การทำงาน การใช้ชีวิตในแต่ละวัน เราจะเห็นได้ว่าบางวันก็เป็นวันที่สบาย สุขกาย สุขใจ ทำงานอะไรก็ราบรื่น เป็นวันที่เรารู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน แต่บางวันอาจเป็นวันที่วุ่นๆ วุ่นวาย เหนื่อยล้า ทำอะไรก็เจออุปสรรค จนคิดว่าวันนี้ช่างผ่านไปช้าเหลือเกิน จะทำอะไรก็ระวังระไวไปซะทุกเรื่อง และแล้วเมื่อเราผ่านวันนั้นไปได้ บางครั้งเราพบว่า เราได้ข้อคิดดีดี ในการทำงานเพื่อที่จะผ่านอุปสรรค ผ่านความวุ่นวายไปได้ แล้วทำให้เราเติบโตขึ้น เข้มแข็งขึ้น และมีสติในการทำงานมากขึ้น ตัดสินใจในเรื่องต่างๆได้ลุ่มลึกมากขึ้น และเราก็บอกตัวเองได้ว่า เราโตขึ้นอีก 1 วัน อย่างคุ้มค่า
หลายครั้งที่เจอกับความสับสน ความไม่ลงตัวในการทำงานที่เรามักเรียกมันว่าปัญหา เราเรียนรู้ที่จะนิ่ง สงบ ประคับประคองสติของตัวเองไม่วิ่งไปกับปัญหานั้น เมื่อใจเรานิ่ง เราพบว่าสิ่งที่เราเจอมันก็ไม่ได้ร้ายแรงอย่างที่เราคิด จินตนาการไปเอง ปัญหานั้นมันได้ให้เรามีสติเข้าไปแก้ไขแล้วแปลงมันให้เป็นโอกาสในการทำงาน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าหลายครั้งเหมือนกัน ที่เราก็ไปไม่ถึงโอกาส เพราะเผลอตัวสติแตกไปก่อน ทำให้ปัญหามันทับถมทวีคูณ....
วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ช่างวุ่นวาย มีผลต่อการทำงานของเราเอง การจะทำให้ใจนิ่งได้ก็คือ มานั่งคุยกับบันทึก(ซึ่งห่างหายไปนาน นาน มากๆ) บันทึกเตือนตัวเอง ให้มีสติ ให้ใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา แล้วก็พบว่าปัญหาไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้น...ทำให้นึกถึงเพลงโปรด ของ บอย โกสิยพงษ์ ที่ชอบฟังเวลาที่ใจไม่ปล่อยวาง ใจร้อนรนไปกับกระแสต่างๆรอบตัว ฟังแล้วใจมีพลังอย่างบอกไม่ถูก.......
อดทนเวลาที่ฝนพรำ.....อย่างน้อยก็ทำให้เรา....ได้เห็นถึงความแตกต่าง
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง.....ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ.....ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
หากเปรียบกับชีวิตของคน.....เมื่อยามสุขล้นจนใจมันยั้งไม่อยู่.....ก็คงเปรียบได้กับฤดู
คงเป็นฤดูที่แสนสดใส
* (และ)แต่ถ้าวันหนึ่งวันไหน....ที่ใจเจ็บจนทุกข์.....ดั่งพายุที่โหมเข้าใส่
บอกกับตัวเองเอาไว้....ความเจ็บต้องมีวันหาย.....ไม่ต่างอะไรที่เราต้องเจอทุกฤดู
** อดทนเวลาที่ฝนพรำ...อย่างน้อยก็ทำให้เราได้เห็นถึงความแตกต่าง
เมื่อวันเวลาที่ฝนจาง...ฟ้าก็คงสว่างและทำให้เราได้เข้าใจ...ว่ามันคุ้มค่าแค่ไหนที่เฝ้ารอ
เมื่อวันที่ต้องเจ็บช้ำใจ.....จากความผิดหวังจนใจมันรับไม่ทัน
เป็นธรรมดาที่เราต้องไหวหวั่น.....กับวันที่อะไรมันเปลี่ยนไป
( ซ้ำ * , ** )
อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นไร....อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย
น้ำตาที่ไหลย่อมมีวันจางหาย....หากไม่รู้จักเจ็บปวด
.....ก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ......
( ซ้ำ ** )
หายไปนานมากจริงๆ จนรู้สึก "คิดถึง" น่ะค่ะ... ^^
เวลาที่ต้อมรู้สึกว่าแย่ที่สุด ก็จะนึกถึงเนื้อเพลง live and learn ค่ะ จดใส่กระดาษแผ่นโตๆ ติดไว้ข้างฝาเลย และหลักแห่งพรหมวิหาร 4
เป็นกำลังใจให้ครูตู่นะคะ ^^
หวัดดีค่ะ คุณต้อม
ดีใจจังเลย ที่คุณต้อมแวะมาทักทาย เพราะเพิ่งอ่านblog คุณต้อม อ่านทีไรยิ้มได้ทุกที ขอบคุณจริงๆ
มาทักทาย คุณครูหายไปนานมากๆๆๆ คิดถึงๆๆๆ
ท้อก็ต้องสู้นะคะครู
Working Woman ซะอย่างครูเรา