มาดูรถไฟ ลุงเอกว่าเป็นรถไฟที่สอนคน เพราะเขาคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ช้านาทีสองนาทีตกรถทันที ที่เมืองเวนิสลุงเอกวิ่งสี่ขาเลย ใครอย่าคิดไม่ดีต่อลุงเอกเพราะขาภรรยาอีกสองขาไง คณะลุงวิ่งแบบไม่คิดชีวิตเลยทันพอดี
การเดินทางในยุโรปว่ากันว่าไม่ใช่ของยาก มีทั้งเครื่องบิน รถไฟ รถยนตร์โดยสาร แม้แต่ขับรถไปมาหากันก็สะดวก บางคนบอกว่าขอให้มีเงินก็ไปได้หมดลุงเอกไม่เถียงครับ
ทุกคนรู้ว่าถ้าไปโดยรถยนตร์ก็ขับไปตามมอเตอร์เวย์ บางประเทศเรียกมอเตอร์รูท บ้านเราเรียกซูเปอร์ไฮเวย์ บ้านเขานั้นหมู่บ้านอยู่ไกลจากถนนใหญ่มาก ต้องออกทางแยกไปเป็นกิโลเมตรจึงจะถึงชุมชน ผิดกับบ้านเรา รถบรรทุกที่วิ่งบนถนนวันดีคืนดีแทบจะวิ่งมาจอดบนเตียงนอนเรา หรือเข้าประตูบ้านเราก็เคยมี แต่ละเมืองเขาวิ่งไปมาหาสู่กันสะดวก ถนนไม่ตัดกันนัวเนียอย่างเรา วัว ควาย หมู หมา กา ไก่ก็ไม่มี แล่นช้าโดนจับเพราะไปกีดขวางคนอื่นเขา
หากไปโดยเครื่องบินนั้นราคาถูกกว่ารถไฟครับ ในยุโรปจังหวะดีๆซื้อตั๋วถูกกว่ารถไฟครึ่งหนึ่ง เครื่องบินเขาก็เล็กไม่ใหญ่โตมโหฬารเหมือนบ้านเรา ที่นั่งกันสามร้อยห้าร้อยคน เพราะคนเขาไม่มาก คนเท่าบ้านเราหกสิบสามล้านบ้านเขาอาจจะแบ่งเป็นห้าประเทศ คนไม่เคยไปวางแผนจึงผิดหมดเพราะการใช้เครื่องบินในประเทศต้องจองกันนาน แต่ไปเครื่องบินแล้วลำบากเช็คอิน เช็คเอ๊าลำบาก กว่าจะออกมาตรวจสารพัด ลุงเอกไปสวีเดนมาแทบจะแก้ผ้าตรวจ รองเท้าถุงเท้าเข็มขัด เสื้อผ้าบางชิ้นให้ถอดหมด บ้านเขากลัวระเบิดมาก มาอยู่บ้านเรามีหวังหัวเราะ ก๊ากๆๆๆๆ แบบน้องจิแน่ๆเลย หลวมจริงๆ
สถานีรถไฟเป็นสถาปัตย์และปฏิมากรรม เก้าอี้นั่งก็สบายคนใช้เหมือนแอร์พอร์ตลากกระเป๋ากันเต็มไปหมด
มาดูรถไฟ ลุงเอกว่าเป็นรถไฟที่สอนคน เพราะเขาคุมด้วยคอมพิวเตอร์ ช้านาทีสองนาทีตกรถทันที ที่เมืองเวนิสลุงเอกวิ่งสี่ขาเลย ใครอย่าคิดไม่ดีต่อลุงเอกเพราะขาภรรยาอีกสองขาไง คณะลุงวิ่งแบบไม่คิดชีวิตเลยทันพอดี
คนเดินกันขวักไขว่ด้วยชื่อของอิตาลีลุงเอกจึงหนีบกระเป๋าอย่างแน่นหนา คนจะมาออดูตารางรถไฟ เข้าชานชลาผิดก็ไปโน่นอีกประเทศ ไม่ดูตู้ก็เรียบร้อยวิ่งตับแลบ ที่นั่งก็ล็อกเหมือนเครื่องบินถ้าเสี่ยงเอาประหยัดก็ไม่ต้องจองที่นั่งไปเสี่ยงเอาดาบหน้า
รถไฟเขาสะดวกมาก เมื่อครั้งยังหนุ่มลุงเอกเคยซื้อตั๋ว Europass ไปจากบ้านเรา แต่ก่อนบริษัทดิสแฮมขายอยู่ที่ตึกเคี่ยนหงวน ถนนวิทยุ แต่เดี๋ยวนี้ย้ายไปไหนแล้วไม่รู้ ลุงเอกซื้อแบบสิบห้าวันแค่หกพันเศษ เดี๋ยวนี้น่าจะเป็นหมื่นบาทแต่ก็จะสะดวกมากเลย ไปได้เป็นสิบประเทศค่ำก็ขึ้นนอนบนรถไฟถึงประเทศไหนก็เอากระเป๋าฝากล๊อคเกอร์ แล้วก็ไปเที่ยวมืดมาก็ขึ้นรถไฟ หลับไปตื่นมาก็เที่ยวรถระหว่างประเทศเขาดีกว่าเครื่อบินอีกครับ แล้ววิ่งสามร้อยกว่า กม.ต่อช่วโมง เชียงใหม่กรุงเทพก็แค่สองชั่วโมงกว่าถึง เห็นไหมครับคนจึงนั่งรถไฟ ทุกๆประเทศมีหัวลำโพงเหมือนบ้านเรา
ดูแล้วน่านั่งใหมครับ
นั่งสบายเชียวครับ แต่ข้อสำคัญดูข้าวของดีๆครับตื่นมาอาจหายหมด
ภายในตู้ดูดีครับ หลับก็สะดวกมีที่กั้นคอหัก แต่หากน้ำลายไหมไม่มีที่กั้นครับ รับผิดชอบเอง