กาลเวลานั่นแหละ ย่อมกินสรรพสิ่งอย่างรวมทั้งตัวของมันเอง ไมสนว่าเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน หลายครั้งเรามักพบกับความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด และย่อมเป็นเช่นนั้นเสมอ
เมื่อฤดูแห่งความเร่าร้อนมาถึง สิ่งหนึ่งที่มักพบบ่อย คือ ร้อนทั้งกายและใจ โดยเป็นผู้ที่มักถือโกรธง่าย หงุดหงิดฟุ้งซ่าน แปรปรวน ไม่หยุดนิ่ง นี้คือร้อนใจ
อีกอย่างคือสภาพที่เร่าร้อนแผดเผาจากแสงแดดและควันไฟ ย่อมเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งตัวของคนเราถูกเผาถูกกลืนไปด้วย จึงเป็นความเร่าร้อนทางกาย
เมื่อกายใจไม่ดี ทำให้วาจาไม่ดีด้วย เมื่อเป็นเช่นนี้ เรามักพบกับความประมาทในตนเอง ขาดการสำรวมระวัง ทางกายวาจา และจิตใจ จึงเป็นบ่อเกิดให้เรานั้น ประกอบอกุศลกรรมได้สะดวกขึ้น
เพราะจิตใจไม่นิ่ง กายจึงตามจิต ประพฤติผิดศีลธรรมได้ง่ายมากขึ้น จึงเรียกว่าเป็นความเร่าร้อน
แต่อนิจจา..โอ้เวรกรรม ฤดูร้อนนี้มันช่างโหดรน้ายอะไรเช่นนี้ ไม่เว้นแม้แต่นำแห้งขอด นำดื่มน้ำกินน้ำใช้หายากขาดแคลน โดยเฉพาะบางพื้นที่ โถ..น่าเอ็นดู บ่อนำลำธารแห้งขอดเลย พืชผักก็ขาดน้ำดื่มน้ำใช้ มันก็เหี่ยวเหมือนคนนี้แหละ เหี่ยวทั้งกายและใจรวมทั้งหน้าตา เหมือนคนในโลกนี้แหละ(เหมือนคนข้าง ๆ พวกเราท่าน)ก็ได้ อย่างงั้น
สิ่งเหล่านี้ เป็นฝีมือเราและธรรมชาติ เป็นอัญญะมัญญะปัจจัย หรือว่าจะถึงกาลเวลาที่มันดับสูญซะแล้ว
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเอาเวลามาเป็นของเราให้เป็นเวลาทั้งพระ ทั้งเพชร อย่าให้เป็นพิษหรือเป็นเพ้อมันไม่ดีแน่ ๆ
วันเวลามีค่ามหาศาล
อย่าให้ผ่านเราไปไร้ความหมาย
รีบทำงานในหน้าที่เต็มกำลัง
เสริมพลังให้สมบูรณ์ทั้งกายใจ
ผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต
อย่าหมั่นคิดใช้เวลาตามเป้าหมาย
ไม่ปล่อยให้เวลาว่างน่าเสียใด
เพราะเรียกคืนมาไม่ได้ตลอดกาล....
นี่เป็นปรัชญาข้อคิดเป็นมิตรสติเตือนใจ ขอความปรารถนาดีจงมีแด่ทุกท่านเอย
ธ.ฉันทะ
(กัลยาณมิตรผู้น่ารัก ขอธรรมจงรักษา ให้เกิดสติปัญญา นำพาทุกท่านพบสุขเอย)
ไม่มีความเห็น