มะเร็งลำใส้ใหญ่ ระยะที่ ๓


การดูแลผู้ป่วยมะเร็งลำใส้ใหญ่ระยะที ๓

   จากการที่ผู้เขียนพูดคุยกับแม่ให้เห็นข้อดีข้อเสีย สร้างแรงจูงใจทางบวก โดยอาจใช้คำพูดที่อาจดูรุนแรงและให้แม่มองเห็นอนาคตที่ดีและรับรู้ความจริงว่าโรคมะเร็งคืออะไร ทำให้แม่ยอมรับการรักษาทางวิทยาศาสตร์ แล้วต้องเลือกว่าจะรักษาที่ไหน อย่างไร แม่รับรู้หมดแล้วจากที่ผู้เขียนอธิบายและพูดคุยกับแม่ สุดท้ายต้องรักษาที่ โรงพยาบาลศิริราช แต่ลูกทุกคนต้องลำบากในการเดินทางค่าใช้จ่ายย่อมสูง คงเป็นสิ่งนี้กระมังที่แม่ไม่อยากไปรักษา ตอนนั้น สามสิบบาทก็ยังไม่มี แต่ลูกๆทุกคนพูดคุยกันใครมีมากก็ช่วยมาก ใครมีน้อยก็แล้วแต่ให้กำลังใจกับแม่ก็ยังดี ด้วยความเป็นหนึ่งเดียวของลูกๆและการปรึกษาหารือกันอยู่เสมอทำให้รู้สึกว่า การดูแลแม่ครั้งนี้ลูกๆทุกคนได้ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่  

     เมื่อถึงโรงพยาบาลประมาณกลางเดือมิถุนายน ๔๓ สิ่งที่ต้องทำก็คือต้องนอนรอที่โรงพยาบาลเกือบครึ่งเดือนรอหมอ หาห้อง ทำกระบวนการอีกเกือบเดือนและเราคนบ้านนอกยิ่งไม่รู้จักใครยิ่งมืดมนในกระบวนการและขั้นตอนแต่เราก็โชคดีจะด้วยอานิสงค์อะไรก็ช่างมีหมอที่ดูแลแม่ที่อุบล แนะนำผ่านอาจารย์หมอที่ศิริราชในการดูแลทำให้มีหวังได้รักษาตามขั้นตอนเร็วขึ้น(แต่จำชื่อหมอสองท่านไม่ได้จริงๆ) เมื่อได้ห้องวันนัดผ่าตัดแม่ก็ยังดูแข็งแรงสดชื่นอยู่ดูว่ามีกำลังใจสู้และไม่ยอมจำนนต่อโรคร้าย

      เป็นช่วงเดียวกับที่แม่มีคำพูดว่าแม่อาจไม่มีโอกาสกลับมาหาลูกๆอีกนะในการไปรักษาครั้งนี้ เราอาจไม่มีอะไรเหลือทั้งที่หาเก็บออมมาทั้งชีวิต ลูกๆก็ได้แต่บอกแม่ว่าเสียเท่าไรก็เสียแม้ว่ารักษาแม่แล้วจะอยู่ได้นานหรือไม่ก็ตาม(เพราะน้องชายแม่เป็นเร็งลำใส้ตายก่อนแม่ประมาณ สี่ ห้าเดือนผ่าตัดก็ตายกลับมาอยู่บ้านไม่กี่เดือนอายุ๖๐ ปี )  แต่ลูกๆก็คิดว่าอยู่ได้เท่าไหร่ก็คือกำไรแม้จะเป็นการลงทุนครั้งสุดท้ายกับแม่ ทำให้ลูกๆทุกคนมีความหวัง ซึ่งช่วงนี้ก็ยังเข้าออกโรงพยาบาลอยู่เพราะรอหมอรอห้อง

      ก่อนแม่จะผ่าตัดผู้เขียนได้ตั้งใจที่จะบวชให้เจ้ากรรมนายเวรในฐานะลูกชายคนเดียวและคงเป็นสิ่งเดียวที่จะทำให้แม่(เพราะยังไม่เคยบวช)ซึ่งเป็นช่วงเข้าพรรษาพอดี เลยลาราชการบวชหนึ่งพรรษา วันบวชก็ไม่ได้บอกใครถึงเวลาก็เข้าวัดโกนหัวมีพ่อแม่พี่น้องสักสิบคน สิ่งที่ผู้เขียนตั้งใจอย่างยิ่งคือต้องการผลบุญครั้งนี้ส่งผลให้แม่หายเร็ววัน ด้วยความดีใจที่แม่ไม่เคยคิดว่าลูกชายจะบวชเพราะยังไม่เคยคิดสักครั้ง คำหนึ่งที่แม่พูด คือแม่คงตายตาหลับได้เห็นชายผ้าเหลืองของลูก เพราะพอบชเสร็จเย็นวันนั้นแม่ก็เดินทางเข้ากรุงเทพเตรียมผ่าตัด สิ่งที่ผู้เขียนบอแม่ได้ก็คือลูกตั้งใจบวชเพื่อแม่ ให้แม่มีกำลังใจ ผู้เขียนบอกแม่ว่าจะฉันวันละครั้ง เพราะลาบวช ๙๙ วัน และจะสวดคาถาชินบัญชร วันละ ๓ จบ ให้แม่ทุกวัน(ยังมีต่อ ประสบการณ์ ที่บวช ใช้คำพูดอย่างไร คนแก่จึงจะมีพลัง ต่อสู้)

 

หมายเลขบันทึก: 171324เขียนเมื่อ 17 มีนาคม 2008 15:59 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มีนาคม 2012 03:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อาจารย์ประจักษ์ครับ ผมขอเป็นกำลังให้คุณแม่ของอาจารย์หายจากมะเร็งร้าย

อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้ลูกๆ นานเท่าที่จะนานได้ ผมเพิ่งอ่านบล็อกของอาจารย์

ไม่ทราบว่า สถานการณ์ตอนนี้คุณแม่เป็นอย่างไรบ้าง และถือโอกาสขอบคุณอาจารย์ที่ช่วยเหลือเป็นธุระให้รู้จัก บล็อกนี้ เป็นประโยชน์มากครับ ขอบพระคุณอย่างสูง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท