เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้วจริงหรือเนี่ย... บันทึกของครูน้อยในเดือนที่เจ็ด มีนาคม 2551
สวัสดีค่ะ ครูใหญ่
ขออภัยที่เดือนนี้ส่งงานช้าอีกแล้วค่ะ รอคุยเรื่องรายละเอียดงานวิจัย (Independent Study) กับท่านอาจารย์ผู้ดูแลอยู่ จะได้มีอะไรมาเขียนสรุปเพิ่มเติมเพื่อจะได้เป็นประโยชน์กับผู้ที่สนใจในเรื่องการหาหัวข้อทำวิจัยค่ะ คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นอีกมุมมองหนึ่งที่น่าศึกษาวิธีการอยู่เหมือนกันทีเดียว
ขออนุญาตเริ่มกันเลยนะคะ
วิธีการหาหัวข้อทำวิจัย Independent Study
ü เท้าความกันก่อนนิดหนึ่งนะคะ อย่างที่เคยเรียนให้ครูใหญ่ทราบไปครั้งหนึ่ง ว่าทาง Professor Calantone ที่เป็นผู้สอนวิชา Marketing Strategy ในเทอมที่แล้ว ได้ตอบรับเป็นผู้ดูแลโครงงานวิจัยในวิชา Independent Study ให้ครูน้อย โดยที่ครูน้อยจะกลับไปทำ Field Study ที่เมืองไทยในช่วงปิดภาคฤดูร้อน
ü ดังนั้น สิ่งที่ต้องทำในเทอมนี้ ก็คือการนำเสนอหัวข้อและรายละเอียดโครงงานวิจัย จากนั้นอาจารย์จะแนะนำรายชื่อหนังสือหรือบทความที่จะต้องไปอ่านเพิ่มเติม และเริ่มเขียนบทความในลักษณะเพื่อส่งตีพิมพ์ (อีกแล้ว) ให้เสร็จในส่วนทฤษฎี และออกแบบเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยให้เสร็จ ก่อนกลับไปเก็บข้อมูลวิจัยในช่วงปิดภาคฤดูร้อนค่ะ หลังจากนั้น เมื่อเก็บข้อมูลวิจัยได้แล้ว ก็จะเข้าสู่การประมวลผลและเขียนสรุป ซึ่งสามารถนำกลับมาทำต่อในเทอมถัดไปได้
ü ในขั้นตอนแรกนี้ ครูน้อยก็ได้นัดหมายเข้าพูดคุยกับอาจารย์ค่ะ และในการพูดคุยครั้งแรกนั้น ก็มีรายละเอียดที่น่าสนใจดังนี้ค่ะ
· เริ่มแรกอาจารย์อธิบายให้ครูน้อยฟังก่อนว่า การหาหัวข้อวิจัยทำได้หลายวิธี ครูน้อยจะเสนอมาก็ได้ หรืออาจารย์จะเสนอให้ฟังก็ได้ แต่จริงๆ แล้ว เพื่อจะให้ได้หัวข้อที่สามารถทำได้แบบสนุก น่าสนใจ และมีความสุขที่ได้ทำงานนี้ด้วยกันทั้งสองฝ่าย เราควรจะคุยปรึกษากันให้ดีๆ ก่อนเพื่อหาหัวข้อที่ถูกใจร่วมกัน ซึ่งครูน้อยยอมรับว่า อาจารย์ใช้คำพูดได้ดีมากค่ะ และใช้เวลาอธิบายช่วงนี้นานมาก
· จากนั้น อาจารย์ก็เล่าให้ฟังถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่ท่านเคยทำ เป็นเรื่องของการทำ Global Branding/Global Marketing Strategy และท่านได้เปิดวารสารฉบับหนึ่งที่เพิ่งจะตีพิมพ์งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งเขียนโดยเพื่อนของท่านเองในหัวข้อเรื่องเดียวกัน แต่ใช้ทฤษฎีทางด้านเศรษฐศาสตร์เข้าวิเคราะห์ แทนที่จะเป็นทางด้านการตลาดหรือกลยุทธ์
· ตัวอย่างที่ท่านยกมานี้ โดยการเขียนขึ้นกระดานอธิบายให้ครูน้อยเห็นถึง parameters ที่เป็นตัวแปรที่แตกต่างกันของสองทฤษฎี แต่สามารถอธิบายในเรื่องเดียวกันได้ จากนั้น ท่านก็ยกตัวอย่างงานวิจัยอีกสองชิ้น ที่มีลักษณะเดียวกัน คือที่มาจากสองทาง แต่อธิบายหัวข้อเรื่องทำนองเดียวกันได้
· และสุดท้าย ท่านก็สรุปให้ฟังว่า ที่ยกมานี้ก็เพื่อต้องการให้ครูน้อยเห็นว่า ในการทำวิจัยเรื่องหนึ่งๆ เราอาจจะเลือกได้จากหลากหลายมุมมอง อย่างเช่น ครูน้อยเรียนด้านกลยุทธ์ ก็อาจจะใช้ทฤษฎีด้านกลยุทธ์ในการทำวิจัยหัวข้อด้านการตลาด หรือในทางกลับกัน อาจจะใช้ความรู้ด้านการตลาดทำวิจัยห้วข้อด้านกลยุทธ์ หรือจะใช้ให้ตรงสาขาก็ได้อีกเช่นกัน ทั้งหมดนี้ เป็นสิ่งที่น่าสนใจในการทำวิจัย ซึ่งท่านอยากให้ครูน้อยทราบก่อนที่จะตัดสินในเรื่องหัวข้อและเนื้องานที่จะทำ
· จากนั้น ท่านก็เปลี่ยนหัวข้อสนทนาค่ะ ท่านถามว่า ครูน้อยคิดว่ารถยี่ห้อ Mercedez Benz เป็นอย่างไร คิดว่าเป็นคนประเภทไหนจะขับรถยี่ห้อนี้ ซึ่งครูน้อยขอไม่เขียนลงในนี้นะคะ เพราะเป็นความเห็นส่วนตัว แต่บอกได้ว่าความเห็นของครูน้อยทำให้อาจารย์หัวเราะก๊ากเลยค่ะ จากนั้น อาจารย์ก็ถามไล่ไปเรื่อยๆ ตั้งแต่ Toyota, Landrover, Ferrari, Chevrolet, และอื่นๆ และก็พูดคุยเรื่อง brand perception ของคนที่ต่อรถยี่ห้อต่างๆ ในอเมริกา ยุโรป และเอเชีย
· จากนั้น ท่านก็สรุปให้ฟังว่า จากการตอบคำถามของครูน้อย ที่มีต่อคำถามข้างต้น การแสดงความคิดเห็นที่เร็วมาก (คือถามปุ๊บ ตอบปั๊บ ไม่ต้องหยุดคิด และอธิบายได้ทันทีว่าเป็นเพราะเหตุผลใดจึงคิดเช่นนั้น มีข้อมูลประกอบแน่นหนา) ทำให้ท่านทราบว่า ครูน้อยเป็นคนที่มี strong opinion ในเรื่องต่างๆ ค่อนข้างมาก ซึ่งจะแตกต่างกับเด็กที่เพิ่งเรียนจบใหม่ๆ เพราะในบรรดานักศึกษาปริญญาเอกปีหนึ่ง จะแบ่งเป็นสองกลุ่มค่อนข้างชัดเจน คือผู้ที่เรียนจบตรีและเข้าเรียนเอกเลย และผู้ที่ทำงานมาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งบางคนก็ยาวนานเป็นสิบกว่ายี่สิบปีกันเลยทีเดียว
· ดังนั้น ท่านจะคิดว่า โครงงานวิจัยที่เหมาะกับครูน้อย น่าจะเป็นด้านที่ค่อนข้างมีความเป็น qualitative มากกว่า quantitative แต่ทั้งนี้ ท่านไม่ได้ปิดกั้นหากครูน้อยจะเลือกทำทางด้าน quantitative ล้วนๆ โดยท่านได้ยกตัวอย่างงานวิจัยที่เป็น quantitative เช่น การหาปัจจัยต่างๆ ที่ทำให้เกิดผลกระทบกับราคาหุ้นจากการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัท หรือจากการเปลี่ยนตัว CEO หรือเปลี่ยนกลยุทธ์ด้าน Innovation ซึ่งจะเป็นการวิเคราะห์จาก database ของตลาดหลักทรัพย์เป็นส่วนใหญ่
· ลักษณะการทำงานวิจัยแบบที่ต้องอยู่กับตัวเลขและหาความสัมพันธ์แบบนี้ ครูน้อยเคยผ่านตา และเคยพูดคุยกับคนทำและเคยฟังจากงานวิจัยของเหล่า candidates ที่มาสมัครเป็นอาจารย์ที่นี่อยู่บ้างค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ลักษณะงานวิจัยที่ตนเองชอบเท่าไหร่นัก เพราะรู้สึกว่มันดูห่างไกลจากข้อเท็จจริง เหมือนเป็นการเล่นกับตัวเลขและสถิติมากกว่า อะไรที่อธิบายไม่ได้ ก็ใส่เป็น Control Variable เข้าไว้ ทำให้คิดว่าการวิจัยที่เป็นลักษณะนี้ คงไม่เหมาะกับเราในเวลานี้เช่นกัน ครูน้อยจึงได้ตอบอาจารย์ไปว่าเห็นด้วยกับท่านค่ะ
