เพื่อนชาว KM ที่คิดถึงทุกท่าน
ก็ด้วยความรักยิ่ง คิดถึงมาก
เลยแวะเวียนมาเยี่ยมกันซักหน่อยครับ
วันนี้ได้นำบทความทางวิชาการมาเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันอีกเช่นเคย
เชิญติดตามดูเถิดครับ !!!
Role Competency กับการพัฒนาบุคลากร
; กรณี สป.ศธ.
|
ผมได้รับโอกาสดีที่ผู้บังคับบัญชาได้กรุณามอบหมายให้ไปประชุมปฏิบัติการเรื่อง
การปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรมและค่านิยมในการปฏิบัติงานของข้าราชการ
สังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.ศธ.)
ทั้งนี้ก็เนื่องมาจากการที่ สป.ศธ.จะดำเนินการปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรมและค่านิยม ภายใต้กรอบการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่ [New Public Management]เพื่อให้บุคลากรภาครัฐพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงและมีทัศนคติการทำงานที่ยึดถือประโยชน์ของประชาชนเป็นเป้าหมายสำคัญ ตามระบบการบริหารจัดการภาครัฐที่ดีคือ ข้าราชการต้องเป็นผู้ทำงานอย่างมีศักดิ์ศรี ขยัน ตั้งใจทำงาน มีศีลธรรม คุณธรรม ปรับตัวได้ทันโลก รับผิดชอบต่อผลงาน มีใจและการกระทำที่เป็นประชาธิปไตยและทำงานมุ่งเน้นผลงาน โดยได้กำหนดผู้รับผิดชอบขึ้นหลายระดับ มีทั้งที่ปรึกษา คณะกรรมการอำนวยการ คณะกรรมการดำเนินงาน ในการขับเคลื่อนภาระงานสำคัญนี้
ในการประชุมเชิงปฏิบัติการครั้งสำคัญดังกล่าวนี้นอกจากได้รับ องค์ความรู้หลักตามหลักสูตรอย่างครบถ้วนโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้รับรู้ รับทราบ รูปแบบ[Model] ที่ได้มาจากการทำการวิจัยเรื่องนี้โดยตรง นับว่ามีคุณค่า เหมาะสมและเชื่อว่าจักเกื้อกูลต่องานสำคัญนี้ได้อย่างแน่นอน ผมค่อนข้างเชื่อมั่น ครับ นอกจากนี้ยังได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ [share to learn] ระหว่างคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิกับผู้เข้าประชุม ซึ่งล้วนแต่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเกื้อกูลพวกเราที่เข้าร่วมประชุมได้มากพอที่จะปรับเปลี่ยนกระบวนทัศน์ วัฒนธรรมและค่านิยมในการปฏิบัติงานต่อไป
และสืบต่อจากการประชุมปฏิบัติการดังกล่าว
ทำให้คิดถึง สิ่งที่ท่านวิทยากรฝากและกำชับไว้นักหนาคือ
คำพูดที่ว่า อันความรู้นั้น หากไม่นำไปปฏิบัติแล้ว ก็ด้อยคุณค่า
ซึ่งมันยังฝังใจตลอดมา
ดังนั้น การนำความรู้ ที่ได้จากการประชุมปฏิบัติการดังกล่าว
มาต่อยอด นำมาปฏิบัติ ให้เกิดผลให้ได้
จึงเป็นพันธกิจของตนเอง
เรื่อง การพัฒนาบุคลากร ก็จึงเป็นประเด็นที่ต้องใส่ใจ
ดังนั้น ณ เวลานี้จึงใคร่ขอนำเรื่อง สมรรถนะ มาต่อยอด
ชาวเราเหล่าข้าราชการทั้งหลายต้องได้ผ่านคำ สมรรถนะ นี้
มากันบ้างแล้วนะครับ ส่วนมากหรือน้อย นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ประเด็นแรกที่จะหยิบยกขึ้นมาเพื่อต่อยอดกันคือ
Role Competency กับการพัฒนาบุคลากร
ก่อนอื่นใคร่ขอนำองค์ความรู้[Body of Knowledges]เกี่ยวกับเรื่องนี้มาเป็น ฐาน กันเสียก่อน
ก.พ.ร.สป.ศธ.[1]ได้กำหนด รูปแบบ สมรรถนะของชาว สป.ศธ.ไว้เรียบร้อยแล้ว ดังนี้ครับ
ความรู้เพิ่มเติม Competency :ความสามารถ,อำนาจ,ความพอเพียง (วิทย์ เที่ยงบูรณะธรรม An Advanced Desk ENGLISH-ENGLISH-THAI DICTIONARY โรงพิมพ์อักษรพิยา กทม. 2537:155) สมรรถนะ : power,ability สมรรถภาพ : efficiency (Col.Nit Tongsopit New Standard THAI-ENGLISH Dictionary สำนักพิมพ์แพร่พิทยา กทม. มมป. : 879) |
Core Competency[2]
สมรรถนะ [Competency ] ตาม Model สมรรถนะข้าราชการสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
สมรรถนะหลัก (Core Competency ) มีจำนวน ๘ สมรรถนะ
๑. ความเข้าใจองค์กรและระบบราชการ (Organizational Awareness-OA)
๒. การสั่งสมความเชี่ยวชาญในงานอาชีพ (Expertise-EXP)
๓. การบริหารการเปลี่ยนแปลง (Change Management)
๔. ความร่วมแรงร่วมใจ (Teamwork-TW)
๕. คุณธรรม จริยธรรม (Moral & Integrity-Mo & ING)
๖. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Achievement Motivation-ACH)
๗. จิตมุ่งบริการ (Service Mind-SERV)
๘. มนุษยสัมพันธ์ (Human Relation)
สมรรถนะในงาน (Functional Competency) ทั้ง 3 ด้าน เน้นที่
ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล (Personal) ๕ สมรรถนะ
๑. ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ (Innovation)
๒.ความยืดหยุ่นผ่อนปรน (Flexibility)
๓. จิตสำนึกในการเป็นข้าราชการที่ดี (Oficer Awareness)
๔. ซื่อสัตย์สุจริต (Honesty)
๕. การพัฒนาตนเอง (Self Development )
๑. ทักษะด้าน ICT (Information Communication Technology)
๒. ทักษะการวิเคราะห์เชิงระบบ (Systemic Analytical Skill)
3. ทักษะการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Evaluation)
๔. ทักษะและความเชี่ยวชาญในบทบาทหน้าที่ (Role Expertise)
๕. ความรู้และทักษะการนำนโยบายและยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ (Translating Policy & Strategy to Action)
๑. วิสัยทัศน์และกลยุทธ์ในการทำงาน (Vision&strategy)
๒. การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ (HRD)
๓. การให้คำปรึกษา (Consultant)
๔. การประชาสัมพันธ์องค์กร
๕. การจัดการความรู้ (Knowledge Management)
และในที่นี่ใคร่ขอนำเสนอบทวิเคราะห์ สังเคราะห์ในประเด็น
ด้านความเชี่ยวชาญในบทบาทหน้าที่ [Role Competency]
เน้นการแปรงสู่การปฏิบัติ
ภายใต้รูปแบบ Role Competency Oriented Development : RCOD ดังนี้
ความเชี่ยวชาญในบทบาทหน้าที่ (Role Competency)
มี ๕ สมรรถนะ : พันธกิจที่ชาว สป.ศธ.พึงมีพึงได้
๕ สมรรถนะ คือ 1. ทักษะและความเชี่ยวชาญในบทบาทหน้าที่ (Role Expertise) 2. ทักษะการวิเคราะห์เชิงระบบ (Systemic Analytical Skill) 3. ทักษะการประเมินผลการปฏิบัติงาน (Performance Evaluation) 4. ความรู้และทักษะการนำนโยบายและยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ (Translating Policy & Strategy to Action)และ5. ทักษะด้าน ICT (Information Communication Technology) |
สิ่งแรกๆที่ชาว สป.ศธ.พึงมีพึงได้ในการปฏิบัติหน้าที่ราชการของตนคือ
1. ทักษะและความเชี่ยวชาญในบทบาทหน้าที่ (Role Expertise) ที่มีความหมายครอบคลุมถึง
การมีความรู้อย่างแท้จริงในเรื่องที่ทำ รู้หลักวิชาการ รู้เหตุผลสามารถนำไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม และสามารถคาดคะเนเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาได้เมื่อมีเหตุผิดปกติเกิดขึ้น มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และปรับปรุงแก้ไขการปฏิบัติงานในหน้าที่สามารถจัดระบบงานได้อย่างเหมาะสม ทันต่อเหตุการณ์และสภาพแวดล้อม
ใคร่ขอจำแนกแจกแจงออกเป็นรายละเอียดดังนี้
1. การมีความรู้อย่างแท้จริงในเรื่องที่ทำ
เรื่องที่บุคลากรด้านการตรวจ ติดตามและประเมินผล ต้องทำ ต้องถือปฏิบัติ ได้แก่ ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย พัฒนาระบบ ประสานงาน ติดตาม ตรวจสอบ วัดประเมินผล รายงานผล นิเทศ ให้คำปรึกษาแนะนำ ส่งเสริมสนับสนุน ที่ต้องได้รับการพัฒนา ให้มีความรู้อย่างแท้จริง |
ดังกรณีเราชาว สป.ศธ.ที่มีบทบาทหน้าที่ในด้านการตรวจราชการ (สตผ.และ สตรข.1-12และ กทม.) มีบทบาทหน้าที่ดังนี้
สำนักตรวจราชการ และติดตามประเมินผล (สตผ. สป.ศธ.) มีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้ (ก) ดำเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวง (ข) ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลสารสนเทศ เพื่อสนับสนุนการตรวจราชการ จัดทำแผนการตรวจราชการ และดำเนินการเกี่ยวกับการตรวจ (ค) วิจัยและพัฒนาระบบ และประสานเครือข่ายการตรวจราชการ การติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลของกระทรวง (ง) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ได้รับมอบหมาย |
กลุ่มติดตามและประเมินผล สตผ.สป.ศธ. มีอำนาจหน้าที่ ดังนี้
ปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบ ดังนี้
|
|
ไม่มีความเห็น