1.ชันนะตุ
2.คราบชันนะตุเป็นแผ่นติดอยู่กลางกระหม่อม
3. นอนไม่หลับ
4. ปวดท้ายทอย
5. ปวดหัว
6.ปวดหัวจากความดันโลหิตสูง
7. ปวดหัวจากหวัด
8. ปวดหัวเพราะเครียด
9. ปวดหัวเรื้อรัง
10. ปวดหัวข้างเดียว
11. เป็นลม
12.เป็นลมเพราะอยู่ในที่อับ
13. เป็นลมจากอ่อนเพลีย, หัวข้าว, เมาเหล้า
14.เป็นลมเพราะสิ่งหวาดเสียว
15. เป็นลมนานเกินไป
16. หัวเป็นแผลเป็น
17. หัวโน
๑. ชันนะตุ
เกิดจากติดเชื้อรา หนังหัวเป็นตุ่มแผลพุพอง มีน้ำเหลืองไหล
สระผมเด็กทุกวันตอนเช้าด้วยสบู่ แล้วเอาน้ำมันมะพร้าวทาตรงชันนะตุทุกวัน เช้า-เย็น น้ำมันจะละลาย ชันนะตุจนหลุดออก
ใช้หัวขมิ้นชันตำผสมน้ำมะนาวทาทุกวันๆละ ๒-๓ ครั้ง
เอาขมิ้นขันขนาดเท่า ๒ ข้อนิ้วกลาง ๑ ชิ้น เนื้อมะพร้าวแก่ขนาดเท่านิ้วชี้ ๒ ชิ้น ใบมะลิ ๑ กำมือ ยาทั้งหมดตำรวมกันให้ละเอียด เอาน้ำยาที่ได้แต้มหัวชันนะตุวันละ ๒-๓ ครั้ง จะทำให้แผลตกสะเก็ดเร็ว ใช้สบู่สระผมเด็กทุกวันตอนเช้าด้วย
๒. คราบชันนะตุเป็นแผ่นติดอยู่กลางกระหม่อม
เด็กเล็กๆ ที่หัวเป็นชันนะตุตรงกลางกระหม่อน แล้วน้ำเหลืองจากชันนะตุนั้นแห้งกรังติดเป็นแผ่นอยู่กลางกระหม่อน ทำให้รักษายาก เพราะแผ่นแห้งนี้กันยาไว้ จะแกะออกก็ยากเพราะติดหนังหัวเด็ก เวลาแกะ จะเจ็บมาก วิธีเอาแผ่นนี้ออกคือสระผมเด็กด้วยสบู่เสียก่อน ฟอกนานๆ แล้วเอามันหมูแข็งทาตรงแผ่น แห้งนั้นให้ทั่ว ทิ้งไว้ ๒-๓ ชั่วโมง แผ่นแห้งนั้นจะเปียกชุ่มน้ำมันหลุดออกมาได้ แล้วรักษาแผลที่หัวด้วยยารักษาแผลทั่วไป อีกวิธีหนึ่งคือ ขูดมะพร้าวแล้วตำกับหัวขมิ้นชัน ทาที่คราบชันนะตุทำให้แผลหลุดได้เช่นกัน
๓. นอนไม่หลับ
โรคนอนไม่หลับนี้ควรจะพึ่งยาให้น้อยที่สุด หรือไม่ควรใช้เลย เพราะเป็นการฝืนธรรมชาติ และจะทำร้ายตัวเองในทีหลัง การออกกำลังกายและฝึกหัดใจให้สงบ อย่าคิดมากจะช่วยให้นอนหลับได้
ใช้ดอกบัวที่ใกล้บาน ๕ ดอก ใส่น้ำให้ท่วมยา ต้มให้เดือนนาน ๕-๑๐ นาที แล้วใส่น้ำตาลกรวดพอหวานกินครั้งละ ๑ แก้ว วันละ ๓-๔ ครั้ง
ใช้ยอดอ่อนของใบขี้เหล็กหรือดอกขี้เหล็กอ่อน ๑ กำมือ ต้องใช้สดๆ เก็บแล้วต้องรีบทำยาเลยโดยเอา เหล้าขาว ๔๐ ดีกรีใส่ลงไปพอท่วมยา ตั้งทิ้งไว้ ๗ วัน กินก่อนนอนครั้งละ ๑-๒ ช้อนชา (ยานี้ไม่มีอันตราย)
๔. ปวดท้ายทอย