· จากนั้น อาจารย์จึงเริ่มถามครูน้อยว่า สนใจอยากทำหัวข้อด้านใดเป็นพิเศษหรือไม่ โดยอาจารย์ให้เลือกมาสามหัวข้อค่ะ
· ครูน้อยจึงได้เสนอเรื่องเกี่ยวกับ Knowledge Transfer ภายในองค์กร ข้ามองค์กร (แบบใน Network เช่นระหว่างบริษัทและบริษัทคู่ค้า) และข้ามประเทศ (หรือข้ามกลุ่มวัฒนธรรม ในแง่ Cultural Dimensions) ซึ่งอาจารย์ก็คิดว่าในหัวข้อเรื่องสุดท้าย น่าจะมีความเป็นไปได้ ทั้งในแง่การได้ตีพิมพ์และการนำเสนอทฤษฎีใหม่ๆ ที่น่าสนใจด้วย
· จากนั้น ท่านได้ยกตัวอย่างถึงการเก็บข้อมูลจากบริษัท ครูน้อยจึงได้ยกตัวอย่างงานของบริษัทที่ได้เคยทำงานมา ซึ่งเป็นบริษัทที่มีสำนักงานใหญ่ในไทย และมีสำนักงานสาขาในต่างประเทศ ซึ่งท่านก็เห็นว่าน่าจะใช้ในการเก็บข้อมูลวิจัยได้ค่ะ เรื่องนี้ ครูน้อยคงต้องไปขอความกรุณาจากเจ้านายเก่าผู้มีพระคุณอีกแล้ว ซึ่งจริงๆ ท่านก็ได้เคยเกริ่นๆ ไว้บ้างเหมือนกัน ว่ายินดีให้มาเก็บข้อมูลได้ ตอนที่ครูน้อยไปเยี่ยมสวัสดีปีใหม่เมื่อตอนช่วงปิดเทอมที่ผ่านมา
· อย่างไรก็ดี อาจารย์ต้องการให้ครูน้อยเก็บข้อมูลจากบริษัทที่ไม่ได้เป็น multinational ด้วยอีกสักสองสามบริษัทในไทย แต่อยู่ในธุรกิจเดียวกัน คือธุรกิจบริการสื่อสารโทรคมนาคม ซึ่งตรงจุดนี้ ครูน้อยก็มีคิดๆ ไว้บ้างแล้วค่ะ เพราะเคยอยู่ในแวดวง แต่หากครูใหญ่มีความคิดเห็นหรือข้อแนะนำใดๆ ครูน้อยก็ต้องขอความกรุณาด้วยนะคะ
· ช่วงสุดท้าย ท่านก็มีให้งานอ่านมาเพิ่มเติมและให้ครูน้อยเลือกหาบทความวิจัยมาเสนอด้วย โดยให้ครูน้อยส่งรายชื่อของบทความให้ด้วยก่อนการพูดคุยครั้งถัดไป เพื่อที่ท่านจะได้ช่วยอ่านก่อนที่จะพูดคุยและมาปรึกษากันได้อย่างต่อเนื่อง อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความประทับใจเหมือนกันค่ะ
ตอนนี้ก็อยู่ในช่วงใกล้สรุปหัวข้อแล้วค่ะ คิดว่าสิ้นเดือนหน้า คงมาพูดคุยเรื่องหัวข้อให้ฟังได้เลย จากนั้น ก็จะปิดเทอมฤดูร้อนแล้ว ครูน้อยก็จะได้กลับบ้านเราอีกครั้งหนึ่ง จริงๆ ก็อยากจะเล่าเพิ่มเติมเรื่องการทำรายงานในวิชา Seminar in Organizational Behavior และเทคนิคการเรียนการสอนของวิชานี้ ซึ่งมีเพิ่มเติมจากที่เล่าไปคราวที่แล้วอีก ก็ขอเก็บไว้เล่าตอนปิดเทอมบ้างละกันนะคะ
จบแล้วค่ะบันทึกในเดือนมีนาคม ฤดูใบไม้ผลิมาเยือนแล้วค่ะที่เมืองนี้ แต่ยังหนาวมากอยู่เลย เมืองไทยตอนนี้คงร้อนจนแทบทนไม่ได้เลยใช่ไหมคะ แต่ถึงจะร้อนอย่างไร ครูน้อยก็ยังอยากกลับบ้านเราที่สุดเลยค่ะ
แล้วเจอกันเดือนหน้านะคะ สวัสดีค่ะ.....
ครูน้อยมีความหลักแหลมในการพูดคุยและเปิดโอกาสรับฟังจากผู้ทรงคุณวุฒิ เติ้ลได้เรียนรู้เยอะเลยค่ะวันนี้เรื่องการ "หาหัวข้อทำวิจัย" ซึงตรงกับช่วงเวลานี้กำลังต้องการความรู้ด้านนี้พอดิบพอดี