วันจันทร์ที่ ๒๕ มิถุนายน ๒๕๕๐ ตื่นเวลา ๐๓.๓๐ น.อาบน้ำแต่งตัว รถตู้ของโรงเรียนอนุราชประสิทธิ์ นนทบุรีมารับเวลา ๐๔.๐๐ น. ไปส่งที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเป็นรายการศึกษาดูงานตามโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงเพื่อรองรับการกระจายอำนาจ ที่สถาบันพัฒนาครู คณาจารย์และบุคลากรทางการศึกษา เป็นเจ้าภาพ คณะส่วนใหญ่พร้อมแล้วที่ชั้น ๔ ประตู ๓ แถว D เคาน์เตอร์สายการบินไทย บริษัทเพชราภรณ์ กรุ๊ป แทรเวล จำกัด ส่งเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวก หลังรับหนังสือเดินทางและบัตรโดยสารแล้ว ผมไปแลกเงินหยวนและเงินฮ่องกงให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายครั้งนี้ ไปทานข้าวเช้ากับ ผ.อ.เขต อีก ๓ ท่านที่ศูนย์อาหารของสนามบิน ๐๗.๓๐ น. Check In ขึ้นเครื่องการบินไทย TG ๖๐๐ เครื่องออกเวลา ๐๘.๐๐ น. ใช้เวลา ๒ ชั่วโมงกว่าก็ถึงสนามบิน Chek Lap Kok ของฮ่องกง ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร มีคณะทัวร์ในฮ่องกงมารับและอำนวยความสะดวกนั่งรถบัสปรับอากาศผ่านสะพาน Tsing Ma และอ่าวฮ่องกง เข้าไปย่านเกาลูน สองข้างทางมีตึกสูงๆเป็นทิวแถว ถนนก็เป็นทางด่วนสลับซับซ้อนไปมายิ่งกว่าของญี่ปุ่น อาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร KUENG KEE SHATIN AIA-HKG ที่นับว่าแปลกในมื้อนี้คือได้กินนกพิราบทอดคนละครึ่งตัว นั่งมองยอดตึกสองฝั่งถนนที่ขึ้นลงไปตามไหล่เขาจนถึงด่านชายแดนฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่ ทั้งๆที่ฮ่องกงกลับคืนเป็นของจีนแล้วแต่การเดินทางเข้าออกก็เหมือนคนละประเทศ ลากกระเป๋าให้เขาตรวจรายคนจนพอใจจึงเข้าเมืองเซินเจิ้นโดยรถโค้ชปรับอากาศ ประมาณเวลาท้องถิ่น ๑๔.๐๐ น. เวลาเขาเร็วกว่าบ้านเรา ๑ ชั่วโมง เซินเจ้นเป็นเมืองเศรษฐกิจพิเศษของจีน มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วจากนักลงทุนต่างชาติ จัดผังเมืองได้ดี ชาวฮ่องกงนิยมมาซื้อบ้านพักอาศัยที่นี่เพราะราคาต่ำกว่ามาก คณะได้ไปชมหมู่บ้านวัฒนธรรม (CHINA FOLK CULTURE VILLAGE) ซึ่งภายในตกแต่งด้วยศิลปวัฒนธรรมของชนเผ่าพื้นเมืองต่างๆ มีพื้นที่กว้างขวางต้องนั่งรถพ่วงลากจูงจึงจะดูได้ทั่ว ไปดูการแสดงกายกรรมในโรงละคร มีการจัดฉากสลับไปมาได้อย่างพิสดาร หลังอาหารค่ำที่ภัตตาคาร XIN QIAO-SHZ ฝั่งตรงข้ามพวกเรากลับเข้ามาอีกครั้งคราวนี้เป็นโรงละครกลางแจ้งที่ตระการตา แต่อากาศร้อนมากๆ จบรายการเดินทางเข้าที่พักชื่อโรงแรม WESTERN SHENZHEN FELICITY ผมพักกับ ผ.อ.ชิต นาสัก จาก สพท.ชุมพร เขต ๒
