หัวผักกาดยักษ์


ร่วมแรงแข็งขัน

สอนคุณธรรมอย่างไร

ให้มีความพอเพียง

บทที่ 10

ความเข้มแข็งของการรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน

                                               

จุดประสงค์ :   เพื่อรู้ รัก และฝึกจนเคยชิน

นิทานคติ  เรื่อง : หัวผักกาดยักษ์

           ในชนบททั่วไปครอบครัวมักเป็นครอบครัวใหญ่ อยู่ร่วมกันหลายคน ชาวบ้านก็ประกอบอาชีพทำสวน ปลูกผัก แต่ที่ชนบทแห่งหนึ่ง มีครอบครัวที่แสนใหญ่อยู่ หัวหน้าครอบครัวเป็นชายชราอายุเกือบเจ็ดสิบปีแล้ว  เขาอยู่ร่วมกับภรรยาซึ่งแต่งงานกันมากว่าห้าสิบปีทีเดียว ทั้งคู่เป็นคุณตาและคุณยายของหลานๆ หลายคน เพราะอะไรนะหรือ ก็เพราะว่พวกเขามีลูกกันถึงสี่คน และแน่นอนว่าทั้งสี่คนต่างก็แต่งงานแล้ว และมีลูกๆ อีกหลายคน ไม่ว่าจะมีคนเยอะอย่างไร ทั้งหมดก็ยังคงอยู่ร่วมกันในบ้านเดียวกัน ชายชราต่อเติมบ้านขยายห้องให้มีมากขึ้น เขามีความสุขกับครอบครัวซึ่งตอนนี้เขามีหลานๆ รวมกันถึงสิบหกคนแล้ว เจ้าหลานคนเล็กสุดยังคงเป็นเด็กแบเบาะอยู่เลย ชายชราและภรรยาต่างก็ทำงานหนักเพื่อครอบครัวมาชั่วชีวิต  แต่เมื่อไม่นานมานี้ ชายชรามอบหมายงานหลายอย่างให้ลูกและหลานได้ทำ ภายในสวนและแปลงผัก พวกเขาปลูกไม้ผลไว้มากมาย และยังปลูกผักกาดไว้ในสวนด้านข้างห้องครัว เพื่อทำเป็นอาหารอีกด้วย

          เมื่อฝนแรกตกมา พวกเขาจะช่วยกันพรวนดินและหว่านเมล็ดผัก หลังจากนั้นจะดูแลรดน้ำทุกวัน แน่นอนหน้าที่รดน้ำซึ่งไม่หนักนักก็จะเป็นของหลานตัวเล็กๆ ส่วนหลานที่โตแล้วจะต้องเข้าสวนเพื่อไปดูต้นไม้ใหญ่ๆ บรรดาพี่น้องและหลานๆ แบ่งหน้าที่กันอย่างดี จึงไม่มีใครบ่นอะไร

เพียงไม่นานก็จะใกล้ถึงฤดูเก็บเกี่ยวผักกาดแล้ว พวกเขาก็เร่งดูแลผักกาดอย่างดี และเมื่อมันโตได้ที่ เขาก็จะเก็บพวกมันเพื่อนำไปกินและที่เหลือก็จะขาย เพื่อนำเงินไปซื้อของจำเป็นอื่นๆ

            แต่ปีนี้ กลับมีเรื่องแปลกเกิดขึ้น ที่กลางสวนของพวกเขากลับมีผักกาดหัวใหญ่ยักษ์มากหัวหนึ่งเกิดขึ้น มันโตเร็วกว่าผักกาดต้นอื่นๆ ตอนนี้มันใหญ่ราวสองฟุตเห็นจะได้ พอวันที่ครบกำหนด ชายชราและเหล่าหลานๆ พากันเข้าไปถอนหัวผักกาดอื่นๆ ได้จนเสร็จหมดแล้ว เหลือเพียงเจ้าหัวผักกาดยักษ์นี่ ชายชราลองพยายามที่จะถอนมันก่อน แต่ก็ไม่สามารถถอนมันออกจากดินได้สำเร็จ เขาจึงร้องเรียกภรรยาของเขาให้มาช่วย

"ยายเอ๊ย ว่างไหม มาช่วยข้าถอนไอ้เจ้าต้นยักษ์นี่หน่อยซิ ข้าแก่แล้วเรี่ยวแรงก็ไม่ค่อยจะมีกับเขาหรอก"

หญิงชราเข้ามาช่วย แต่ทั้งสองก็ไม่สามารถถอนหัวผักกาดต้นยักษ์นี้ได้

            ชายชรารู้สึกไม่ยินยอมพร้อมใจ หัวผักกาดยักษ์นี่ถ้าเอาขึ้นจากดินได้คงพอกินไปได้หลายวัน นั่นแปลว่าพวกเขาจะมีหัวผักกาดเหลือไปขายมากขึ้น ชายชราจึงร้องเรียกลูกชายและลูกสาวให้มาช่วยอีก

"เฮ้ย ลูกชายลูกสาวของข้าเอ๊ย พวกเจ้ามาช่วยข้าดึงไอ้หัวผักกาดยักษ์นี่กันหน่อยซิ วางมือจากงานของพวกเจ้าก่อน มาช่วยข้านี่"

แต่เมื่อพวกลูกๆ มาช่วยกันดึงโดยให้ชายชราจับที่หัวผักกาดไว้อย่างแน่นหนา แล้วคนอื่นๆ จับกันต่อเป็นทอดๆ แล้วช่วยกัน แต่แรงดึงก็ยังไม่พอที่จะทำให้หัวผักกาดขยับเขยื้อนจากผืนดินได้แม้แต่น้อย

            พวกลูกชายและลูกสาวเห็นเช่นนั้นจึงเรียกสามีและภรรยาของตนมาช่วยอีกแรง ตอนนี้มีคนช่วยกันกว่าสิบคนแล้ว ทั้งหมดช่วยกันดึงแต่ก็ยังไม่สามารถดึงหัวผักกาดนี้ได้ ต่างพากันส่งเสียงเร่งกันและลองดึงกันอีกหลายครั้ง

"เอ้า ฮุยเลฮุย  ฮุยเลฮุย ช่วยๆ กันดึงหน่อย ออกแรงอีกนิด ดูซิมันพอจะขยับแล้ว"

แต่แล้วจนแล้วจนรอดก็ยังไม่สามารถถอนหัวผักกาดได้ พวกเขาต่างมองหน้ากันแล้วก็พากันร้องเรียกพวกลูกๆ ให้มาช่วยกัน เด็กๆ ต่างก็วิ่งมาช่วยกัน พวกเขาสนุกสนานกันมาก มันคล้ายๆ กับมีเทศกาลเชียว เพราะว่าเป็นงานที่คนทั้งครอบครัวมาช่วยๆ กัน เด็กๆ ต่างก็ช่วยกันดึงต่อๆ กัน แต่ก็ยังคงไม่สามารถถอนดึงหัวผักกาดได้อยู่ดี

            พวกลูกๆ ต่างถกเถียงกันว่าหัวผักกาดนี้คงมีรากลึก คงต้องขุดมันขึ้นมา ถึงจะถอนได้ง่ายกว่านี้ แต่ชายชราไม่เห็นด้วย เขาเห็นว่ามันเป็นเรื่องเหลวไหล และกล่าวว่า

วันที่พวกเราทั้งครอบครัวช่วยกันถอนไอ้หัวผักกาดแก่ๆ หัวหนึ่งไม่ได้จะต้องไม่เกิดขึ้น พวกเราต้องทำได้

ชายชรานิ่งไปสักครู่ จากนั้นจึงกล่าวด้วยเสียงอันดังว่า

 หรือว่าพวกเราไม่ได้ช่วยกันดึงทุกคนฮ้า!!!”

            ชายชราเดินดูลูกและหลานไปเรื่อยๆ อย่างพินิจพิจารณา จากนั้นเขานำเชือกมาผูกที่ข้อมือของหลานคนเล็กสุด ซึ่งยังนอนอยู่ในตะกร้าจากนั้นก็พูดกับหลานว่า

 แกก็ต้องช่วยด้วยรู้ไหม

พลางเอามือลูบหัวหลาน เด็กน้อยก็ขยับข้อมือไปมา คล้ายช่วยดึงจริงๆ

จากนั้นชายชราก็นำเชือกไปผูกที่ข้อมือของทุกๆ คน และตอนนี้ทุกคนก็ช่วยกันดึง ทีแล้วทีเล่า

ชายชราร้องให้สัญญาณเป็นระยะๆ เจ้าหลานคนเล็กคงทนเสียงดังไม่ไหว ร้องไห้ออกมาด้วย เจ้าเด็กน้อยยกมือขึ้นชูไปมา

แต่ทันใดนั้นหัวผักกาดก็ค่อยๆ หลุดออกจากผืนดินทีละน้อย ทุกคนเห็นเช่นนั้นก็ช่วยกันดึงอย่างสุดแรง หัวผักกาดก็หลุดออกมาได้ แน่นอนว่าตอนที่หัวผักกาดพ้นดินขึ้นมาทุกคนไม่ทันระวัง ก็เลยล้มหงายไปทางด้านหลังพร้อมๆ กันด้วย เล่นเอาเจ้าหลานคนเล็กเกือบโดนทับทีเดียวแหละ

            ทุกคนต่างพากันหัวเราะ แล้วก็มีเสียงหนึ่งพูดว่า

ช่างเป็นเด็กที่แข็งแรงจริงๆ เลย นี่ถ้าไม่ได้เจ้าตัวเล็กช่วยดึง สงสัยคงถอนไอ้เจ้าหัวยักษ์นี่ออกจากดินได้แน่ 

แล้วทั้งหมดก็หัวเราะดังๆ

            ชายชราปรบมือ แล้วเอ่ยว่า ไม่หรอก พวกเราทั้งครอบครัวต่างหากที่แข็งแกร่ง

 

 

ฝึกคุณธรรม

            ๑) ฝึกรู้รอบ : เรื่องนี้เหมาะสมสำหรับสอนเรื่องการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันหรือไม่ อย่างไร

            ๒) ฝึกแข็งขัน : เราจะมีแสดงถึงการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างเหมาะสมได้อย่างไร  แล้วเรามีความมุ่งมั่นที่จะทำแค่ไหน

            ๓) ฝึกพอเพียง : การรวมเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างไร จึงเรียกว่าทำได้อย่าง พอเพียง

                                    - อย่างไรเรียกว่าขาด

                                    - อย่างไรเรียกว่าเกิน

            ๔) ฝึกความยุติธรรม : การรวมเป็นหนึ่งเดียวกันที่ดำเนินไปอย่างมีความยุติธรรมเป็นอย่างไร ให้ช่วยกันยกตัวอย่าง

 

กิจกรรมสันทนาการ

            ๑.ให้อาสาสมัครลองเล่าถึงเหตุการณ์ที่ร่วมมือร่วมใจกัน เพื่อทำงานให้ประสบความสำเร็จ

 

เอนก สุวรรณบัณฑิต

ปรับจากหนังสือ Discovering the Real Me, Universal Peace Federation Edition

หมายเลขบันทึก: 180283เขียนเมื่อ 2 พฤษภาคม 2008 19:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 22 มิถุนายน 2012 14:21 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

เป็นนิทานที่ดีมากกก แต่!หน้าจะมีคำพูดบรรยายให้เด็กๆด้วยค่ะ

อ่านไม่ออก

นะจะ

เล่ย

อ่านไม่รู้เรื่อง

เลยนะจะ

ไปอ่านไม่

สนุกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกมากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

หนูประกวดเล่นนิทานเรื่องหัวผักกาดยักษ์ ที่ลำดับที่ 1 จร้า ...

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท