หมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ
พ.ญ. ศิริรัตน์ เอกศิลป์ สุวันทโรจน์

25 มีนาคม 2551: อาหารในโลกกว้าง


ที่อ๋อก็เพราะ เริ่มเข้าใจว่า ที่เราคุยกับเขา เขาไม่ได้ฟังเรา ใจเขายังฟังอยู่ที่คำพูดของ organizer และตัวเขาเอง ดังนั้นจะสื่อสารกันกี่ครั้งก็จะไม่รู้เรื่อง

25 มีนาคม 2551

 

ด้วยเช้าวันนี้    ผู้จัดนัดหมายว่า จะเริ่มกิจกรรม 9.00 น.  น้องตากับฉันพากันนอนหวดอยู่บนเตียงจน 7 โมงครึ่ง จึงลุกขึ้นขัดสีฉวีวรรณกัน   ฉันตื่นมาตั้งแต่ 6 โมงเช้า  เข้าห้องน้ำแล้วมานอนหวดต่อ แต่ไม่ได้หลับ  หยิบหนังสือที่ผู้จัดให้มาเปิดอ่านใหม่อีกรอบ  เล่มที่หยิบมาอ่านเป็น วารสาร ส.ค.ส.  ชื่อ ถักทอ สายใยแห่งความรู้  ที่ลงบทความถอดบทเรียนจากโปรแกรม IOCS ( Intelligent  Organization  Coaching Service )  ไว้ให้อ่าน   โปรแกรมที่ว่านี้เพิ่งจัดไป 1 รุ่น มี 4 องค์กร เข้าร่วม  อ่านแล้วเหมือนคุ้นๆกับกิจกรรมที่ผู้ได้เข้าร่วมโปรแกรมเล่าไว้    ดูเหมือนกิจกรรมในโปรแกรมนี้หลายอย่างคล้ายกับกิจกรรมที่ผ่านมาเมื่อวานนี้  จะไม่เหมือนก็ตรงเงื่อนเวลาที่จัด  และในโปรแกรม  IOCS มีกิจกรรมการศึกษาดูงานนอกสถานที่อยู่เยอะมาก  ทำให้โปรแกรม IOCS   ต้องใช้เวลามากถึง 10 วัน

  

วันนี้ โรงแรมให้เรากินอาหารเช้าแบบบุพเฟ่ห์  ในห้องอาหารอีกแห่งหนึ่งที่ชั้น 2   คงเป็นเพราะวันนี้มีคนมาเข้า class เยอะขึ้น ทุกคนพักที่นี่ ยกเว้นน้องแนท หนุ่มน้อยอายุ 30 ปีเศษ จากสสส. ที่ไป-กลับทุกวัน เพราะบ้านอยู่ใกล้ศาลายา  หนุ่มน้อยคนนี้จับคู่กับฉัน ทำกิจกรรมเกมกระจก ถึงแม้ว่าน้องแนทจะไม่ได้พักที่โรงแรม   น้องแนทก็ต้องจ่ายค่าเข้า class เท่ากับคนอื่น   ผู้จัดแซวเธอว่า  เคยเชิญมาอบรมฟรีไม่มา  แต่พอให้เสียเงินก็รีบติดต่อมา   น่าแปลกคน   ถ้าใครสนใจว่าเกมกระจก ทำอย่างไร  แนะนำให้ลองแวะอ่านได้ที่  Blog  Play & Play ของน้องอ้อม   

ห้องอาหารชั้น 2 นี้ดูใหม่  สว่างตาดี  แต่ว่าไม่หวานสวยเท่าห้องอาหารเช้าเมื่อวาน  เขาจัดวางพื้นที่ห้องนี้ด้วยรูปตัว L  ขาสั้น   ตัวบาร์ที่วางอาหารจัดวางไว้กลางห้องตามแนวขายาวของตัว L    ส่วนของขาสั้นทั้งหมด วางโต๊ะไว้ให้นั่งกิน  โต๊ะส่วนใหญ่นั่งได้ไม่เกิน 4 คน  ห้องนี้มีความเหมือนกับห้องอาหารเก่าตรงที่มีการวาดลวดลายไว้บนผนังห้องให้จินตนาการเหมือนกัน   ฝาผนังที่นี่วาดรูปเหล็กดัดไว้ ดูแล้วเป็นเงาเหมือนเงาเหล็กดัดที่ติดไว้ตรงหลังคาบ้านเป็นกันสาด   สีฝาผนังเป็นสีขาว เงาภาพใช้โทนสีเทาๆ   ทั้งห้องสว่างมาก   มีพื้นที่ครัวด้วย เป็นมุมเล็กๆจัดวางไว้ที่มุมของตัว L  สั่งข้าวต้ม และโจ๊กได้ที่นี่   ตรงนี้ใช้ทอดไข่ดาวไปด้วย   เชฟที่นี่อ้วน   เวลาทอดไข่ดาว ใส่น้ำมันเยอะมาก   แอบเห็นว่าไข่ 1 ฟองใส่น้ำมันตั้ง 2 ช้อนโต๊ะในพิมพ์ไข่ที่ใช้ทอด   ทอดฟองหนึ่งเสร็จ ฟองต่อไปก็เติมน้ำมันในพิมพ์อีก    ชามข้าวต้มที่นี่ใหญ่มาก เส้นผ่าศูนย์กลางราวกระดาษ A4 ลบ 1  นิ้ว  ลึกราว 6 นิ้ว  เวลาใส่ข้าวต้ม  เชฟจะใส่ให้ราว 3 ทัพพีใหญ่   เลือกใส่หมู   ไก่  กุ้ง ปลาหมึก  ได้ทั้งนั้น   

   

เมนูเช้านี้ มีข้าวผัดใส่แครอท    ขนมปังแผ่น-ก้อน  ครัวซอง  แยม  น้ำผลไม้มีน้ำมะเขือเทศ  น้ำสับปะรด  น้ำส้ม  นม  น้ำเปล่า  ชา-กาแฟ    เบคอน   มันฝรั่งบดอบ   แฮม  สลัด  ไข่ดาว  ผลไม้   ฉันเลือกกินข้าวผัดกับผักสลัด   ไข่ดาว 1 ฟอง  ชา 1 แก้ว   ผลไม้ 4 ชิ้น   และข้าวต้ม 1 ถ้วย  

  

ถ้าจำไม่ผิดที่นี่มีหลักสูตรสอนการโรงแรมด้วย   เมื่อวานถามพนักงานที่หน้าห้องประชุม  เขาบอกว่า ช่วงนี้นักศึกษาหยุดเทอม จะไม่ใคร่มีนักศึกษามาทำงาน แต่วันนี้เห็นพนักงานในห้องอาหารมีนักศึกษาด้วย   นักศึกษาที่มาทำงานใช้เครื่องแบบเฉพาะ   สีสันดูดี   ใช้โทนเขียวมาแต่งอีกแล้ว   เพราะเครื่องแต่งกายแตกต่างจาก staff  จึงสังเกตง่าย  staff ที่นี่ใส่สูทสีเข้มเหมือนพนักงานโรงแรมทั่วไป 

  

นอกจาก class เรา มีกลุ่มอื่นมากินด้วย  มีนักเรียนต่างชาติมากินให้เห็นตัวบ้าง  เรากินอิ่มกันแล้วก็ตามคนอื่นๆไปที่ห้องประชุม    ตอนนั้น 4 สาวของฉันอิ่มและลุกกันไปก่อนแล้ว  คนมาเข้าประชุมหลายคนก็ลุกไปแล้ว สังเกตว่า พี่ติ๋มสวยมีคนห้อมล้อมอยู่หลายคนอีกแล้ว   ก่อนจะลุกไป น้องอินกับฝนเพิ่งพากันเข้ามากินอาหารเช้า  ตอนนั้นมีคนอยู่ในห้องอาหารราว 4-5 คน   

  

น้องแนท หนุ่มหล่อจากสสส.  และ น้องฝน สาวน้อยสวยหวาน จากเซ็นทรัลพัฒนา

แนทและฝน

เมื่ออยู่ที่กระบี่ เราตกลงกันว่า  จะกลับในเช้าของวันที่ 27 มี.ค. 2551  โดยตั้งใจว่าเมื่ออบรมเสร็จในวันสุดท้าย เราจะค้างคืนต่ออีกคืนที่นี่   ฉันจึงแวะไปที่ล็อบบี๊  เพื่อสอบถามว่า เมื่อวานนี้ฉันย้ายมานอนกับน้องตา คืนห้องเดิมไป  ส่วนของค่าห้องที่ต้องจ่าย  ฉันจะรวบจ่ายวันกลับเลยได้ไหม   แวะไปถามกี่ครั้งๆ   เจ้าหน้าที่ตอบกลับมาเหมือนเดิมทุกครั้งว่า  ให้ถาม organizer   ฉันก็เริ่มงงๆอีกแล้ว   มาอ๋อกับคำตอบสุดท้ายเมื่อได้ยินว่า  organizer แจ้งว่าจะรับผิดชอบค่าห้องให้เอง  ยกเว้นวันที่ 23  วันเดียว ค่าห้องให้คุณจ่ายเป็นวันๆ    ที่อ๋อก็เพราะ เริ่มเข้าใจว่า ที่เราคุยกับเขา เขาไม่ได้ฟังเรา  ใจเขายังฟังอยู่ที่คำพูดของ organizer  และตัวเขาเอง  ดังนั้นจะสื่อสารกันกี่ครั้งก็จะไม่รู้เรื่อง  เราไปคิดคำพูดใหม่ก่อนมาคุย แล้วมาลองใหม่ดีกว่า    และแล้วก็ไม่ได้มาคุยเพราะไปคิดใหม่ว่า  ถ้าจะให้เช้าวันเดินทางกลับ เดินทางสบายๆไม่ต้องรีบร้อน น่าจะย้ายไปนอนใกล้ดอนเมืองดีกว่า    จึงไปทำความตกลงกับ 4 สาว  ได้ความเห็นพ้องกันว่า ย้ายแหละดี   ไม่อยากนอนต่อที่นี่แล้ว

  

เมื่อวานนี้ ลืมบันทึกว่า  อาจารย์ประพนธ์ ผาสุกยึด  มาร่วมสังเกต class ด้วย ก่อนเลิกกันไปเข้านอน  อาจารย์ได้ช่วยทำกิจกรรม wrap up  ให้กับ class

ประพนธ์

หมายเลขบันทึก: 174680เขียนเมื่อ 2 เมษายน 2008 00:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 18:54 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท