ความรู้คู่คุณธรรม นำสังคม..??


??

มีความรู้อย่างเดียว..พอหรือเปล่า..ไม่พอ..แน่นอน..

มีความรู้มาก..ไม่มีคุณธรรม..ไม่เหลือเลยประเทศชาติ

มีความรู้และต้องมีคุณธรรม..สังคมและประเทศชาติอยู่ได้

มีความรู้ มีคุณธรรมและนำสังคม(ไปสู่สิ่งที่ดีงาม)..สังคมและประเทศชาติอยู่ได้และสงบสุข เพราะประเทศชาติมีการพัฒนาไปสู่สิ่งที่ดีงาม

"มีความรู้ คู่คุณธรรม นำสังคม"..เอามาจาก..ไหน เอามาจาก..คำขวัญคณะนิติศาสตร์ ..มหาวิทยาลัยนเรศวร..เอง(วิชาการเด่น เน้นคุณธรรม นำสังคม)..และนี่ก็คือ..สิ่งที่เราหวัง..ไว้ว่าคณะนิติศาสตร์ ของประชาชน..แห่งนี้..จะต้องทำสิ่งเหล่านี้ให้จงได้..และตลอดไป..คือต้องผลิตนิสิตให้เป็นผู้ที่มีทั้งความรู้คู่คุณธรรม เพื่อไปช่วยกันพัฒนาประเทศชาติบ้านเมืองต่อไป..ในอนาคต..

"เรามีความคิดว่า..รัฐจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องช่วยส่งเสริม และพัฒนาในเรื่องของการศึกษาควบคู่กับคุณธรรม..อย่างจริงจัง..และต่อเนื่อง.."

ดังนั้น สิ่งหนึ่งที่เห็นด้วยอย่างยิ่งคือรัฐ จำต้องให้ทุนการศึกษาเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ของครูอาจารย์ โดยให้มีโอกาสไปศึกษาทั้งในและหรือต่างประเทศ..รวมทั้งการไปศึกษาดูงานในที่ต่างๆทั้งในและต่างประเทศ..เป็นต้น..ไม่ว่าคุณครู จะเป็นผู้สอนทั้งในระดับอนุบาล ประถม มัธยม (สำคัญมากที่สุด)และรวมทั้งอุดมศึกษาด้วย ขณะเดียวกันในเรื่องของจริยธรรมต้องเน้นมากๆสำหรับคุณครูทุกท่าน(รวมทั้งเราด้วย..อิๆๆ)

เพราะอะไร..เพราะคุณครู คือ "ผู้ที่สร้างคน" ให้คน..เป็นคนดี มีความรู้ ..โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณครูที่สอนเด็กในระดับอนุบาล ประถม มัธยม ต้องถือว่าสำคัญมากที่สุด..เพราะเป็นช่วงที่เด็กอยู่ระหว่างการพัฒนา เรียนรู้มากที่สุด ถ้าเด็กรับแต่สิ่งที่ดีงามไป เด็กเหล่านี้ก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันข้างหน้า..อย่างแน่นอน..ดังนั้น..รัฐจำต้องตระหนักในเรื่องนี้ให้มาก..(ฝากคุณสมัครและ..คุณสมชาย..ด้วยค่ะ)

ดังนั้น หากรัฐมองข้ามความสำคัญตรงนี้ไป..และให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาทางเศรษฐกิจฯลฯ.. โดยมิได้ให้ความสำคัญในเรื่องของ "การศึกษา"เท่าที่ควรจะเป็น ต้องถือว่า"รัฐบาลนั้นๆ "ล้มเหลว" อย่างสิ้นเชิง"..เพราะประเทศชาติจะไม่มีวันพัฒนาอย่างยั่งยืนได้..หากเครื่องมือในการพัฒนา"การศึกษาและคุณธรรมในสังคม"..ไม่ได้รับการส่งเสริมและพัฒนาอย่างจริงจัง..

ออกนอกระบบไป..ก็ไร้ประโยชน์..อิๆๆ..ด้วยความเคารพ

ขอบคุณค่ะ

ด้วยรักจากใจยายหมูอ้วนเอง

"รู้สึกเศร้าใจจัง..ที่คุณครู..จะเรียนปริญญาเอกเพื่อพัฒนาความรู้ตนเอง..รัฐก็ไม่มีทุนให้..จำต้องหาเงินเรียนเอง..เงินเดือนก็น้อย..ครอบครัวก็มี..."..ต่อไปถ้าเงินเหลือใช้..เอามาให้ทุนการศึกษากับคุณครูดีกว่า..อิๆๆ

 

หมายเลขบันทึก: 170545เขียนเมื่อ 12 มีนาคม 2008 16:44 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 11:37 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ..ว่าสิ่งที่ตอ้งเน้นในยุคนี้..ก็คือให้เด็กมีคุณธรรม นำความรู้....

โดยเริ่มที่ตัวของครูก่อนเป็นอันดับแรก..

"ตัวอย่างดีมีค่ากว่าคำสอน"..ดังนั้น..ก็เลยมีความคิดเห็นว่า.จะให้เด็กดีได้..ครูต้องดีก่อน..เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะซึมซับไปในตัวเด็ก..โดยบางทีเราไม่รู้เลยว่า.เราทำอะไรบางที..มีดวงตาเล็กๆมองและประทับไปในสมอง ..ความรู้สึกของเขาทุกอย่าง..

การพัฒนาด้านวิชาการควรจะควบคู่กับการพัฒนาด้านจิตใจไปด้วย..ทั้งครูทั้งลูกศิษย์ค่ะ..ชาติถึงจะเจริญ..

ครูต้องไม่ลืมว่า..ความศรัทธาของเด็กที่มีต่อครู..ก็มีผลต่อการเรียนรู้ในทุกๆด้านของเด็กนะคะ..

ขอบคุณค่ะ..

สวัสดีค่ะคุณครูแอ๊วที่น่ารัก

ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ..

ขอบคุณค่ะที่ร่วมแสดงความคิดเห็นนะคะ..

ใช่ค่ะ เขาถึงเรียกว่า"ครู"คือแม่พิมพ์ของชาติ.....ก็คงมีที่มาที่ไปแบบนี้..ล่ะค่ะ..ต้องเป็นแบบอย่างที่ดีๆให้เด็กๆเห็นด้วยอย่างยิ่งเลยค่ะ..

แบบอย่างที่มีจึงมีค่ายิ่งกว่าคำสอน ค่ะ

ด้วยรักจากใจยายหมูอ้วนเอง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท