ใครควรรับผิดชอบชีวิตคนไทย ตายปีละกว่าหมื่นคน ??

คำถามมากมายที่ไม่รู้ใครจะตอบ ????

เราอาจตื่นตูม หรืออย่างน้อยก็ตื่นตัวกับข่าวเรื่องไข้หวัดนกทุกๆปี ซึ่งทำให้คนไทยเสียชีวิตไม่ถึง๑๐คนต่อปี และช่วงหลังๆนี้ ไม่มีคนเสียชีวิตเลยด้วยซ้ำ แต่คนไทยตายจากอุบัติเหตุปีละประมาณ ๑๓,๐๐๐คนต่อปี เพียงช่วงเทศกาลปีใหม่ หรือสงกรานต์ เราก็ต้องมานั่งนับศพกัน ทุกๆปี ว่าจะตายกี่ร้อยศพ ยังไม่นับคนที่บาดเจ็บ ปีละประมาณ ๑ล้านคน พิการนับแสนคน อาจกลายเป็น ความชินชา ของสังคมไทยไปแล้วใช่หรือไม่ ??
เราอาจกล่าวโทษลูกหลานของเราว่า ทำไมไม่มีจิตสำนึก "ไปดื่มเบียร์เหล้า ขี่มอร์เตอร์ไซด์ ไม่ใส่หมวกกันน้อก" ซึ่งเป็นสูตรที่ทำให้เยาวชนไทยเสียชีวิตมากที่สุด เรากล่าวโทษถูกคนแล้วหรือ ??? แล้วพวกที่กวาดเงินค่าน้ำเมาปีละประมาณ ๒แสนล้านบาทต่อปี (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากผู้มีรายได้น้อย) ไม่ต้องรับผิดชอบเลยหรือ ????

นอกจากทำให้คนไทยจำนวนมาก เสียชีวิต และ พิการ ทุกปีแล้ว ยังมีความสูญเสีย จากอุบัติเหตุ ค่ารักษาความเจ็บป่วย พิการ แรงงานด้อยประสิทธิภาพ ความรุนแรงในครอบครัว การตายก่อนวัยอันควร ฯลฯ ซึ่งมีการคำนวณจากสถาบันทางวิชาการต่างๆ(ซึ่งยังคำนวณไม่ครบถ้วนนัก เท่าที่พอหาตัวเลขได้) ประเมินเป็นมูลค่าทางเศรษฐกิจ ไม่น้อยกว่า ๒แสนล้านบาทต่อปี (รวมค่าน้ำเมาและความสูญเสียทางเศรษฐกิจที่สังคมไทยสูญเสียทุกปีแล้ว เกือบเท่ากับ ๑ ใน ๔ ของงบประมาณประจำปี ของรัฐบาลไทย) ซึ่งคนไทยทุกคนต้องรับผิดชอบร่วมกัน

พวกที่ร่ำรวยมหาศาลจากการค้าขายน้ำเมา ไม่ต้องรับผิดชอบหรือ???

พวกนี้เขามีเงินโฆษณาประชาสัมพันธ์ปีละ ๒-๓พันล้านบาท ผ่านสื่อมวลชน และกิจกรรมต่างๆ คุยว่า เขามีความรับผิดชอบต่อสังคม (CSR.= Corporate social responsibility) เป็นความรับผิดชอบสังคมจริงแล้วหรือ??? เห็นทำกัน(ทั้งบนดิน ใต้ดิน)อย่างจริงจัง ก็เพียงการ คัดค้าน ต่อต้าน ขอแก้ พรบ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเป็นกฎหมายที่ปกป้องเยาวชนไทย ไม่ให้กลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่ เร็วเกินไป คอยจับตาดูให้ดีกับการที่ธุรกิจพวกนี้ไปยุยงให้เยาวชนเป็นนักดื่มหน้าใหม่ ในสถาบันการศึกษาต่างๆ อย่างแนบเนียนด้วยวาทะกรรมที่หลอกลวงว่า "สอนให้ดื่มอย่างรับผิดชอบ" อย่างที่ผู้บริหารสถาบันการศึกษาไม่รู้เท่าทัน หรือได้รับผลประโยชน์ต่างตอบแทน

รัฐบาลซึ่งมีหน้าที่ในการรักษาความปลอดภัย ปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน จะไม่ทำอะไรมากกว่านี้แล้วหรือ?? ให้ความสนใจกับปัญหาใหญ่ขนาดนี้เพียงพอหรือไม่ ?? ให้ความเป็นธรรมกับคนไทยทั้งประเทศ หรือเอาแต่เกรงใจพวกที่ร่ำรวยบนความสูญเสียของสังคมไทย ??
ตั้งแต่มีรัฐบาลชุดนี้ เพิ่งเห็นคำพูดที่พอจะเป็นความหวังลางๆของสังคมไทย จาก มท.๑ (รตอ.เฉลิม อยู่บำรุง) และมีการสนับสนุนจากหลายฝ่าย ยกเว้นพวกจะเสียประโยชน์ ที่ว่า น่าจะห้ามการขายน้ำเมา ในช่วงเทศกาลสำคัญอย่างน้อยก็ ปีใหม่ สงกรานต์ ซึ่งมียอดผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ สูงที่สุด ก็หวังว่าคงไม่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น แต่คงมีการกระทำให้เกิดผลจริงด้วย

หรือว่า มท.๑ จะเป็นผู้ตอบปัญหาเหล่านี้่ ??
และรัฐบาล(ไม่ใช่ มท.๑คนเดียว)จะรับผิดชอบต่อปัญหานี้จริงจังกว่านี้หรือไม่ ??

สงกรานต์ ภาคโชคดี
ผู้อำนวยการสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า
 
---------------------------------------------------------------
"สติ" หรือ "ความไม่ประมาท" เป็น "บุญใหญ่" ที่พระพุทธองค์ ทรงอุปมา เหมือนรอยเท้าช้าง  ซึ่ึงเท้าของสัตว์ทั้งหลายย่อมลงไปได้
อุปมัยคือ บุญอื่นๆย่อมมีสติ เป็นเหตุต้นทาง

"น้ำเมา" ทำลายสติ จึงเป็น "บาปใหญ่" นำไปสู่บาปอื่นๆได้ทั้งสิ้น
จึงต้องช่วยกันไม่ให้ทำร้ายสังคมไทย โดยเฉพาะเยาวชน ลูกหลานเราไปมากกว่านี้

 

เรื่อง จำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุนี้ จำนวน 13000 คน นี่เป็นเฉพาะ การเสียชีวิตแบบฉับพลันและกึ่งฉับพลัน ครับ

ทีมของหมอยศแกยืนยันว่า หากรวมพวกไม่เฉียบพลันด้วย แบบไปตายที่โรงพยาบาล และ บ้าน จะถึง 30000 คนครับ หมอยศและทีมงาน คงให้รายละเอียดเพิ่มเติมได้ครับ  

 อย่างไรก็ตาม ประเด็นหนึ่งที่อยากชี้ให้เห็นคือ พอพูดถึงพิษภัยของแอลกอฮอล์ สังคมมักพุ่งเป้าไปแค่ อุบัติเหตุ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะเห็นได้ชัดและเร็วกว่าผลกระทบด้านอื่น ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่ในการรณรงค์แคบลงครับ

WHO ประเมินไว้ว่า ภาระโรคจากการบาดเจ็บทั้งที่จงใจ และไม่จงใจ(อุบัติเหตุ อยู่กลุ่มนี้) คิดเป็นน้อยกว่าร้อยละ 40 ของ ภาระโรคจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมดด้วยซ้ำ

 ทักษพล

[ดอกไม้น้อย]

• สวัสดีปีใหม่ไทยค่ะ
• ปีนี้เด็กๆ กินเหล้าหนักขึ้นนะคะ เพราะเวลาปกติก็ 7 นาทีก็ถึงร้านเหล้าแล้ว  ช่วงเทศกาลอย่างนี้เล่นน้ำไป ซื้อกินไปก็ได้เพราะขายกันเกลื่อน
• กินเหล้าแล้วชวนกันไปลวนลามสาวๆ  เศร้าจังเนาะ