ความ "ในใจ"


"ความ.."ในใจ"..คืออะไร..ความ + ในใจ หรือ ความใน+ใจ...หรือ...

    หลังจากที่ได้รับการชักชวนจาก..ใครบางคน..ในทำนองมาเขียน "บันทึกใน Blog gotoknow.org กันเถอะ" ..หลายครั้งหลายครา..เกิดครุ่นคิดและทบทวน จนเกิดอาการ "Think แว๊บ" ว่า..

    เขียนบ้างก็น่าจะดีเพราะเท่าที่เข้ามา ลปรร. ยังมีบางประเด็นที่มีการ ลปรร. กันน้อยมาก..นั่นคือ..เรื่อง "ความ.."ในใจ"..คืออะไร..ความ + ในใจ หรือ ความใน+ใจ...หรือ...สุดแท้แล้วแต่การนิยาม (ไม่ปิดกั้นจินตนาการ)..แต่ที่ตั้งใจจริงๆ นั่นคือ..เป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้...สำหรับการดูแลทางด้านจิตใจ..ของคน ชุมชน สังคม โลก...

    เมื่อเกิด "Think แว๊บ" จึงได้ร่วม ลปรร. กับ "เพื่อนที่รักคนดีคนหนึ่ง"...ที่ได้ร่วมอุดมการณ์และจิตวิญญาณแห่งความเชื่อในความเป็น "มนุษย์" ผู้มีความงดงามแห่งปัญญา อย่างไร้เงื่อนไขใดใด..จึงได้แวะเวียนเข้ามา..เพื่อบทบาท..อีกหนึ่งบทบาท..ในเวที ลปรร. แห่งนี้...

 

 

 

หากมองใคร..สักคนด้วย Mind' eye จะทำให้เราเข้าใจในเขา

อย่างไร้เงื่อนไขใดใด

...

หากเรามองใครด้วย Mind'eye มองลึกลงไปในเจตนาที่ดีงาม 

หาใช่การมองเพียงแค่คำพูด อารมณ์ พฤติกรรม หรือการกระทำใดใดก็ตาม...

ย่อมทำให้ใจเรา..ละมุนละไมและเบิกบานต่อการที่จะ

"ให้"...ด้วยใจที่อยากจะให้

เกิดความเข้าใจอย่างมีความหมายยิ่งขึ้น

(Meaningfull ---> Understanding)

 

 

หมายเลขบันทึก: 18299เขียนเมื่อ 10 มีนาคม 2006 03:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 17:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (16)

Meaningfull ---> Understanding

Meaningfull ---> Deep Understanding

ความในใจคืออะไร ก็คือ เข้าใจของเราเองไงคะ

และเมื่อหร่ที่เราเข้าใจ ความในใจ ของคนอื่น

นั่นคือ เราเริ่มเข้าใจกันและกันคะ.......^_^

A New Day Has Come.... วันใหม่ที่สดใสกำลังรอเราอยู่คะ

     ตอนนี้กำลังประชุมอยู่กับ สวรส.ภาคใต้ มอ. พิจารณาแผนงานคนพิการภาคใต้) ดีใจมากที่เห็น "เพื่อนที่รักคนดีคนหนึ่ง" ในเวทีแห่งนี้...แล้วจะกลับมาเขียนอีกครั้ง เมื่อเวลาอำนวยให้ ตอนนี้ขอบอกว่า..."ดีใจจัง"

หากเรามองใครด้วย Mind'eye มองลึกลงไปในเจตนาที่ดีงาม 

หาใช่การมองเพียงแค่คำพูด อารมณ์ พฤติกรรม หรือการกระทำใดใดก็ตาม...

ย่อมทำให้ใจเรา..ละมุนละไมและเบิกบานต่อการที่จะ

"ให้"...ด้วยใจที่อยากจะให้

 

ชอบจังประโยคนี้

 

 

                             " ความไว้วางใจ "

        ...เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย...เพราะเมื่อใดก็ตามที่เรารู้ว่ามีคนๆหนึ่งที่ไว้ใจ ..เชื่อใจเรา.. เมื่อนั้นเราจะรู้สึกว่า " เรามีสิ่งที่ต้องทำและควรทำอย่างดีที่สุด "  นอกจากนั้นความไว้วางใจคือเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่ได้รับ  เพราะในความไว้วางใจ จะเปี่ยมไปด้วยมีความเชื่อมั่น  ความศรัทธา  ความกล้าหาญ  การยอมรับ  มิตรภาพ  และความพร้อมที่จะเดินเคียงข้างเราเสมอ   " มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่เกิดจากความไว้วางใจเสมอมา "      ขอบคุณ สำหรับ.. " ความไว้วางใจ "..

