ใครเรียนด้าน วัฒนธรรมบ้าง...ยกมือขึ้น???


วัฒนธรรม = ความเจริญงอกงามจริงหรือ? อยากเชิญชวนให้แสดงความคิดเห็นค่ะ

เมื่อวันที่ 4 พ.ค.2551 ที่ผ่าน

อี๋ได้ไปฟัง การประชุม "เรื่องแนวทางในการปฎิบัติและตรวจสอบสถานประกอบการตามพระราชบัญญัติภาพยนตร์และวิดิทัศน์ 2551" การประชุมนี้เริ่มจาก 8.00-16.00 น. ที่ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒธรรมแห่งชาติ โดยสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติเป็นเจ้าภาพ  เชิญ บรรดาเกล่าผู้ประกอบการตาม พรบ.นี้ เข้าร่วมประชุม

ซึ่ง หลักๆที่ไปในวันนนี้จะเป็นผู้ประกอบการร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่และเกม กว่า 1,000 คน เพื่อบรรยายให้ฟังถึงสาระสำคัญของ กม. ฉบับดังกล่าวว่าเกี่ยวข้องกับร้านอินเทอร์เน็ตและเกมอย่างไรบ้าง?

- ที่เกี่ยวข้องก็ตาม มาตรา 4 วรรค 2 (3) คือ "ร้านวิดิทัศน์ หมายความว่า  สถานที่จัดให้มีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ตลอดจนสิงอำนวยความสะดวกในการฉาย เล่น หรือ ดูวิดิทัศน์"  ดังนั้นก็ขอให้เจ้าของร้านทั้งหลายว่า ตนเองตกอยู่ภายใน กม. นี้  มีหน้าที่ต้องปฎิบัติตาม กม. และ ในทางกลับกันก็ได้รับความคุ้มครองจากกม.นี้เช่นกัน.

เช่น  1) การประกอบกิจการจะต้องขอใบอนุญาติ 2) การประกอบกิจการต้องทำในวัน เวลา และเงื่อนไขที กม. กำหนด (กฎกระทรวง) 3)เพื่อประโยชน์การคุ้มครองเด็ก  ให้กำหนดการเข้าใช้บริการของเด็กอายุตำกว่า 18 ปี ได้ตาม กฎกระทรวงเช่นกัน

โดยสาระสำคัญก็คือเรื่องการพัฒนาร้านเกมและอินเทอร์เน็ตให้เป็นไปในทางปลอดภัยและเป็นประโยชน์ต่อเด็กและเยาวชน ขอความร่วมมือร่วมใจจากทุกๆฝ่ายเพื่อเยาชนของชาติเรานั่นเอง..

ฟังดูดีใช่ไหม???..นั่นคือ ส่วนที่เป็นสาระ..

 

ส่วนที่ไม่เป็นสาระ แต่เป็นเรื่องที่อาจจะต้องตระหนักสำหรับเราในวันนั้นคือ ประโยค คำพูดของผู้ใหญ่บางท่านที่บรรยายในงานนั้น  ความตั้งใจของท่านเพียงเพื่อเรียกร้องความเห็นใจจากบรรดาเจ้าของกิจการ  วันน้น ท่านกล่าวว่า "(ท่าน)ไม่ใช่คนที่ทราบเรื่องกฎหมาย  ไม่ทราบเรื่องเทคโนโลยี  และ ไม่ทราบลักษณะในการประกอบธุรกิจร้านเกม และ ในเมืองไทยก็ไม่มีสอนสาขาวิชา "ร้านเกม"  ซะด้วย

แต่ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านวัฒนธรรม  จนถึงขั้นเป็นอธิบดีกรมๆหนึ่งในกระทรวงวัฒนธรรมมาแล้ว  ซึ่ง วัฒนธรรมในความหมายของท่าน หมาย ความ สิงที่เจริญงอกงาม ความเจริญงอกงาม  ดังนั้นท่านไม่เห็นว่าร้านเกมจะเป็นเรื่องเจริญงอกงามตรงไหน?  ร้านเกมมันเป็นวัฒนธรรมตรงไหน?

ทันใดนั้น วิญญาณนักเรียน บริหารงานวัฒนธรรมพุ่งพล่านเลยทีเดียว...เริ่มกังวลว่าตายละ หากท่านไม่ทราบ เรื่องธุรกิจ ไม่ทราบ เทคโนโลยี ยังพออนุโลมและพอเข้าใจได้ ว่าเป็นสิ่งที่ต้องมาเรียนรู้กันต่อไปในภายหน้า..แต่ ณ วันนี้แล้ว ท่านยังไม่ทราบเลว่า ทำไม พรบ.นี้ มาตกอยู่มือท่าน  ร้านเกมทำไมต้องอยู่ในความดูแลของท่าน....

นิยามคำว่า "วัฒนธรรม" ในวิสัยทัศน์ของคนที่มีอำนาจและ กม.อยู่ในมือ หาก คือ แค่ความเจริญงอกงามแล้วนั้น อะไรที่ไม่ดีงามไม่ถือเป็นวัฒนธรรมนั่น...ช่างน่าเป็นห่วงมากๆ

ข้อถัดมา สำหรับการประชุมครั้งนั้น  มีความหยาบคายเชิงโครงสร้างอยู่มาก  คือ  เมื่อท่านอยู่บนเวทีแล้วมีผู้แสดงความคิดเห็น  อันขัดแย้งกับท่าน...ท่านนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นมุขตลก ขำขัน  ทำให้คนๆนั้นได้อาย..  เหมือนท่านวางดาบลงไปบนผู้ออกความเห็นซะแล้ว...โดยเฉพาะเรื่องที่ ผู้ประกอบการท่านหนึ่งแสดงตัวขอเข้าไปมีส่วนร่วมในการร่างกฎกระทรวงที่จะมาควบคุมดูแลกิจการของเขา...ท่านบอกว่า การแสดงความคิดเห็นแบบนั้น  เป็นเรื่องเป็น Non sense ไม่น่าเอามาถาม..โอ๊ะโอ  เวทีนี้มีไมค์เป็นอาวุธ 

เป็นกริยาที่เรารู้สึกว่า การประชุมใหญ่ขนาดนี้ควรมีการควบคุมสถานการณ์มากกว่านี้

การปฎิบัติตามคำสั่งจากฝ่ายปกครองนั้นฝังแน่นอยู่ในวัฒนธรรมของคนไทย ยากที่จะแก้ไข..แต่หากปล่อยให้ฝ่ายปกครองที่ไม่ประกาศตัวว่าไม่ทราบเรื่องที่กำลังจะต้องรับผิดชอบมาออกกฎเกณฑ์ในการควบคุมกิจการตนเองอย่างนั้นหรือ?

ลองหันมามองกันใหม่ดีไหม? เราสร้างวัฒนธรรมการมีส่วนร่วมของสังคมได้หรือไม่  และ เราควรจะต้องเริ่มล้วหรือยัง?...หรือ เรายิมยอมที่จะให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำแล้วซ้ำอีก..

แล้วไปแอบบ่น..หลังจากมีกฎเกณฑ์ที่เราไม่ได้มีส่วนร่วมสร้างเกิดขึ้น

 

อยากขอให้ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเรื่องวัฒนธรรมช่วยระดมสมองกันซักนิด...ว่ากรณีร้านเกมเป็นวัฒนธรรมอย่างไร?.. ถามจากใจค่ะ

คำสำคัญ (Tags): #ร้านเนต#อ. แหวว
หมายเลขบันทึก: 180713เขียนเมื่อ 5 พฤษภาคม 2008 17:16 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)

สวัสดีค่ะคุณอี๋

  • มาตามคำสัญญาค่ะ
  • มาฟังคุณอี๋บ่นเล็กน้อยๆ อิอิ
  • บ่นแล้วก็ไม่มีอะไรดีขึ้นค่ะคุณอี๋ หนักสมองซะเปล่า
  • ดูผู้นำของประเทศซีค่ะ ท่านมีปิยะวาจา ที่น่ารักซะมัดเลย อิอิ
  • อย่าไปสนใจ ทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดดีกว่านะค่ะ จะได้สบายใจ
  • ขอบคุณค่ะ

อี๋คะ

มันเป็นเรื่องปวดใจของคนที่เข้าใจนะ

คำว่าวัฒนธรรม ในความหมายของหน่วยงานบางหน่วยงานในระบบราชการ

นั้นคับแคบราวกับจะสะท้อนให้เห็นถึงจิตใจ และวิสัยทัศน์ของพวกเขาอยู่เหมือนกัน

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมอะไรๆ มันถึงออกมาแย่ๆ แก้ไม่ได้

เพราะเค้าเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบตรง แต่เค้ากลับไม่เข้าใจ

และมากไปกว่านั้นคือ ไม่เปิดใจเรียนรู้ ด้วยค่ะ

ปล.จำได้ลางๆ ว่าแนทมาบ่นๆ ถึงบรรยากาศในวันนั้นให้ฟังอยู่เหมือนกัน มันป็นอย่างนี้นี่เอง

เหมือนยังไม่ได้ตอบคำถามที่น้องถามมาจากใจ

แล้วพี่จะมาตอบใหม่ค่ะ

เป็นวัฒนธรรม วัถตุนิยม แฟชั่น

แต่อย่างน้อย มี หมาวิทยาลัยหนึ่ง เปิดคณะวิศวกรรมศาสตร์

สาขา คอมพิวเตอร์และ แอนนิเมชั่นแล้ว ก็เป็นอาชีพหนึ่ง

แต่ต้องเริ่มสร้างจรรยาบรรณ ของเกมส์ เพราะเกมส์ ปัจจุบันนี้สอนเด็กเป็น

อาชญากรในอนาคตครับ เพราะรุนแรงเหลือเกิน หากเกมส์สร้างสรรค์

ก็สร้างการเติบโตของสมองได้ครับ

ต้องรีบสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้นะ

ไม่อย่างนั้น จะไม่มีโอกาสได้สร้างวัฒนธรรมเชิงรุก เปลี่ยนร้านเกมให้เป็นพื้นที่เรียนรู้ให้เด็ก สร้างวัฒนธรรมใหม่ในการใช้ไอซีที

รีบเตรียมความพร้อมกันเถอะ นักศึกษากลุ่มวัฒนธรรม

อี๋คะ เตรียมประกาศสร้าง "พื้นที่เสพวัฒนธรรมเพื่อการพัฒนา" ในร้านเกมได้แล้วค่ะ

เริ่มต้นที่ "เรา" ค่ะ บ่นไป ก็ไม่มีประโยชน์ค่ะ

มาลงมือลงตีนกันดีกว่า เมื่อไหร่ดี

ขอหยิบตำหรับตำรามาร่วมระดมสมองด้วยคน

ลองพิจารณาตามลักษณะของวัฒนธรรมตามการแบ่งตามคุณลักษณะแบบนี้กันดูดีกว่า

ข้อที่ 1. วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ "เรียนรู้" ได้ : ข้อนี้ก็ตอบคำถามว่า ร้านเกมมันเป็นวัฒนธรรมตรงไหน มันก็เป็นตรงที่ มันเป็นสิ่งที่เรียนรู้ได้

ข้อที่ 2. วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่ถ่ายทอดจากคนรุ่นหนึ่งไปสู่คนรุ่นหนึ่ง : ข้อนี้ก็ใช้ตอบคำถามเดียวกับข้อ 1 ได้อีกเช่นกัน ก็คนรุ่นเก่าเขาไปเรียนพิมพ์ดีดกัน คนรุ่นนี้ก็ต้องไปเรียนคอมพิวเตอร์ แล้วการเรียนผ่านการเล่นเกมส์ ก็เป็นการเรียนรู้อย่างนึงนี่นา

ข้อที่ 3. วัฒนธรรมเป็นสิ่งที่เปลี่ยนแปลงได้ : โอ้โหข้อนี้ใช้ตอบได้หลายคำถาม โดยเฉพาะกรอบความคิดของผู้พูด

โอ้ แค่ 3 ข้อก็พอแล้วเน๊อะ นี่แค่การแบ่งตามตำราเล่มเดียวนะเนี่ย

ต้องติดตามการลงไม้ลงมืออย่างที่อ.แหววแนะนำกันต่อไป

เป็นคนไม่มี "วัฒนธรรม" ก๊าบ คุณอี๋ ...

เคยเรียน "มนุษย์กับอารยธรรม" "อารยธรรมจีน"

ทำวิจัยวุ่น ๆ วาย ๆ กับ "วัฒนธรรมท้องถิ่น"

แต่ยังไง ก็ยังไม่มี "วัฒนธรรม"

ขอบคุณครับ เรื่องราวน่าสนใจดีจัง :)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท