สมัยนี้ต้องบอกว่าการใช้เทคโนโลยี..เข้ามาช่วยในการปฏิบัติงานหรืออื่นๆนั้น..โดยปกติก็จะสามารถเอื้ออำนวยความสะดวกสบายให้กับเราได้หลายประการด้วยกัน ..
แต่อย่างไรก็ตาม คิดว่าของทุกอย่างย่อมมีทั้งข้อดี และข้อเสีย...และใช้ดีก็อาจก่อให้เกิดประโยชน์ ใช้ไม่ดีก็..อาจก่อให้เกิดโทษ..หรือก่อให้เกิดความวุ่นวายได้..เหมือนกัน..
....
วันนี้ไปธนาคาร..อย่างที่เคยเล่าให้ฟังว่าธนาคารที่นี่ คือโดยปกติจะมีเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่..เดินไปเดินมาอยู่หนึ่งคนเท่านั้น หรือไม่ก็นั่งยิ้มไปยิ้มมา....ที่เหลือและที่เห็นก็คือมีแต่เทคโนโลยีที่ทันสมัยตั้งไว้..เพื่อให้ลูกค้าใช้บริการ..
ดังนั้น...ไม่ว่าจะโอน ถอน ฝากหรือเช็คยอดเงิน..หรืออื่นๆ.ลูกค้าก็ต้องจัดการเอง...(เป็นส่วนใหญ่)
..ทุกครั้งเวลาเราเข้าไปเบิกเงินในธนาคาร..เข้าไปถึงก็สัมผัสหน้าจอ..แตะๆๆๆๆๆโดยแทบไม่ต้องอ่านคำสั่งบนหน้าจอ..ก็สามารถได้เงินมาใช้ได้..สบายมาก..อาศัยความชำนาญ..เพราะเบิกบ่อยๆ..อิๆๆ
วันนี้ก็เดินเข้าไปในธนาคารด้วยความมั่นใจ..เพื่อไปใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในธนาคารตามที่เคยใช้บ่อยๆ...และก็นึกในใจว่า แหม วันนี้..ดีจังเลย.... ไม่ค่อยมีคน...ไม่ต้องเข้าคิว ..สบายเลย..ไปถึงก็เข้าไปแตะๆๆๆๆๆเดี๋ยวก็ได้เงินแล้วไม่เกินหนึ่งนาที."สบายมาก"..แต่ปรากฏว่าเมื่อหยิบเงินมาเรียบร้อยแล้ว....หน้าจอก็ปรากฏข้อความสรุปได้ว่า"ที่คุณแตะๆๆๆๆนะมันเป็นการกระทำที่ใช้ความเร็วสูงมาก..จนเครื่องเสียหาย..ใช้การไม่ได้..."..เราก็หา..ตายละ..ทำไง..หลังจากนั้นไม่เกินหนึ่งวินาทีได้..เครื่องก็หยุดการใช้งาน..(ดับไปเลยหน้าจอ..)..ตอนนั้นหน้าคงเหลือประมาณนิ้วเดียว..และรู้สึกหนาวๆร้อนๆเพราะนึกในใจ..ตายละ..ทำระบบเขาพังไปหรือเปล่าเนี่ย...เสร็จแน่เลย..เรา..
...."..ก็ยืน..งง งง อยู่สักพัก..เครื่องมันก็ติดเหมือนเดิม.....ทำให้โล่งอก..อืม..เครื่องใช้การได้เป็นปกติแล้ว..อิๆๆ
แต่สักพัก....รายต่อไป..ก็มาแตะๆๆๆๆเป็นคิวต่อจากเรา..ปรากฏว่ารายนี้(ซวย)หนักกว่าเราคือทั้งเงินทั้งบัตรไม่ออกมาเลย..อิๆๆ คุณภรรยาวิ่งไปตามเจ้าหน้าที่ คุณสามีเฝ้าที่เครื่อง...เราเองก็ยืนดูอยู่ว่า..เกิดอะไรขึ้น..เพราะหน้าจอก็ดูปกติ....แต่ทำไมบัตรไม่ออกมา..เงินก็ไม่ออกมา..นึกในใจคงไม่เป็นอะไรหรอก..อิๆๆ เดี๋ยวเจ้าหน้าที่คงไปเอาบัตรมาคืนให้เขา.."เหมือนเมืองไทยแหละ"..เราก็ยืนลุ้นต่อ..
เจ้าหน้าที่ก็วิ่งเข้าไปในห้องๆหนึ่งกดรหัส เพื่อเข้าไปในห้อง..(ทำเหมือนในห้องคงมีเครื่องมืออันทันสมัยควบคุมเทคโนโลยีเหล่านี้ไว้..อะไรประมาณนั้น.อิๆๆๆ.ถึงต้องมีรหัส..)..เราก็ยืนดู..เอ๊ะ..เข้าไปทำอะไร..แล้วเราไปทำระบบ..ของเขาพังไป..หรือเปล่า..สักพัก..ก็ได้ยินเสียง...ทุบๆเครื่อง..(อยู่ด้านในหลายที..คงงัดแงะหรือซ่อมอะไรสักอย่างหนึ่ง..ตลกเล็กน้อย..แต่ขำไม่ออก..)..อิๆๆ นึกในใจ..เหมือนเมืองไทยเลย..เสียงทุบเครื่องก็ดังออกมานอกห้องเลย..ลูกค้าก็..งง งง กัน..เราก็เอ๊ะอะไร..เครื่องสมัยไหนกัน..ต้องมีทุบๆกันด้วย..อิๆๆ..
สักครู่พนักงานวิ่งออกมา..บอกว่า "ไม่เห็นมีบัตรเลยหาไม่เจอ...."..เราก็อ้าว..อะไรกันก็เห็นคุณป้า..แกใส่บัตรไปต่อหน้าต่อตา..แล้วคุณป้า..ก็คุยกับเรา..ว่า ทำไมไม่มีบัตรเป็นไปได้อย่างไร..ก็เพิ่งใส่ไป..คุณป้าแกก็..งง..งง ..
เราก็..อ้าว..ทำไมไม่มี..หรือว่า..เป็นเพราะเมื่อสักครู่นี้เราทำเครื่องมันดับไป..เลยทำให้ระบบเขาผิดปกติ..บัตรอาจค้างอยู่ตรงที่ใส่บัตรแน่ๆๆเลย บัตรคงยังไม่ทันเข้าไปในเครื่องด้านใน ก็เลยหาไม่เจอ (คงไม่เคยเกิดขึ้นแน่ๆเลย..นึกในใจ)..เพราะดูเจ้าหน้าที่มึนๆ..ทำอะไรไม่ถูก..วิ่งไปวิ่งมา..นึกในใจ..งานนี้ถ้าไม่เล่าให้เขาฟัง..เห็นท่าจะวิ่งกันอีกหลายรอบแน่ๆ.. อิๆๆ
เลย..ต้องอธิบายให้เจ้าหน้าที่ฟังเพิ่มเติมว่า..เมื่อสักพักฉันได้สัมผัสหน้าจอไปแล้วมันก็ปรากฏข้อความ...(ที่ว่ามาแล้ว)..เสร็จแล้วจอมันก็ดับไปเลย..ดังนั้น...ฉันคิดว่า..บัตรมันคงค้างอยู่แถวที่ใส่บัตรนั่นแหละ บัตรคงยังไม่เข้าไปในเครื่องด้านในหรอก.."คุณต้องงัดด้านหน้า..อิๆๆแนะนำเขาอีก"..คุณเจ้าหน้าที่..ก็มองหน้า..แล้วส่งสายตา..แบบ..ที่พอตีความได้ว่า.."เธอเองหรือคือ..ยายต้นเหตุ..ปล่อยให้ฉันทุบเครื่อง..มือเกือบพัง..ไม่รู้จักบอกตั้งแต่แรก.."..อ้าว..ก็ใครจะไปรู้ว่าเธอต้องเข้าไปทุบอะไร..กันขนาดนั้นล่ะ.. นึกว่าเธอแค่เข้าไปจัดการแก้ไขระบบคอมพิวเตอร์อันทันสมัย.. เสียอีก..อิๆ ฉันก็เลยไม่ได้บอก.อะไรเธอ...
..ท้ายที่สุด..เจ้าหน้าที่ก็วิ่งเข้าไปใหม่อีกรอบ.กดรหัสหน้าห้อง หายเงียบไปสักพัก..แล้วก็เดินหัวฟู..ออกมา..เราก็ลุ้นต่อ..ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก..แล้วจะหาบัตรเจอไหมเนี่ย..เจ้าหน้าที่ก็...ถือบัตรมาใบหนึ่ง ถามคุณลุงว่าคุณชื่อนี้ใช่ไหม..คุณลุงก็บอกว่าใช่..คุณลุงก็เลยได้บัตรไปเป็นที่เรียบร้อย..สรุปว่า...เธอสามารถไปงัดแงะออกจากตรงไหนไม่ทราบ...เราก็เลยรอดไป..อิๆๆๆ..
ก็เป็นอันว่าเรา....ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ธนาคารสมใจอยากเลยงานนี้....แต่คราวหน้าไม่เอาแล้วน่ะ..อิๆ.."ชาวบ้านเขาคงนึกในใจ..ยายคนนี้..มาจากประเทศไหนเนี่ย..อิๆๆ..ทำวุ่นไปหมด.." เข็ดแล้ว..อิๆๆๆ สรุปของสรุปก็คือ..การใช้ระบบสัมผัส..หน้าจอก็ควรมีจังหวะและรอ..เวลา..ด้วย..มันก็คงเหมือนการใช้คอมพิวเตอร์..ถ้ากดไปเรื่อยไม่มีจังหวะที่ดี อาจทำให้เครื่องเกิดปัญหาได้....อิๆๆ เล่าสู่กันฟังค่ะ..
ด้วยรักจากใจยายหมูอ้วน I love u
อะไรๆตอนนี้ ก็ใช้เทคโนโลยี่ทันสมัยนะคะ สมัยก่อน ยังเข้าคิวอยู่เลย แต่ที่เห็นมานานแล้วคือ เข้าใช้พนักงานน้อยกว่าเราค่ะ
สวัสดีค่ะคุณพี่Saninandaที่เคารพรัก
ด้วยความเคารพรัก
หนูหมูอ้วนค่ะ
สวัสดีค่ะคุณหมูอ้วน
สวัสดีค่ะน้องหมูอ้วน
สวัสดีค่ะคุณพี่ผึ้งงานที่เคารพรัก
อุ๊ยตาย..ทำงานอยู่ที่สถาบันมะเร็งเหรอค่ะ..อิๆๆฝ่ายไหนค่ะ..จะได้ไม่ไปตรวจอิๆๆ..
อิๆๆ..ไม่ค่อยมีเงินเหมือนกันค่ะ..เป็นโรคทรัพย์จาง..อิๆๆ..
ด้วยความเคารพรัก
หมูอ้วนเองค่ะ
สวัสดีค่ะคุณครูพี่อ้อยที่เคารพรัก
ด้วยความเคารพรัก
หนูหมูอ้วนเองค่ะ
สวัสดีค่ะน้องอาจารย์หมูอ้วน น้องเล่นมีหลายบล็อกมาก พี่งง ไม่รู้จะเข้าบล็อกไหนดี เลยค่อยมาแบบแรนดอมนะคะ
อาจารย์เล่าได้สนุกค่ะ เห็นภาพเลย สงสัยว่าเราจะเป็นคนชอบทำอะไรเร็วๆเหมือนกัน ประเภททนความยืดยาดไม่ค่อยได้ คอมพิวเตอร์ที่ใช้อยู่พี่ก็คลิกแบบรวดเร็วมากทั้งๆที่ตัวเองโลว์เทคที่สุด
โห เครืองแบบนี้ที่มีไทยมียัง
อ่าครับ
สวัสดีค่ะคุณพี่คุณนายดอกเตอร์ที่เคารพรักยิ่ง
ด้วยความเคารพรักยิ่ง
หนูหมูอ้วนค่ะ
สวัสดีค่ะคุณน้องชาย"Jumpzzzzzzzzz"สุดหล่อ
ด้วยรักจากใจพี่ยายหมูอ้วนเองจ๊ะ