ความในใจมีมากมาย แต่บางครั้งเราก็ไม่อาจจะบอกให้เขารู้ได้เพราะกลัวที่จะต้องเสียเขาไป เราต้องทนอยู่กับคำว่าเข้าใจกัน แต่แท้ที่จริงแล้วมันอาจไม่ใช่อย่างที่คิด คำว่าคิดมากเลยเกิดขึ้นมา หาทางออกไม่เจอ มีแต่ทางตันไม่รู้จะทำไงดี

หลังจากความเศร้าและความในใจได้ปลดปล่อยออกไป อาจเป็นทางออกที่ดี และเป็นการเริ่มต้นอีกครั้งสำหรับสิ่งดีๆที่กำลังจะเข้ามา

"ให้"...ด้วยใจที่อยากจะให้ อย่างไร้เงื่อนไขใดใด เป็นการให้ที่เราจะรู้สึก “เบา
การ“ให้” ---> จะ “เบา” การ“รับ” ---> จะ "หนัก"

สำหรับในชุมชนแห่งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ อย่างไร้รูปแบบ นอกกรอบคิดที่ว่า “ระบบการศึกษา”
     การเป็นผู้ให้อย่าง “สมดุล” กับการเป็นผู้รับ เราจะรู้สึกเบา และจะสบายตัวกว่าการรับแต่เพียงอย่างเดียว

     แต่การปฏิเสธที่จะรับการให้ที่บริสุทธิ์ เพราะ “น้ำเต็มแก้ว” เราจะเบาเกินไป
     และจะอยู่ไม่ได้ อยู่เพื่อต้านกับแรงโน้มถ่วงของโลกและแรงลมไม่ได้ ไม่สมดุล จะปลิวหายไป

     ในขณะที่การจะรอรับเพียงอย่างเดียว เพราะเห็นแก่ตัว เห็นแก่ได้ เราก็จะหนักเกินไป
      ก็จะอยู่ไม่ได้อีกเช่นกัน เพราะจะเคลื่อนไหวลำบาก ไม่คล่องตัว ไม่สบายตัว ไม่มีความสุข

     การรับและการให้ อย่างสมดุล เป็นสิ่งที่สบายตัวที่สุด เพราะจะอยู่ได้
     “ให้” โดยไม่มีเงื่อนใขใดใด และ “รับ” อย่างไม่ตั้งใจที่จะรับ ไม่หวังว่าจะรับอะไรจากใคร
     ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างกัน จะเป็นสุขที่สุด เป็นสุขใจ เป็นสุขในระดับวิญญาณ เพราะได้ “ปัญญา

(ยิ้ม)..ค่ะขอขอบพระคุณและขอน้อมรับทุกข้อคิดเห็นนะคะ..สอดคล้องอย่างมากเลยนะคะ..ที่คุณ "thaibannok" และ คุณ"คนข้างนอก" มองเห็นความเข้าใจด้วยใจ..ที่ไว้วางใจกัน...ช่วยมาต่อเติมให้บันทึกนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น และทำให้ใครอีกหลายคนที่ได้แวะเวียนมามีความสุข...ขอแค่ได้แวะเวียนมา...ดั่งเช่นที่คุณ "Dr.Kawao" ที่คงมองเห็นอะไรบางอย่างในบันทึกนี้และ..คุณ "mamumiko"...กล้าที่จะเริ่มต้นด้วยใจที่มองเห็นใจตนเอง...(ผู้บันทึก)มีความสุขค่ะ

และสิ่งสำคัญที่โดนใจ..และถือว่าเป็นการให้การต้อนรับที่มีค่ายิ่งสำหรับการก้าวมาอีกบทบาทใน Blog gotoknow.org นั่นคือ..คห.ของ "เพื่อนที่รักที่ดีคนหนึ่ง"..คุณ"ชายขอบ"...เป็นปรัชญา..แห่งความคิดและความเข้าใจเข้าไปใน "Mind"...นี่คะ..คือ.."ผู้ให้อย่างแท้จริง"...ขอบคุณค่ะ

   " ความไว้วางใจ "

        ...เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีชีวิตอยู่อย่างมีความหมาย...เพราะเมื่อใดก็ตามที่เรารู้ว่ามีคนๆหนึ่งที่ไว้ใจ ..เชื่อใจเรา.. เมื่อนั้นเราจะรู้สึกว่า " เรามีสิ่งที่ต้องทำและควรทำอย่างดีที่สุด "  นอกจากนั้นความไว้วางใจคือเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่ได้รับ  เพราะในความไว้วางใจ จะเปี่ยมไปด้วยมีความเชื่อมั่น  ความศรัทธา  ความกล้าหาญ  การยอมรับ  มิตรภาพ  และความพร้อมที่จะเดินเคียงข้างเราเสมอ   " มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่เกิดจากความไว้วางใจเสมอมา "      ขอบคุณ สำหรับ.. " ความไว้วางใจ "..

เห็นด้วยค่ะ ทุกคนแสดงความคิดเห็นได้อย่างลึกซึ้งและเข้าใจได้ด้วยใจ  ขอบคุณนะคะที่มีโอกาสได้อ่าน

Feeling  about Feeling

ดีใจที่รู้สึกดีใจ..ว่ามีคนตามมาอ่าน..และให้โอกาส...ขอขอบพระคุณใน "จิต"...ที่รับรู้นะคะ...คุณ"ดอกหญ้า"...(ยิ้มแก้มปลิ)

 

     "ความไว้วางใจ...คือเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่ได้รับ" คุณดอกหญ้าเชื่อในประเด็นนี้ใช่ไหมครับ ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความไว้วางใจกันขึ้นในสังคม เลยเป็นคำถามที่อยากขอ ลปรร.ต่อ...ไปอีก

ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นของคุณดอกหญ้าและอยากอ่านความคิดเห็นของคุณดอกหญ้าที่มีต่อคำถามของคุณชายขอบเช่นเดียวกันค่ะ..

สำหรับคุณ mamumiko ค่ะ " ความในใจ " ..จริงๆแล้วมนุษย์ไม่สามารถเล่าสิ่งที่อยู่ทั้งหมดในใจเราให้คนอื่นรับรู้ได้หรอกค่ะ..ในเมื่อเล่ายังไม่สามารถเล่าได้ทั้งหมด คนอื่นที่เราหวังว่าจะเข้าใจหรือช่วยเราได้เขาฤาจะช่วยได้ถูกจุด? หรือช่วยได้ทั้งหมด เพราะเหตุนี้..คนที่จะช่วยหยิบทุกข์ออกจากใจเราได้อย่างแท้จริงคือตัวเราเอง  คนอื่นทำได้เพียงช่วยชี้ทาง ช่วยแนะนำ หรือเป็นเพื่อนในการเดินทางเท่านั้น..แต่การเดินบนมรรคาของการพ้นจากทุกข์ในใจใยมิใช่เป็นการเดินของตัวเอง ?

สิ่งที่ทุกข์ที่สุดของมนุษย์คือการพลัดพราก  แต่มีมนุษย์คนใดที่ไม่เคยพลัดพราก ? สิ่งที่คิดว่า " ทนไม่ได้ " จะกลายเป็นสิ่งที่ทนได้ เมื่อรู้เหตุแห่งทุกข์นั้น และเมื่อรู้เหตุย่อมรู้ทางแห่งการทำให้ทุกข์นั้นเบาบางลงหรือหมดไป..  เมื่อรู้ทางแล้วมีสิ่งใดที่ยากเกินการก้าวเดิน ? เป็นกำลังใจให้ค่ะ

"ความไว้วางใจ...คือเกียรติยศที่ยิ่งใหญ่สำหรับผู้ที่ได้รับ" คุณดอกหญ้าเชื่อในประเด็นนี้ใช่ไหมครับ ทำอย่างไรที่จะให้เกิดความไว้วางใจกันขึ้นในสังคม เลยเป็นคำถามที่อยากขอ ลปรร.ต่อ...ไปอีก

ขอตอบเหมือนนักเรียนตอบคำถามครูก็แล้วกันนะคะ  ความไว้วางใจต้องเกิดจากใจของตนเองก่อน  ถ้าเราพร้อมจะไว้วางใจคนอื่น เราต้องไว้วางใจตัวเองก่อน และคิดว่าสังคมจะเป็นสังคมแห่งความไว้วางใจไปไม่ได้  ถ้าคนในสังคมยังมีไม่มีความพอเพียง  และยังแก่งแย่งชิงดีกันอยู่  ถ้าเมื่อไหร่สังคมเป็นสังคมแห่งความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นสังคมแห่งการมีน้ำใจและให้อภัย เมื่อนั้นแหละ จะเป็นสังคมแห่งความไว้วางใจ


 

คุณดอกหญ้า

" ความไว้วางใจต้องเกิดจากใจของตนเองก่อน  ถ้าเราพร้อมจะไว้วางใจคนอื่น เราต้องไว้วางใจตัวเองก่อน"

คมมากค่ะ

ขอบคุณค่ะสำหรับไมตรีจิตดีๆ ที่มีให้กันค่ะ  คุณคนข้างนอก 

ขอขอบพระคุณ...

"คุณดอกหญ้า, คุณคนข้างนอก และคุณชายขอบ"

ที่อยู่..เพื่อ.."ความไว้วางใจ"...ใน "จิต"..ใจ
ที่มีอยู่...
ด้วยความรักและศรัทธาในตนเอง..
เชื่อมั่นในความดีที่มีอยู่...เสมอ

  • นิ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
  • อยู่ นิ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
  • ศรัทธา ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
  • ไว้วางใจ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
  • นิ่ง ศรัทธา ไว้วางใจ
  • นิ่ง ศรัทธา ไว้วางใจ
  • มองด้วยใจ มองด้วยศรัทธา มองด้วยความนิ่ง
  • ทำด้วยใจ ทำด้วยศรัทธา และทำด้วยความนิ่ง
  • ไม่อยากให้กะปุ๋มใช้ Mind' eyes ไม่เพียงแค่มอง ถ้าเป็นไปได้ ช่วยผมใช้ความ "นิ่ง" ผ่านช่วงนี้ที ครับ ครับ ครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท