สวัสดีครับ
เป็นเรื่องเล่าระหว่างการทำงาน ที่ได้สัมผัสกับเรื่องราวของชีวิตหนึ่ง
เป็นชีวิตที่ทำให้ผมได้เรียนรู้และเข้าใจ..ในชีวิตเขา และคนรอบข้าง รวมทั้งชีวิตอื่นๆ
พื้นฐานเดิมของชีวิตนี้
เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่ผ่านความยากลำบากทั้งกายใจ และป่วยด้วยภาวะซึมเศร้ารุนแรง
อยู่ระหว่างการรักษา และเคยทำร้ายตนเองด้วยการพยามจบชีวิตสองครั้ง
สภาวะครอบครัวที่สมาชิกแต่ละคนล้วนไม่อยู่ในสถานะที่ปกติทั่วไป...
การเริ่มต้นชีวิตกับครอบครัวใหม่..ความขัดแย้ง...และปัญหาเรื่องปากท้อง...
ท้าวความถึงการเริ่มต้นเรียนรู้...
- หนึ่งปีกว่าๆที่เขามาด้วยเรื่องทางกาย รักษาอย่างไรก็ไม่หาย
- เมื่อเปิดใจคุยกัน ถามเรื่องจิตใจ เรื่องความเป็นอยู่ เรื่องครับครัว เรื่องปากท้อง ก็เริ่มเข้าใจ รับรู้และรับฟัง...
- เรื่องทางกายเริ่มหายไป เรื่องทางใจเริ่มชัดขึ้น เขาเริ่มยอมรับ เปิดใจ และสัมผัสกับสภาวะที่เป็น
ถ้าไม่ไหวก็จะมาด้วยปวดมาก หรือเกร็ง..
- การรักษา
เริ่มทั้งยา และที่สำคัญคือคำปรึกษา แนวเสริมสร้างพลังในตนเอง และการยอมรับ การปรับตัว และพัฒนาทักษะต่างๆ เพื่อยกระดับจิตใจของตนให้สามารถเรียนรู้ รับรู้กับเรื่องราวที่ต้องสัมผัว และกระทบได้....
หลายวันก่อนได้ข่าวดีที่เขาท่านนี้ได้โชค เรื่องเงินทอง ปลดภาระไปได้อีกเรื่อง (เขาฝากคนรู้จักมาบอกครับ)
วันนี้..เขามา พร้อมกับเรื่องราวที่ต้องการบอกหมอเช่นกัน...
เป็นเรื่องราวหนักๆ อึ้งๆ ที่อาจจะรับไม่ไหว...
เนื้อหาของเรื่องราว...ทุกอย่างมุ่งไปในทางความคิดที่เบื่อหน่าย...ไม่อยากอยู่ในโลกนี้ต่อไป...
อืม...เป็นครั้งที่สองที่ได้พบความคิดแบบนี้กับคนๆเดียวกัน...
การสนทนา เป็นไปด้วยไมตรีจิต...
ผมรับฟัง ฟัง ฟัง และกระตุ้นให้เขาพูดและพูด ปลดปล่อยเรื่องราวทุกๆอย่างที่แน่น จุกอยู่ทีความคิด ความรู้สึก...
และก็น่าจะได้ผล...น้ำตาน่าจะสื่อถึงความอัดอั้นความทุกข์ในใจ..ถ้าวัดปริมาณของน้ำตาที่ออกมา..ความทุกที่ออกมานั้นน่าจะมากมายจริงๆ....
ผมประมวลการสื่อสารได้ให้ไปได้ดังนี้...
สวัสดีครับ...ขอบคุณนะครับที่มาหาหมอวันนี้...
เป็นสิ่งที่ดีมากๆนะครับที่ได้เล่าเรื่องราวความทุกข์ให้ได้รับรู้...
สิ่งที่เกิดขึ้น และสิ่งที่เราได้กระทำไป ต่อเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นนั้น ทำได้ดีที่สุดแล้ว ต้องชื่นชมตนเอง
...
อภัยให้กับผู้คน...
เริ่มต้นด้วยใจที่เข้มแข็ง เบิกบาน..ก้าวเดินต่อไป กับชีวิตนี้...
ผมเชื่อว่า..เขาจะดีขึ้นครับ..^_^
โห...เห็นใจคุณหมอจริงๆที่ก้าวเข้าไปในชีวิตของคนไข้อย่างละเอียดยิบ แล้วกี่คนล่ะ... พี่ว่าหากเป็นคุณหมอในเมืองใหญ่ๆคงไม่มีโอกาสทำเช่นนั้นหรอกครับ มิใช่ว่าคุณหมอไม่อยากทำ แต่ปริมาณคนไข้มากมายต่างหากที่ต้องเฉลี่ยเวลาให้กับคนไข้คนอื่นๆด้วย..
ขอบคุณน้องหมอ และคุณหมอทุกท่านด้วยครับ
- น้อยนักที่จะมีเวลาพูดคุยเรื่อง จิตใจ
แต่หากเข้าถึงเรื่อง จิตใจ นับว่าเยี่ยมยอดทีเดียวค่ะ "การบริการด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์"
สวัสดีครับพี่ บางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)
ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมเสมอๆ
ผมยังไม่ได้ขอบคุณอย่างเป็นทางการเรื่องคำแนะนำพี่กระท้อนเลยครับ
ความเห็นพี่นั้นเป็นกำลังใจที่หนุนเสริมห้การกระทำเล็กๆนั้นมีค่ายิ่งๆขึ้นมากครับ
จริงๆในเนื้อหามีมากมายครับเกือบชั่วโมง
พอดีเป็นการคุยกันที่คลินิกครับ
จะมีเวลาผมจะเปิดโอกาสกับตนเองและคนไข้เต็มที่ครับ
ที่โรงพยาบาลก็เช่นกันครับ ถ้าดูแล้วต้องคุยต้องสื่อก็ต้องทำครับ มิเช่นนนั้นวันหลังก็ต้องทำ...
การเยียวยาจิตใจบางครั้งก็จำเป็นมากนะคะ เพราะบางทีร่างกายไม่ยอมหายจาำกไม่สบายเลย ถ้าจิตใจยังไม่หาย
พี่ว่าน้องหมอช่วยผู้ป่วยคนนี้ไว้ได้มากเลยนะคะ อนุโมทนานะคะ
ธรรมรักษาค่ะ ^ ^
สวัสดีครับอาจารย์