ปริญญาชีวิต (๓)


ธุรกิจล้ม แต่คนต้องไม่ล้ม

ปริญญาชีวิต (ตอนที่ ๓)

“ธุรกิจอาจล้มได้  แต่คนต้องไม่ล้ม”

จากประสบการณ์ชีวิตจริงของนักธุรกิจท่านหนึ่ง       

เป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนวัดแห่งหนึ่ง  มาจากครอบครัวที่ยากจน  จบการศึกษาแค่ ม. ๓ เมื่อเกือบ ๕๐ ปีก่อน   ผ่านงานมาหลายอาชีพ  กว่าจะถึงเส้นชัย  เขาล้มแล้วลุก  ลุกแล้วล้ม  ล้มๆลุกๆจนกระทั่งถึงวันนี้     ปัจจุบันเขาเป็นเศรษฐีใจบุญผู้ไม่ประสงค์ ออกนามในสังคมไทยเรานี่เอง

ผู้เขียนได้มีโอกาศสัมผัสท่านผู้นี้  ตอนเป็นเพื่อนนักเรียนร่วมชั้นมัธยมที่โรงเรียนวัดแห่งหนึ่งในย่านฝั่งธนฯ (ที่ไม่เปิดเผยชื่อสถานศึกษา เพื่อหลีกเลี่ยงข้อกล่าวหาโฆษณาชวนเชื่อ และตั้งใจให้เป็นกรณีศึกษาจริงๆ)  ๓ ปีเต็มๆที่เรียนหนังสือด้วยกัน  ภาพที่จำได้ดีคือ เป็นคนขี้คุย อวดโม้  เพ้อฝัน นั่นเขาละในสายตาเพื่อนๆ  แต่สำหรับผู้เขียนนั้นกลับมองเขาในมุมตรงข้าม ซ้ำยังแอบนิยมชมชอบเขาผู้นี้อยู่ในใจเงียบๆคนเดียว  และยังคิดต่อว่าเขาทำไมจึงกล้าคิดการใหญ่ในหลายๆเรื่อง ขณะที่คนอื่นไม่กล้าคิด  หมอนี่ถ้าจะฝันไปเสียแล้ว  อดมื้อกินมื้อความรู้ก็แค่หางอึ่ง อย่าพูดถึงปริญญาวิชาชีพอะไรเลย  สักใบหนึ่งก็ไม่มี

ความใฝ่ฝันอยากเป็นเศรษฐีนั้นฝังลึกอยู่ในใจ   เมื่อจบการศึกษามัธยมปีที่ ๓ (ประถม ๗ ในปัจจุบัน)  เขาจึงเริ่มลงมือทำทันที  โดยไม่เกี่ยงว่าจะเป็นงานอะไร ขอให้เป็นงานสุจริตเป็นใช้ได้   แรกเริ่มทีเดียว  หัดเย็บจักรเย็บผ้าเช็ดหน้าอยู่ ๒ ปี  ต่อมาก็ไปช่วยขายกาแฟอีก ๑ ปี   ออกมาเป็นช่างไม้ ๗ ปี   ทำงานติดตั้งมุ้งลวดและประตูหน้าต่างเหล็กดัด  ได้ค่าแรงวันละไม่กี่บาท ทำอยู่หลายปีจนเชี่ยวชาญงานแล้ว   ก็พัฒนามาเป็นโครงสร้างเหล็กให้กับอาคารใหญ่    จนกระทั่งเป็นเถ้าแก่เอง รับเหมางานโดยตรง  รวยแน่กูคราวนื้ เขาบอกกับตัวเอง   พ่อแม่พี่น้องที่บ้านจะได้หายจน  อยู่ดีกินดีเหมือนกับคนอื่นเสียที   เขาคิดของเขาอยู่คนเดียวอย่างมีความสุขด้วยรอยยิ้มบริสุทธิ

ความฝันของเขา  รอยยิ้มอย่างมีความสุขของเขาพังทลายลงในเวลาไม่กี่เดือน   เส้นทางสู่การเป็นเศรษฐีของเขานั้นมิได้ปูด้วยดอกกุหลาบอย่างที่เขาคิดหรือเป็นดั่งที่เขาเคยวาดฝันไว้เสียแล้ว   มันเป็นเส้นทางที่ปูด้วยขวากหนามเกือบครึ่งค่อนเส้นเลยทีเดียว  ความเจ็บปวดครั้งนั้นเขาจดจำได้ดี  คือเขาไปได้งานมางานหนึ่งจากผู้รับเหมาก่อสร้าง  ทำไปไม่เท่าไหร่ค่าของที่เป็นวัตถุดิบขึ้นราคาไปมาก  ประสบกับการขาดทุน  ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ผู้รับเหมาเบี้ยวเงินงวดสุดท้าย  ทำให้เป็นหนี้เป็นสินมากมาย  กว่าจะปลดได้หมดก็นานโขทีเดียว

“ความล้มเหลว”  เป็นปริญญาใบแรกที่เขาได้รับ 

ถึงแม้จะจำใจรับด้วยความขมขื่นก็ตาม   แต่ปริญญาชีวิตใบแรกนี้มีความสำคัญกับชีวิตที่เขาเคยใฝ่ฝันมามากทีเดียว    เขายังจำคำคมที่ครูเคยให้เขาไว้ตอนเรียนอยู่ที่โรงเรียนจีนที่เขาเรียน ป. ๑ ถึง ป. ๔    失败是成功之母    “ความล้มเหลวเป็นบิดาแห่งความสำร็จ”   แน่นอนเขาจึงยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ    ถ้าเป็นมวยไทยชกห้ายก  มวยสากลก็สิบกว่ายก  นี่เป็นเพียงยกแรกเท่านั้นเขาไม่ยอมโดนนับสิบโดยเด็ดขาด  รีบลุกขึ้นมาสู้ต่อบนเวทีชีวิตต่อไป  เมื่อได้ยินกรรมการนับถึงแปด   ปริญญาใบแรกได้สอนเขาให้รู้ถึงรสชาดอันเจ็บปวด   ขณะเดียวกันเขาก็ได้เรียนรู้ว่า ประเทศไทยนั้นอุดมสมบูรณ์   “ในน้ำใสไหลลึกย่อมมีปลาชุกชุม  ในป่าไพรย่อมอุดมด้วยสิงสาราสัตว์  คนที่มีคุณธรรมย่อมไม่ยากจน”    “ ถึงกิจการจะล้มเหลว แต่คนไม่ล้มตาม”  เมื่อคิดได้ว่าชีวิตมิใช่จะมีเพียงเท่านี้เ ยังมีอะไรอีกมากต่อมาก  หนทางยังมีอีกเยอะแยะที่จะให้เดิน  เขาจึงเริ่มมองหาลู่ทางใหม่  คราวนี้มีความมั่นใจขึ้นมาหน่อย  เพราะเพิ่งได้รับปริญญามาหนึ่งใบหยกๆ  เขาทำงานทุกอย่างที่ขวางหน้า  ไม่ว่างานเล็กงานน้อยทำหมด  โดยยึดคติว่าต้องเป็นงานสุจริต  เป็นเงินบริสุทธิ์เมื่อทำมากเข้ามากเข้า  ความรู้คู่ปฏิบัติ  จากประมาณสู่คุณภาพ  สะสมความรู้จากงานที่ทำ  ประสบการณ์ก็เพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ  จนกระทั่งในที่สุดเขาประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ตามที่ได้ใฝ่ฝันไว้  ได้เป็นเจ้าของกิจการโรงงานผลิตแสตนเลส  บนที่ดิน ๖๐๐ กว่าไร่

“ปริญญาชีวิตใบที่ ๒”    ที่ได้รับนื้คือ   “ปริญญาแห่งความสำเร็จ”  เขามีความภาคภูมิใจมากกับปริญญาชีวิตทั้งสองใบนี้มาก    ถึงแม้ว่าเขาจะประสบความสำร็จในชีวิตแล้วก็ตาม  แต่หาได้ลืมโรงเรียนวัดที่ประสาทวิชาให้แก่เขาจนจบ ประถม ๗  เขากลับมาดูแลโรงเรียนอย่างใกล้ชิด  ช่วยสร้างถาวรวัตถุ เช่น เสาธงสเตนเลสที่สูงและสวยงาม  ประตูสเตนเลส และสิ่งก่อสร้างอื่นอีกมากมาย  ที่สำคัญกว่านั้นเขาได้ส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนภาษาต่างประเทศ  ทั้งอังกฤษและจีนภาคเร่งรัดเน้นการสนทนาเป็นการเฉพาะ    โดยใช้เงินส่วนตัวเชิญอาจารย์จากยุโรปและจีนมาทำการสอน  ทำให้ทั้งนักเรียนและคณะครูมีกำลังใจในการเรียนการสอน  โรงเรียนก็ได้รับการประเมินผลเป็นที่น่าพอใจ

“มีความรู้น้อยต้องไม่ย่อท้อ   ไม่มีพื้นฐานไม่อาจเกี่ยงงานได้”     คนเราหากมองว่าโอกาสของการได้ทำงานเป็นการเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงและได้เสริมสร้างประสบการณ์   ก็มักจะไม่เกี่ยงงาน  แต่ถ้าหากคนเรามัวแต่เลือกงาน  อาจจะไม่มีโอกาสที่จะได้ทำงาน   แล้วจะเอาประสบการณ์มาจากใหน  จงยอมเหน็ดเหนื่อยยอมลำบากกับงานใหม่ๆ   เพื่อความรู้และประสบการณ์  แม้จะเรียนมาน้อย  แต่ยอมทำงานมากก็จะมีความรู้และประสบการณ์ที่สะสมไว้ใช้เป็นทุนต่อไป  คนเราคิดได้อย่างนี้ก็จะไม่ย่อท้อกับการต่อสู้   และจะขยันทำงานหาประสบการณ์ด้วยความถือมั่นว่า   การเรียนรู้และสู้งานคือพื้นฐานของความสำเร็จ  เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว  จงอย่าลืมตอบแทนคุณทุกๆท่านที่มีส่วนทำให้เรามีวันนี้ได้ อาทิ บิดามารดา   ครูบาอาจารย์ และผู้ที่เคยมีพระคุณกับเรา  และสิ่งสำคัญที่ต้องทำก็คือ  การทำนุบำรุงศาสนาพุทธให้เจริญรุ่งเรืองสืบไป   ถ้าทำเช่นนี้ได้แล้วก็เป็นหลักประกันว่า   “ปริญญาชีวิต”  ที่ได้รับนั้นก็จะศักสิทธิ์และมีอานุภาพทำให้ท่านไม่รู้จักคำว่าจนอีกต่อไป  ร่ำรวยกันอีกหลายๆชั่วคนเลยทีเดียว

ปริญญาชีวิต ตอนที่ ๔ จะลงบันทึกในวันอาทิตย์หน้า 

ส ะ เ ก็ ด ธ ร ร ม

จะเป็นนักพูดที่ดี  

ต้องเป็นนักฟังที่ดีอย่างน้อย ๑๐๐ ชั่วโมง

จะเป็นนักเขียนที่ดี

ต้องเป็นนักอ่านที่ดีอย่างน้อย ๑๐๐ เล่ม

คนที่ไม่เคยล้มเหลวมาก่อน

ไม่อาจครอบครองความสำเร็จได้ยาวนาน

(สะเก็ดธรรม ที่มา หนังสือธรรมาค้าขึ้น เขียนโดยท่าน ว. วชิรเมธี)

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ข้อคิดชีวิต
หมายเลขบันทึก: 179238เขียนเมื่อ 28 เมษายน 2008 15:55 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 23:47 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (19)
  • สวัสดีค่ะ
  • เข้ามาอ่านบทเรียนชีวิตที่มีคุณค่าค่ะ
  • จะติดตามอ่านต่อไปนะคะ

ขอบคุณมากค่ะสำหรับบทเรียนชีวิตประจำวันนี้ของเราทุกคน :)

ปล. Uncle Riceman ดูสดใสแข็งแรงจังเลยค่ะ

๑) ขอบคุณครับ คนไม่มีราก ยังมีอีกหลายตอน จะบันทึกทุกๆวันอาทิตย์ๆละหนึ่งตอน ขอเชิญติดตามอ่านต่อไปนะครับ

๒) ขอบคุณครับ อาจารย์จันทวรรณ ที่ดูสดใสแข็งแรงนั้น ก็เพราะได้เข้ามาอ่านบล็อกที่ผู้เขียนหลายท่านได้เข้ามาแนะนำ โดยเฉพาะคุณหมอ ที่แนะนำให้ทานผักมากๆ งดการทานเนื้อสัตว์ ก็เลยทำตามที่แนะนำอย่างเคร่งครัด หวังว่าสุขภาพดีอายุยืน จะได้เข้ามาเขียนบันทึกแลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านมิตรภาพ

สบายดีค่ะคุณ unclc riceman

* ชอบอ่านชีวประวัติ ได้แรงบันดาลใจ ได้อะไรเกินคาดหวัง

และสิ่งสำคัญคือ ได้บทเรียนชีวิต ขอบพระคุณค่ะ

* เมื่อก่อนหนูกินผักได้ 2 อย่างค่ะ คือผักบุ้ง กับแตงกวา แต่เดี๋ยวนี้ กินผักได้เกือบทุกชนิดค่ะ ยกเว้นที่ขมๆ เพราะอยากอยู่ 100 ปีชีวีเป็นสุข

* และโลกนี้ช่างรื่นรมย์ และแสนมหัศจรรย์  ... หนูช้อบ ชอบ

* แล้วจะติดตาม ปริญญาชีวิต อีกนะคะ

 

โผล่มาที่นี่..ก่อนไปสะสางตัวเองค่ะ

ขออนุญาตเรียก uncle riceman ตามน้อง poo และ อ.จันนะคะ..^__^

กะปุ๋มเกิดมาเป็นคนที่โง่...มากเลยค่ะ...และเมื่อยิ่งเรียนก็ยิ่งตระหนักยิ่งขึ้นว่า "อืม..เรานี่โง่จริงๆ..." ตอนนี้กำลังเป็นนักเรียนที่เริ่มขยันและตั้งใจเรียน...รู้ "ภายใน"...ค่ะ

บทเรียนที่ uncle ricrman นำมา คือ บทเรียนหนึ่งตัวอย่าง..และนำมาย้อน ทบทวนในบทเรียนตนเอง...

อืม..ลืมบอกไปค่ะ ตั้งแต่เด็กจนโตทานผักเป็น ตอนนี้ทานผักเป็นอาหารหลักค่ะ...อิอิ คล้ายกันไหมคะ น้อง poo

ขอบคุณมากนะคะ

(^____^)

กะปุ๋ม

สวัสดีค่ะ

หนิงตามมาขอเรียนรู้ด้วยคนค่ะ  ขอบพระคุณค่ะ

๐ สวัสดีครับคุณปู ลุุงก็ชอบทานผักบุ้งเหมือนหนู แตงกวาเมื่อก่อนชอบมาก ตอนนี้ทานน้อยลง เพราะไปชอบทานผักชนิดอื่น ลุุงก็เหมือนหนูอีกอย่างคือ อยากอยู่ 100 ปีชีวีเป็นสุข เวลาที่ผ่านไปลุงใช้ชีวิตกับโลกที่สวยงามและแสนมหัศจรรย์ใบนี้อย่างคุมค่าเลยทีเดียว ถึงแม้เดินทางยังไม่ครบทุกประเทศ แต่อย่างน้อยก็ครบแล้วทั้งห้าทวีป ยังเหลือเวลาที่จะอยู่อีก ๓๙ ปีจะพยายามเดินทางให้มากที่สุดตามกำลังและสังขารของร่างกาย ขอเชิญติดตามอ่าน "ปริญญาชีวิต" ในตอนต่อไป ซึ่งจะบันทึกทุกๆวันอาทิตย์

๐สวัสดีครับ คุณ Ka-Poom ขอบคุณที่ให้เกียรติแวะมาอ่าน "ปริญญาชีวิต" ก็เป็นเรื่องเล่าที่แสนจะธรรมดา ธรรมดาจริงๆ โดยเริ่มเรื่องจากคนที่ใกล้ชิดซึ่งเป็นคนดีในสายตาของผู้เขียน คุณเป็นสตรีมหัศจรรย์ด้านการศึกษาคนแรกที่ผมรู้จัก ปริญญาโทสองสามใบก็ถือว่าสุดยอดแล้ว อะไรกันนี่ปริญญาเอกก็มีตั้งสองใบสามใบ ขอคารวะ ขอคารวะ ทฤษฎีกับปฏิบัติ ความรู้ภายในกับภายนอก ทุกข์กับสุข

มืดกับสว่าง เกิดกับดับ เป็นธรรมชาติที่ดำรงอยู่โลกมานานแสนนาน ถ้าเราเข้าใจสิ่งเหล่านี้ดี และสามารถปรับให้สมดุลย์ได้ คนเราก็จะ

เหนือสรรเสริญเหนือนินทา

เหนือมีเหนือจน

เหนือดีเหนือชั่ว

เหนือสุขเหนือทุกข์

เหนือบุญเหนือปาบ ในที่สุด

ความสุขภายในก็เกิดขึ้นทันที

๐สวัสดีครับ คุณหนิง

ปริญญาชีวิต ยังมีอีกหลานตอน ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ

สวัสดีค่ะคุณลุง

แจ๋วแวะมาขอบคุณที่คุณลุงแวะไปเยี่ยมที่บันทึกของแจ๋วนะคะ

ตามจริงเข้ามาอ่านบันทึกของคุณลุงบ้างค่ะ แต่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยไว้

บันทึกมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ชีวิตมากค่ะ

ขอบคุณและเป็นกำลังใจให้คุณลุงเช่นกันค่ะ

แจ๋วค่ะ

  • มาคารวะคุณลุง
  • ดีใจที่ได้พบผู้ใหญ่ใจดี
  • อยากให้บันทึกแบบนี้อีก
  • ลูกๆๆหลานๆๆแบบผมจะได้เรียนรู้
  • ความรู้แบบนี้ไม่มีในตำราเรียนครับ
  • ขอบคุณครับ

คุณลุงคะ

ขออนุญาตนำบันทึกที่มีคุณค่าเข้าแพลนเน็ตด้วยค่ะ

ขอบคุณค่ะ

๐ ขอบคุณ คุณขจิตมากที่มาให้กำลังใจอยู่เสมอ ลุงเตรียมไว้หลายตอนแล้ว จะนำลงบันทึกทุกๆวันอาทิตย์ครับ ช่วยแวะมาเข้ามาเยี่ยมอีกนะครับ

๐ สวัสดีครับ คุณแจ๋ว ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยม และให้กำลังใจ

ยินดีคุณแจ๋ว เชิญตามสบายครับ

  • ต้องรอตั้งวันอาทิตย์
  • ว้านานจัง
  • วัยรุ่นใจร้อน อิอิๆๆ
  • แต่ไม่เป้นเป็นไร ของดี รอได้ ฮ่าๆๆ

สวัสดีคะ ตามมาอ่านต่อคะ

อาจารย์ ขจิต <-- ของดีต้องรอนานหน่อยคะ

แวะมาเป็นกำลังใจให้คุณลุงriceman คะ

อีกนิดนึงคะ พอดีเห็นบล็อกคุณลุงตกแต่งออกแนวจีนๆ เลยมีความคิดว่า คุณลุงต้องมีเชื้อจีน อย่างหนูแน่ๆ (ดูรูปมะปรางแล้ว อาจจะนึกไม่ถึงว่าเป็นลูกครึ่งนะคะ) เลยอยากให้คุณลุงเขียนบันทึกเล่าเรื่องวัฒนธรรมจีน หรือเรื่องเกี่ยวข้องคะ เพราะคาดว่าคุณลุงมีประสบการณ์มากมาย ต้องมีเรื่องสนุกๆ มาเล่าแน่เลยคะ

ขอบคุณคะ

มะนาวหวานก็ล้มๆลุกๆมาหลายตลบแล้วค่ะ

แต่ก็ยังสู้ๆๆๆค่ะ

ไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว..ก็หนูเป็นลูกพ่อขุนนี่คะ

ทั้งพ่อขุนรามคำแหง

...และพ่อขุนเม็งรายมหาราชค่ะ

คุณลุงให้เคล็ดและแง่คิด พร้อมกำลังใจได้ดีมากๆเลยค่ะ

มะนาวหวานขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ

มีอะไรที่เด็กบ้านนอกคนนี้กระทำไม่ถูกต้อง

คุณลุงก็ชี้แนะด้วยนะคะ

สวัสดีครับท่านriceman

เห็นในบันทึกครูอ้อยท่านอยากได้โปรแกรมการจัดภาพเลยเอามาฝากครับจากบันทึกของน้องแก้มยุ้ยLittle Jazz \(^o^)/
ตามลิ้งนี้ครับ--> แจกฟรี สุดยอดโปรแกรมแต่งรูปแห่งจักรวาล

ลองโหลดไว้ใช้งานนะครับ มีข้อสงสัยสอบถามทุกท่าน ที่เข้ามาในนี้ได้ ทำเก่งทุกคน  อิอิ

สวัสดีครับ ขออนุญาติเรียกท่านว่าลุงก็แล้วกันครับ

กระผมชอบอ่าน,ติดตาม,ศึกษา เกี่ยวกับประวัติของบุคคลต่างๆที่ประสบความสำเร็จในชีวิต

และก็ขอขอบคุณท่านที่มีเมตตา เอื้อเฟื้อ ข้อมูลประวัติ ประสบการณ์ของผู้เกิดก่อน

ให้อนุชนคนรุ่นหลังได้ศึกษา และจดจำเรื่องราวชีวิตที่ดี แล้วนำไปเป็นแบบอย่าง

ก็จะรอติดตามปริญญาชีวิตภาคต่อไปครับ

สวัสดีค่ะท่าน.....riceman

  • ครูอ้อย มาตั้งใจอ่านบันทึกที่ดี  ที่นำเป็นตัวอย่างในการคิดและการปฏิบัติงานในชีวิตได้เป็นอย่างดี
  • ขอบคุณค่ะ

๐ ขอบคุณ อ.ขจิตที่แวะมาให้กำลังใจครับ วันอาทิตย์เชิญติดตามอ่านนะครับ ที่บันทึกล่าช้าก็เพราะต้องการให้การบันทึกมีประโยชน์กับผู้อ่านให้มากที่สุด สมกับที่ท่านสละเวลาอันมีค่าเข้ามาอ่าน ลุงรู้ตัวดีว่าเป็นคนเขียนไม่เก่ง เลยใช้เวลาในการเขียนมากไปหน่อย ขออภัยด้วยครับ

๐ขอบคุณ คุณมะปรางเปรี้ยว ที่แนะนำให้เขียนเรื่องเกี่ยวกับจีน ลุงมีโอกาสเดินทางไปจีนครั้งแรกเมื่อ ค.ศ. ๑๙๗๘ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปทุกปีๆละหลายเที่ยว มีเรื่องสนุกๆมากมายที่จะเล่าในบันทึก อดใจรอหน่อยนะครับ ขอเวลาเตรียมตัว ลุงเป็นชาวฮั้น(จีน)โดยเชื้อชาติ แต่มีหัวใจเป็นไทยร้อยเปอร์เซ็นต์

๐ล้มเหลวกับความสำเร็จ เป็นของคู่กัน ล้มเหลวมากความสำเร็จก็ย่อมมากเงาตามตัว ลุงเชื่อมันว่า คุณมะนาวหวาน จะต้องประสบความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในเร็ววันนี้อย่างแน่นอน

๐พอรับคำแนะนำเกี่ยวกับโปรแกรมจัดภาพปุ๊ป โหลดปั๊ป ขอบคุณ คุณสะมะนึก แซ่เฮ มากครับ

๐มีอะไรดีๆก็นำมาแบ่งปันกันครับ ไม่มีอะไรหรอกครับ คุณร่มไม้ใหญ่ใกล้ทาง ขออาศัยร่มเงาพักคลายร้อนด้วยครับ

๐ขอบคุณ ครูอ้อย ที่แวะมาให้กำลังใจอยู่เสมอ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท