หมอม้ง สานฝันจากยอดดอย


คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน ขอจงมองโลกในทางบวก เร่งสร้างความหวังและความฝัน ตลอดจนมีความมานะ บากบั่น ไม่ละทิ้งความหวัง แล้วท่านจะประสบความสำเร็จ

อรุณสวัสดิ์ครับ

ที่ผ่านมาผมหยิบข่าวที่ค่อนข้างจะเป็นประเด็นปัญหาของสังคม วันนี้เลยขอเสนอข่าวที่เป็นเรื่องดีๆ ดูบ้าง

เป็นข่าว หมอม้ง สานฝันจากยอดดอย   ที่เป็นเรืองราวของ หมอชาวไทยภูเขาคนหนึ่ง ที่บากบั่นมานะ ต่อสู้ดิ้นรน เริ่มจากการเรียน ป. ตรี จนจบพยาบาล ทำงานได้สองปี  แล้วสอบเรียน แพทยศาสตร์ ตอนอายุ 34  แล้ว จากนั้นเรียนจนจบได้เป็น หมอ สมใจตอนอายุ 40 ปี

ความน่าสนใจอยู่ตรงที่

  • คนที่เคยผ่านความลำบากในชีวิต มักจะมีแรงผลักดันให้ตัวเองประสบความสำเร็จ จะเห็นว่ามีคนที่ประสบความสำเร็จหลายๆ ท่านมักจะเล่าถึงความยากลำบากของตัวเองในวัยเด็ก และต่อสู้ดิ้นรนโดยเอาความยากลำบากเป็นแรงผลักดัน จนประสบความสำเร็จ   แต่น่าเสียดายที่หลายคนมองความยากลำบากของตัวเองเป็นปมด้อย ชะตากรรม หรืออะไรก็แล้วแต่ สุดท้ายก็แก้ปัญหาความลำบากด้วยการหันไปสู้อบายมุข จนพบความวิบัติในชีวิต  อันนี้เห็นได้ชัดเจนว่า   การมองโลกในทางบวก  มักก่อให้เกิดผลทางบวกตามมา
  • คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน  ดังนั้น หนทางชีวิตของแต่ละคนจึง สั้นยาวไม่เท่ากัน  บางคนก็เรียนๆๆๆ แล้วประสบความสำเร็จในเวลาอันสั้น   แต่บางคนต้องเรียน ทีละนิดๆๆๆ กว่าจะประสบความสำเร็จ ก็ปาไปครึ่งค่อนชีวิต  ประเด็นสำคัญคือ  แต่ละคนได้วางแผนชีวิตของตนไว้อย่างไร (แต่ต้องเป็นแผนที่เหมาะกับความสามารถ และวาสนาของตัวเอง)  เพือนผมหลายคน ผันตัวเองออกไปสอบ เป็น นร พลตำรวจ  จากนั้นก็สอบเข้านายร้อย  ตอนนี้ก็ติดยศพันตำรวจตรี กันหลายคน  ซึ่งก็ประสบความสำเร็จพอๆ กับคนที่ไปสอบเข้านายร้อยโดยตรง  คนเราเป้าหมายเหมือนกัน แต่การเดินทางอาจจะต่างกัน 
  • อีกเรืองที่สำคัญไม่แพ้กัน  ก้คือ  การไม่ทิ้งซึ่งความหวัง  คนเราต่างก็มีเป้าหมาย และมีหวังว่าจะไปถึงเป้าหมาย  แต่น่าเสียดาย บางคนมักจะยอมแพ้โชคชะตา ไม่ยอมลุกมาต่อสู้  หลายคนอยากเป็นโน่น เป็นนี่  แต่พอเจอปัญหาก็ยอมแพ้ หรือ ละทิ้งเป้าหมายที่ตัวเองอยากเป็น  จากตัวอย่างของคุณหมอท่านนี้  แม้ว่าชีวิตท่านก็ประสบความสำเร็จมาระดับหนึ่ง แต่อาจจะไม่ใช่จุดที่ตัวเองต้องการ สุดท้ายท่านก็มานะกลับมาสู่ความหวังที่ต้องการได้เ่ช่นกัน  ดังนั้น  ขอให้คนเราจงมีฝัน และมีความพยายามไปให้ถึงฝั่งฝัน

อยากให้ข่าวนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายๆ คน  และขอเป็นกำลังใจให้คุณหมอท่านนี้ด้วย

 

คำสำคัญ (Tags): #แรงบันดาลใจ
หมายเลขบันทึก: 181170เขียนเมื่อ 8 พฤษภาคม 2008 05:53 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 มิถุนายน 2012 23:06 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (7)

สวัสดีค่ะ อาจารย์หมอ น้องชายครูอ้อย แอ๊บแบ๊ว ....

  • บันทึกนี้ เข้าทางครูอ้อยหมดเลย  เรียนเรียน จนอายุปูนนี้ก็ยังตามหาฝัน  ก็มีความสุขไปอย่างนะคะ  พยายามมองอะไรเป็นบวก คิดบวก  มีความสุขดีค่ะ
  • แต่ที่มีความสุขที่สุดก็คือ  ได้ทำอะไรที่ใจปรารถนาค่ะ

ขอบคุณค่ะ  กำลังใจที่ดี ที่มาหาแต่เช้า  แต่เราต้องอ่าน ต้องขวนขวาย ใช่ไหมคะ

สวัสดียามเช้าครับ ครูอ้อย

เดี๋ยวนี้ อะไรๆ มันก็เร็วนะครับ แค่ผมคลิก แล้ว refresh บล็อคตัวเอง ก็ปรากฎว่า ครูอ้อย เข้ามาเยี่ยมในบันทึกของผมแล้ว ขอบคุณมากเลยครับ

ใช่แล้วครับ คนเรามีฝันก็ต้องตามหาฝัน จะนานแค่ไหนเราก็ต้องตาม ถึงแม้ว่าเราจะตามไม่เจอแต่เราก็มีความสุข นะครับ

น่าเสียดายหลายคน ตายไปโดยที่ไม่รู้ว่าฝันของตัวเอง เป็นอย่างไร

เป็นกำลังใจให้กันและกันนะครับ ครูอ้อย

สวัสดีครับrecovery

ในขณะที่คน ๆ หนึ่งงง อีกหลายคนสดชื่น และบางคนอยู่บนความประมาท หรือไม่ก็จะหลับสบายดี อีกซีกโลกหนึ่งเพิ่งตื่น ทำงานกันโดยไม่ย่อท้อ ขอบคุณสำหรับข้อเขียนที่ดี ทำให้ได้รับความรู้ในเช้าวันนี้มากมายครับ.

ขอบคุณ คุณ Mr. Tanu Polbhun ประชาชนคนน่าน ที่แวะมาเยี่ยมในบันทึกของผม ใช่แล้วครับ ทุกวันนี้ โลกเราเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวาย ผลัดกันหลับ ผลัดกันตื่น ผลัดกันทุกข์ ผลัดกันสุข เพือให้ชีวิตโดยรวมได้มีการดำเนินต่อไป ยามเช้าที่เมืองน่าน เป็นไงมั่งครับผม

สวัสดีครับ

เพิ่งอ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ มาเปิดg2kพบมีบันทึกชื่นชมคุณหมอ เลยขอชื่นชมคุณหมอจากยอดดอยด้วยอีกคนครับ

คนมีมานะ ย่อมถึงที่หมายได้ในวันหนึ่ง

คนที่ผมรู้จักเป็นเช่นนี้หลายคน

  • คนหนึ่ง เริ่มจากเป็น รปภ.เฝ้าหน้าบริษัท ขยันช่วยงานจนเขาบรรจุเป็นพนักงานถ่ายเอกสาร ตั้งใจเรียนภาคค่ำจนได้ป.ตรี เลื่อนฐานะเป็นนักวิชาการ แล้วใช้ประสบการณ์จากการทำงานสอบเข้าเรียนต่อที่นิด้าจนได้ ป.โท ปัจจุบันเป็นนักวิจัยอิสระ เป็นอาจารย์สอนพิเศษตามมหาวิทยาลัยต่างๆ
  • คนหนึ่ง จบ ปวช. เริ่มงานเป็นลูกจ้างรายวัน เรียนต่อ มสธ.จนจบ ป.ตรี ช่วยงานอาจารย์ไปด้วยเรียนไปด้วยจนจบ ป.โท ทำงานสักพักไปเรียน AITพร้อมกับรับเงินเดือนนักวิจัยไปด้วย เดี๋ยวนี้จบดอกเตอร์แล้วครับ
  • คนหนึ่ง จบม.ต้นเข้าเรียนผู้ช่วยพยาบาล มาขึ้นเวรดึกไปด้วย เรียนต่อไปด้วย ตั้งแต่ชั้น ม.ปลายที่โรงเรียนศึกษาผู้ใหญ่ภาคค่ำ ป.ตรี และ ป.โท ใช้เวลาเรียนไปด้วยอยู่เวรไปด้วยร่วมสิบสองปี เดี๋ยวนี้เป็นผู้เชี่ยวชาญนานาชาติแล้วครับ

หนึ่งในสามคนนี้เป็นผมเอง

ขอชื่นชมความมานะของผู้คนอีกครั้ง

ขอบคุณ คุณ paleeyon ที่เข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ดีๆ

ก่อนอื่นคงต้องแสดงความชื่นชมยินดีกับคุณ paleeyon ที่สามารถเอาชนะความไม่พร้อมของชีวิต ตลอดจนมีความมุมานะ จนทำให้มีวันนี้ได้  นับว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตที่น่าชื่นชมยิ่งนัก

 

เวลาผมไปบรรยายหรือออกไปทำกลุ่มกับผู้ด้อยโอกาส  ก็นึกเสมอนะว่า ถ้าเราสามารถเชิญคนที่มีประสบการณ์ต่อสู้ชีวิต  จากจุดเล็กๆ้ จนกระทั่งประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่  ให้เขาได้มาให้ข้อคิด และจุดประกายให้กับเยาวชนรุ่นหลัังได้ ก็น่าจะมีประโยชน์จาก

 

เพราะเราพร่ำ่บอกไปว่า  ต้องขยัน มานะ อดทน  แต่คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจว่า ผลสุดท้ายมันเป็นอย่างไร  

 

แต่ถ้าเรายกตัวอย่าง  เช่น  จาก รปภ จนเป็นอาจารย์พิเศษ  จาก ปวช จนกลายเป็น ดร. ได้  หรือจากผู้ช่วยพยาบาล เป็นผู้เชียวชาญระดับนานาชาติ    ได้

สิ่งที่เราพร่ำบอก มันก็จะมองเห็นภาพได้ชัด 

 

ขอบคุณสำหรับตัวอย่างดีๆ   ที่อาจจะจุดประกายให้ใครอีกหลายคน

 

อยากทำความฝันให้เป็นจริงเหมือนคุณหมอบ้าง รู้สึกชื่นชมหมอม้งมาก เพราะได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่เค้าสัมภาษณ์ท่านแล้วท่านทุ่มเทกับงานรักษาคนไข้ของท่านมากก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท