ยมบ้านเด็กที่บ้านแม่แพม ซึ่งไกลจากโรงเรียนประมาณ 5 กิโลเมตร ซึ่งบ้านแม่แพมมีประชากรเป็นเผ่ากะเหรี่ยง แต่มีความเจริญแล้วพอสมควร พ่อแม่ผู้ปกครองเด็กก็ต้อนรับขับสู้เป็นอย่างดี และมีกล้วยน้ำว้าเป็นของฝากครูสุอีกด้วย

การไปเยี่ยมเด็กวันนี้มีมัคคุเทศก์ประจำบ้านเป็นนักเรียนพาไป แต่ครูสุก็จำได้ว่าบ้านใครอยู่ที่ไหน เพราะว่าไปหลายครั้งแล้ว  การไปครั้งนี้ครูสุก็ไปคุยกับผู้ปกครองเรื่องของการเรียนต่อของบุตรหลาน เพราะเด็กจะจบชั้นป.6 แล้ว เด็กผู้ชายจะบวชเรียนต่อ ที่วัดศรีโสดา จังหวัดเชียงใหม่  เห็นว่ามีหลายคนพากันไปสมัครกันแล้ว เด็กผู้หญิงคงจะเรียนต่อระดับมัธยมศึกษา ที่โรงเรียนมัธยมในอำเภอ สิ่งที่ผู้ปกครองเป็นห่วงคือการที่นักเรียนอ่านเขียนไม่ค่อยคล่องเหมือนกับสมัยพ่อแม่ของเด็กเป็นนักเรียน  (น่าห่วงเช่นกัน) ส่วนเด็กก็สนุกสนานนะครับที่ครูสุไป แต่วันนี้เวลาน้อยไปนิด กะว่าคงจะไปเยี่ยมเยียนหากันอีกในโอกาสต่อไป ...

คำสำคัญ (Tags): #เยี่ยมบ้านเด็ก
หมายเลขบันทึก: 170195เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2008 21:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:50 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

อาจารย์ทำได้ดีมาก การเยี่ยมบ้านเป็นส่วนหนึ่งของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ทำให้เรารู้จักเด็ก (รู้จักจริงๆ) ไม่ใช่รู้จักโดยผิวเผิน

บ่อยครั้งที่ครูเรา คิดและตัดสินใจกับเด็กคนๆหนึ่งผิดพลาดไปเพราะไม่รู้จักเด็กอย่างลึกซึ้ง พอได้ไปเยี่ยมบ้าน เห็นและสัมผัสความจริงของชีวิตเด็ก จึงรู้ว่าครูได้คิดผิด และทำผิดไปอย่างมาก

ลุงอยากเสนอแนะให้คุณครู มีบันทึกการเยี่ยมบ้านไปด้วย (ซึ่งมีหลายรูปแบบ จะคิดแบบฟอร์มขึ้นเอง หรือนำของโรงเรียนอื่นมาปรับใช้ก็ได้) ถ้าอยากได้ของดี ลอง เซิสท์เข้าไปที่มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาการเรียนรู้ เข้าไปที่ Best Practices ของระบบดูแลฯจะมีตัวอย่างที่ดี ทั้งแบบฟอร์ม และวิธีการสังเคราะห์ รวมทั้งการนำข้อมูลไปแก้ไขที่ตัวเด็ก

ขอส่งแรงใจมาให้คุณครู

ลุงเก

กราบสวัสดีครับอาจารย์เก

                 ขอบคุณครับที่เสนอข้อคิดเห็นที่ดี ๆ  ผมเองก็เคยเป็นที่ว่าทำไมเราไปตัดสินเด็กคนหนึ่งที่โรงเรียนอย่างเดียว (ทำไมไม่ไปศึกษาเรียนรู้เด็กจากสิ่งแวดล้อมของเขา (บ้าน) แล้วก็ตัดสินเด็กคนนั้นผิดไป หลายครั้งเหมือนกันครับ  และว่าจะเขียนบันทึกเรื่องนี้ต่อในบันทึกนี้ ภาค 2 นะครับ ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท