เดิมเข้าใจว่าคนเป็นเบาหวานสาเหตุต้องมาจากชอบกินของหวาน ๆ และรูปร่างต้องอ้วนตุ๊ต๊ะ แต่ต่อมาก็ได้รู้ว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด ครูที่โรงเรียนตัวผอมแล้วก็ไม่ชอบกินหวานเลยยังเป็นเบาหวานได้ หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบดี วันนี้ได้อ่านข้อมูลจากหนังสือ "ชีวจิต" นำมาบอกเล่าให้ฟังกันค่ะ
คุณรู้ไหม ?
คนไทยมีการเสี่ยงต่อการเป็นเบาหวานสูงถึง 70% ของประชากรทั้งหมด โดยพบว่า อายุเฉลี่ยของผู้ที่เริ่มเป็นจากเดิม 40 - 50 ปีมีแนวโน้มลดลง ทั้งนี้มีเด็กไทยเริ่มเป็นเบาหวานมากขึ้น โดยพบผู้ป่วยอายุน้อยที่สุดเพียง 7 ขวบเท่านั้น สาเหตุหนึ่ง คือ ไม่มีการตรวจสุขภาพเป็นประจำ ขาดความรู้เรื่องเบาหวาน ทำให้ไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคเบาหวาน และไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่เมื่อเริ่มเข้ากลุ่มเสี่ยง
โรคเบาหวานเป็นอย่างไร ?
เบาหวาน คือ ภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ (120 มก./ดล.) โดยธรรมชาติร่างกายสามารถย่อยสลายแป้ง และเปลี่ยนเป็นน้ำตาลกลูโคสในกระเพาะอาหาร แล้วดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดเพื่อเป็นพลังงานหล่อเลี้ยงเซลล์ต่างๆ ของร่างกาย โดยอาศัยฮอร์โมนจากตับอ่อน ชื่อ อินซูลิน(Insulin) เป็นตัวพาน้ำตาลกลูโคสในเลือด เข้าไปในเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ หากขาดอินซูลินแล้ว จะทำให้ร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงานได้ ทำให้มีน้ำตาลในกระแสเลือดมากกว่าปกติ เมื่อน้ำตาลคั่งในเลือดมากๆ ก็จะถูกไตกรองออกมาในปัสสาวะ ทำให้ปัสสาวะหวานหรือมีมดขึ้นได้ จึงเรียกว่า "เบาหวาน"
สำรวจตัวเองได้อย่างไรว่ากำลังเข้าสู่ภาวะเบาหวาน?
สัญญาณเตือนภัย ที่คุณสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน มีดังนี้
* ปัสสาวะบ่อยและมีปริมาณมาก
* คอแห้ง กระหายน้ำ ดื่มน้ำมาก
* กินจุ หิวบ่อย
* น้ำหนักตัวลดลง
ทั้งนี้เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่รักษาไม่หายขาด แต่ผู้ป่วยสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติได้ โดยการปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง คือ การควบคุมอาหาร โดยลดอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล ผลไม้ และเพิ่มการรับประทานเนื้อสัตว์ ผักใบเขียว การควบคุมน้ำหนักตัว การออกกำลังกาย การผ่อนคลายความเครียด และความวิตกกังวลในอารมณ์
(อ้างอิง : กระทรวงสาธารณสุข ปี 2548)
ปัจจุบันมีการนำสมุนไพรหลายชนิดมารักษาโรคเบาหวาน ในประเทศญี่ปุ่นได้ทำการศึกษาพบว่า สารโพลีแซคคาไรด์ ในเห็ดหลินจือแดง ประเภท Ganoderana A,B,C มีส่วนช่วยกระตุ้นการทำงานของตับอ่อนในการผลิตอินซูลิน ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลงเป็นปกติ ซึ่งเห็นผลได้ค่อนข้างชัดเจน และรวดเร็ว ที่สำคัญปลอดภัย เพราะไม่มีผลข้างเคียงเหมือนกับการฉีดยาแผนปัจจุบัน
นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเสี่ยงในการแข็งตัวของหลอดเลือดแดง และโรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น โรคไต และโรคระบบประสาท ทำให้มีการใช้เห็ดหลินจือแดงรักษาในผู้ป่วยโรคเบาหวาน ควบคุ่ไปกับยาแผนปัจจุบันอย่างแพร่หลาย
"เบาหวาน เป็นประตูสำคัญที่นำไปสู่โรคแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ไต ระบบประสาท เป็นต้น"
***คนเรามักจะชอบอะไรที่หวานๆ เช่น ชอบคนพูดหวาน ชอบรับประทานของหวาน ชอบใส่เสื้อสีหวาน และใครบางคนอาจจะชอบสาวหน้าหวานๆ มีความสุข จงระมัดระวังกาย ใจของตนเองให้ดี เพราะของหวานมักจะให้ทั้งคุณและโทษ อย่าเผลอชอบ "เบาหวาน" เข้าล่ะคะ หากเป็นเมื่อไรแล้ว คงจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอนค่ะ***
สวัสดีครับ อ.แก้วตา
เราต้องดูแลรักษาสุขภาพดีๆ นะครับ เพราะเบาหวาน เป็นโรคที่รักษายาก ต้องดูแลเรื่องอาหารการกิน ดีๆ ขอบคุณครับ
การรักษาโรคเบาหวานแบบหายขาดโดยสมุนไพรไทย
หายขาดจริงๆครับ
โดยความบังเอิญที่คุณพ่อผมได้เดินทางมาหาที่บ้านที่จังหวัดขอนแก่นแล้วมาเจอกับ คุณ ยายผมที่ป่วยเป็นเบาหวานมาหลายปี โดยการรักษาตลอด 12ปีที่ผ่านมาต้องไปรับยาทุกอาทิตย์ ตื่นตั้งแต่ตี 5เพื่อไปโรงบาล แกบอกว่าทรมานมากใครไม่เป็นไม่รู้หรอก เพื่อนๆแกได้ตัดนิ้ว-แขน-ขา บางคนตาบอด และตายไปก็หลายสิบคนแล้ว
พ่อบอกกับแม่ว่าแกมีสูตรสมุนไพรโบราณสมัยคุณปู่ผมที่อยู่ที่มาเลย์เซียก่อนเดินทางมาไทยและนำมาผสมกับสมุนไพรของคุณตาผมที่นำมาจากไร่ที่ จังหวัดเลยผสมชงทานกัน ตอนแรกแกไม่ยอมทาน กลัวสารพัดผ่านไปหลายวันเข้าพ่อผมแกก็ชงทานทุกวันให้แกดูเป็นตัวอย่าง แกเลยยอมหลังจากทานไปสัก 3-4วันแกบอกว่าจะปัสสาวะบ่อยมากและจะมีอาการร้อนวูบวาบ และอาการชาปลายนิ้วตอนเช้าได้หายไปและหลังจากทานไปได้ 7วันแกอยากทานนั่นทานนี่(ปรกติไม่ยอมทานอะไร) ผิวพรรณจากแห้งๆเริ่มมีน้ำมีนวล และขาเริ่มมีกำลังสามารถลุกขึ้นเดินได้ จนแม่ได้พาไปตรวจที่ โรงพยาบาลขอนแก่น ผลออกมาว่าน้ำตาลในเลือดจากเดิม 230 ลดลงเหลือเพียง 115เท่านั้น เอง จนหมอเองก็ประหลาดใจอยู่ไม่น้อย แกทานมาได้สักประมาณ 1เดือนแล้วกลับไปวัดน้ำตาลอีกก็ได้รับผลว่าปรกติดี จวบจนถึงปัจจุบันนี้คุณหมอ ได้ทำการแจ้งว่าไม่ต้องมาตรวจแล้วครับ หายจากการเป็นเบาหวานแล้ว ก็ทำให้ทุกคนในบ้านประหลาดใจมากครับ
ผมคนนึงที่ไม่เชื่อครับ ก็เลยเอามให้น้องๆที่ทำงานที่ร้อยเอ็ดนำไปให้คนที่บ้านทาน ผลก็เป็นเช่นเดิมกับยายผมทานไปน่าจะประมาณ 83คน มีที่ไม่หาย 3คน ซึ่งจากการสอบถามแล้วได้ความว่าทานไปเพียง 1-3วันแล้วไม่กล้าทานต่อครับ
ส่วนท่านอื่นๆปัจจุบันหายขาดแล้วเพราะไม่ได้นำไปทานอีกเลย
ผมจึงบอกคนที่หายว่าถ้าทานแล้วหายให้ระลึกถึงคุณของผู้ที่ล่วงลับไปแล้วที่ได้คิดค้นสูตรโบราณนี้ไว้ให้แก่คนรุ่นนี้ครับ
อัศจรรย์จริงๆครับ
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อที่ คุณ ธิดา อึ้งนภารัตน์ 123/456 ม.เพรสซิเดนท์ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น 40000หรือโทร 083-3459197
สวัสดีค่ะ คุณjans
สวัสดีค่ะ สังเวียร