แก้โดยวิธีนวดถ้าใครปวดศีรษะทางด้านหลังแถวท้ายทอย ถ้าปล่อยไว้ให้ปวดมากถึงกระตุก กินยาไม่บรรเทา ถ้าปวดข้างซ้ายหรือข้างขาวก็ให้ตัวเองงอเข่าข้างที่ท้ายทอยปวด แล้วใช้นิ้วหัวแม่มือกดลงตรงสันหน้าแข้งตั้งแต่ ใต้เข่าลงไปถึงหน้าแข้ง บีบคลำอยู่สัก ๔-๕ นาที โรคจะเบาโดยลำดับและหายไปโดยไม่รู้สึก
๕. ปวดหัว
มักเกิดจากการคิดมาก ขาดการออกกำลัง การอดนอน
เอาใบมะยมแก่ทั้งก้านและใบ ๑ กำมือ ต้มกับน้ำตาลกรวดกินต่างน้ำ
ให้ชงชาแก่ๆ อุ่นๆ บีบน้ำมะนาวครึ่งลูกลงไปแล้วดื่ม อยู่นิ่งสัก ๕ นาที
เอากาฝากมะม่วงทั้งต้น ต้มกินต่างน้ำ
เอาว่านหางจระเข้มาฝานเป็นแผ่นบางๆ เอาปูนแดงทาบางๆ ปะที่ขมับ หมั่นเปลี่ยนเมื่อรู้สึกร้อน
เอามะนาวมาฝานเป็นแว่นบางๆ เอาปูนแดงทาบางๆ แปะที่ขมับ หมั่นเปลี่ยนเมื่อรู้สึกร้อน
เอาขึ้นฉ่ายสดทั้งต้น ๑ กำมือ ตำคั้นเอาน้ำกิน (ให้ทำกินได้เพียงครั้งเดียว ห้ามทำกินซ้ำ เพราะจะทำ ให้ความดันลดลงมากเกินไป
เอาใบมะยมแก่ทั้งก้านและใบ ต้มกับน้ำตาลกรวดกินต่างน้ำ
ใช้กาฝากมะม่วงทั้งต้นต้มกินต่างน้ำ
๗. ปวดหัวจากหวัด
เอาหัวหอมกินกับข้าวสุก โดยซอยหัวหอมในน้ำจิ้มหรือทำยำ กินครั้งละ ๒-๓ หัวพร้อมอาหารหรือหั่นหัวหอม ๒ หัวชงกับน้ำร้อน ๑ แก้ว (๒๕๐ ซี.ซี.) เติมเกลือนิดหน่อยกินต่างน้ำ
๘. ปวดหัวเพราะเครียด
เอาผ้าชุบน้ำร้อนวางที่หลังคอ และนวดบริเวณคอ ไหล่ และร่องสะบัก และใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นค่อยๆคลึงที่ ขมับเบาๆ และใช้ผ้าชุบน้ำเย็นเช็คหน้าอีก
๙. ปวดหัวเรื้อรัง
คนที่ปวดหัวบ่อยๆ อาจเป็นเพราะมีโรคเรื้อรังประจำตัวหรือขาดอาหาร การกินอาหารให้ถูกต้องครบส่วน และนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยได้มาก เอาแกนขี้เหล็ก ผักเสี้ยนผี ต้นแมงลัก ตัวยาทั้ง ๓ อย่างนี้เอาหนักอย่างละเท่าๆ กันต้มกับน้ำ ๓ ส่วน เคี่ยวให้เหลือน้ำ ๑ ส่วน กินวันละ ๔-๕ ครั้งๆ ละครึ่งถึงหนึ่งแก้ว
๑๐. ปวดหัวข้างเดียว
กินกาแฟหรือชาแก่มากๆ ๑ แก้ว ให้นอนในที่มืดและเงียบ คลายกล้ามเนื้อทุกส่วน และพยายามทำจิตใจ ให้สงบอย่าครุ่นคิดถึงปัญหาใดๆ
เอาใบข่อยใบตำลึง ข้าวสารอย่างละ ๑ กำมือ ตำให้ละเอียดผสมน้ำพอเปียก เอาน้ำทาผมให้เปียก อยู่เสมอ ประมาณครึ่งชั่วโมงอาการปวดจะทุเลาขึ้น
ใช้รากบวบกลมหรือบวบเหลี่ยมสดหนัก ๑ ขีด (๑๐๐ กรัม) ต้มใส่น้ำเกลือกิน
๑๑. เป็นลม
คนที่เป็นลมง่ายส่วนใหญ่เป็นเพราะไม่ได้ออกกำลังกาย อดนอน กินน้อย ต้องแก้ไขสิ่งนี้ก่อน ขณะที่เป็นลม นั้นอย่าให้กินอะไรเข้าไป เพราะจะทำให้หายใจไม่ออก ลมวิงเวียนในคนสูงอายุ
เอาหัวและรากกระชายแก่ๆ หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้ง บดเป็นผงใส่ขวดไว้ ชงกินกับน้ำร้อน เหมือนกินยาหอม แก้โรคลมตีขึ้น มีอาการวิงเวียนศีรษะคล้ายจะเป็นลม อีกวิธีหนึ่งเอาหัวหอมและรากกระชายแก่ๆ หั่นเป็นแว่นบางๆ ตากแห้ง ชงน้ำแทนใบชา แก้ลมวิงเวียน หน้ามืด ตาลาย
ฝานเปลือกผลมะกรูดเป็นแผ่นบางๆ ชงน้ำเดือดใส่การบูรเล็กน้อย (ถ้าใส่มากจะขมและเผ็ดเกินไป) กินแก้ลมวิงเวียน
๒๐. เป็นลมเพราะอยู่ในที่อับ
ควรให้คนไข้นอนหงายกับพื้นเพื่อให้เลือดไปเลี้ยงสมองได้สะดวก ขยายเสื้อผ้าให้หลวม อย่าให้คนมุง แน่นจนขาดอากาศถ่ายเท แล้วตรวจดูในปากว่ามีอะไรอยู่ในลำคอหรือเปล่า บางครั้งคนแก่มักจะใส่ฟันปลอม
ให้ดมผิวมะกรูด เอาเล็บหยิกที่ผิวถลอกช่วยให้กลิ่นแรงขึ้น หรืออาจฝานเอาเฉพาะผิวบีบน้ำมันออกมาก็ได้
ฝานเอาเปลือกลูกมะนาว บีบให้มีน้ำมันออกมาให้คนป่วยสูดดม จากนั้นเอาเนื้อมะนาวจิ้มเกลือและน้ำตาล ให้คนป่วยอม ค่อยๆกลืนน้ำมะนาวลงไป จะช่วยแก้อาการวิงเวียนคลื่นไส้ได้
ให้ดมด้วยน้ำส้มสายชูแท้
๑๓. เป็นลมจากอ่อนเพลีย,
หัวข้าว, เมาเหล้า เอาน้ำตาลชนิดใดก็ได้หนึ่งช้อนแกง เกลือ ๑/๔ ช้อนชา ละลายน้ำร้อนหนึ่งแก้วกิน น้ำตาลจะช่วยเพิ่ม พลังงานและเกลือจะช่วยทดแทนเกลือที่หายไปกับเหงื่อ เมื่อฟื้นแล้วให้ดื่มน้ำมากๆ
๑๔. เป็นลมเพราะสิ่งหวาดเสียว
เมื่อเห็นสิ่งหวาดเสียว เช่น เห็นเลือดไหลออกมากๆ มีอาการหน้ามืด ใจหวิวๆ จะเป็นลมให้เอาน้ำ ตาลทราย ๑-๒ ช้อนชาใส่ปากอมไว้
๑๕. เป็นลมนานเกินไป
ถ้าหากเจอคนเป็นลมแล้วให้ดมยาอะไรก็ไม่ยอมฟื้นสักที ให้เอานิ้วหัวแม่โป้งจิกกด ดันที่ใต้จมูก แรงๆไม่ต้องกลัวคนไข้เจ็บ
ให้เอาดีปลาน้ำจืดชนิดใดก็ได้มาทาบริเวณที่ผมไม่ขึ้น แต่จะต้องสระผมให้สะอาดเสียก่อนทาวันละ ๒ ครั้ง เช้า-เย็น ประมาณ ๗-๑๐ วัน ผมจะเริ่มขึ้น
เอาหัวขิงสดๆหั่นเป็นแว่นบางๆ ทาถูบริเวณที่เป็นแผลเป็นวันละ ๒ ครั้ง เช้า-เย็น ประมาณ ๗-๑๐ วัน ผมจะเริ่มขึ้น
ใช้ดอกอัญชันสดขยี้ทาบริเวณแผลเป็นวันละ ๒ ครั้ง เช้าและเย็น
๑๗. หัวโน
เอาดินสอพองหรือแป้งทาตัวเด็กผสมกับน้ำมะนาวให้พอเหลว พอกตรงที่ใน ปล่อยทิ้งไว้ ๖ ชั่วโมง จึงเปลี่ยน ยานี้ถ้ารีบทำใหม่ๆ จะเห็นผลชัดมา
หวัดดีจ้ะหนูเล็ก
พี่เปิดบล็อก เพื่อนสุขภาพ ของหนูเล็กอ่นแล้วมีประโยชน์มาก ขยันอ่าน เก่งจริงๆจ้ะ ขอเป็นกำลังใจให้นะจ๊ะ