วันอังคารที่ ๒๖ มิถุนายน ๒๕๕๐ รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรมเพราะเขาแจกคูปอง อาหารก็เหมือนเมืองไทย ภาคเช้าไปศึกษาดูงานที่บริษัทหัวเว่ย (HUAWEI TECHNOLOGIES) เมืองเซินเจิ้น เป็นโรงงานผลิตอุปกรณ์ IT ที่ใหญ่มากทั้งระบบคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสาร ประเภทโทรศัพท์มือถือ แต่เขามีกติกาห้ามถ่ายภาพเพราะเป็นความลับของบริษัท การศึกษาดูงานที่เขาพาไปดูครบวงจรทั้งการผลิต การขนส่ง และส่วนสวัสดิการบ้านพักของคนงาน เที่ยงไปทานข้าวที่ภัตตาคาร LO WU RESTAURANT-SHZ ได้ไปแวะห้างโลตัสเมืองจีนซื้อลิ้นจี่มากินเพราะเขาคุยนักหนาว่าอร่อยที่สุดในโลก บอกตรงๆว่าสู้ของแม่กลองไม่ได้ บ่ายไปศึกษาดูงานที่ INTERNATIONAL OFFICE SHENZHEN UNIVERSITY คณบดีบรรยายให้ฟังและพาชมพื้นที่ของมหาวิทยาลัย เย็นพวกเราได้เดินเล่นที่ห้างมาบุญครองของเมืองเซินเจิ้นที่เต็มไปด้วยสินค้าเลียนแบบทุกชนิดทุกยี่ห้อ พ่อค้าแม่ค้าพูดไทยได้เป็นส่วนใหญ่ อาหารเย็นก็ทานกันที่นี่ ผมเดินจนเมื่อยขาจึงเดินกลับที่พักประมาณ ๒ ทุ่ม
วันพุธที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๐ เก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า ตรวจเอกสารการเดินทางให้พร้อม ลงไปทานข้าวที่ชั้น ๒ ของโรงแรม เวลา ๐๘.๐๐ น. จึงเดินทางออกจากเซินเจิ้นไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง ผ่านทั้งด่านจีนและด่านฮ่องกง นั่งรถปรับอากาศมุดอุโมงค์ใต้ทะเลบ้างใต้ภูเขาบ้างเพื่อขึ้นไปชมทัศนียภาพเมืองฮ่องกงจากยอดเขาวิคตอเรีย วันนี้ฝนตกมองจากไหล่ทางลงข้างล่างเป็นที่หวาดเสียว เพราะเป็นทางที่รถวิ่งสวนทางหากคันใดเสียหลัก โอกาสที่จะกลิ้งไปข้างล่างมีสูง อีกอย่างหนึ่งการวิ่งตามกันไปขึ้นที่ลาดชัน เวลารถหยุดจะเดินหน้าใหม่ก็ให้หวาดเสียวว่ารถจะถอยหลัง อย่างไรก็ตามคนขับเขาคงคุ้นเคยกับเส้นทางดี อุโมงค์ใต้ทะเลชื่อ ABERDEEN มีความยาวประมาณ ๒ กม. อ่าวนี้เขาเรียกว่า DEEP WATER มีรูป เจ้าแม่กวนอิม ประดิษฐานอยู่วันนี้แม้ฝนจะตกแต่ผู้คนก็มีมาก ไปทานข้าวกลางวันที่ภัตตาคาร CITY CHIU CHOW บ่ายไปดูงานที่ HONG KONG BAPTIST UNIVERSITY AFFILIATED SCHOOL. WONG KAM FAI SECONDARY AND PRIMARY SCHOOL เป็นโรงเรียนสาธิตของมหาวิทยาลัยที่สร้างใหม่ เพียบพร้อมสมบูรณ์ไปทุกอย่าง อาคารเรียนสะดวกสบายกว่าโรงแรมชั้น ๑ ในบ้านเรา มีบันไดเลื่อนเหมือนห้างสรรพสินค้า ห้องประชุม ห้องสมุด โรงฝึกกีฬา ดูงานนี้แล้วทำให้ท้อถอยไปมาก งบประมาณของเราทั้งโรงเรียน น่าจะน้อยกว่าค่าไฟฟ้าของโรงเรียนนี้ เขาเล่าให้ฟังว่าในฮ่องกงอาชีพที่มีรายได้สูงลำดับ ๑ คือ ตำรวจ ลำดับ ๒ คือ หมอ และอันดับ ๓ คือ ครู ของเราอ่านข่าวว่าหมดงบประมาณที่จะเบิกจ่ายค่าวิทยฐานะแล้ว นักเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาเรียนแค่ครึ่งวัน มีอนุบาลบางแห่งเท่านั้นที่เปิดตลอดวัน ครูใหญ่ตั้งใจมากเล่าให้เราฟังตั้งหลายอย่างเธอบอกว่าเคยมาเมืองไทยหลายครั้ง เมื่ออำลากันแล้วคณะจึงเดินทางไปสนามบิน มีเวลาเดินดูสินค้าราคาแพงทั้งหลายพอสมควร ซื้อได้แต่ขนมเด็ก ราคาค่อนข้างแพงหากเทียบกับเงินไทย เดินทางกลับจากฮ่องกง ๒๐.๔๕ น. เวลาท้องถิ่น ถึงสุวรรณภูมิเวลา ๒๒.๑๕ น. แต่กว่าจะถึงบ้านก็เลยเที่ยงคืน
เป็นการถ่ายทอดที่ทำให้มองเห็นภาพที่เดียวครับ ดีมากมากสำหรับการแลกเปลี่ยนเรียนรู้