ปัญหาและอุปสรรค ในการจัดการเรียนรู้
ของครูสอนคนที่บ้านเรียนก้านตอง
สวัสดีเช้าวันเสาร์ที่สดใสค่ะ..กัลยาณมิตรที่รักทุกท่าน ห่างหายไปนานพอควรกับ บ้านเรียนก้านตอง : Home School หนึ่งเดียวของ สพท.เชียงใหม่ เขต ๑ ( ณ เวลานี้) กลับมาแล้วค่ะ ในวันที่ท้องฟ้าสดใส..อรุณเริ่ม..ของปีการศึกษา ๒๕๕๑
กับโจทย์ที่ผู้เขียนได้ขอความกรุณาจากผู้จัดการศึกษา , จากคุณครูผู้สอน ทั้งสองท่าน คือ คุณพ่อวิคมและคุณแม่กรรณิการ์ ในบันทึกที่ผ่านมา
“ปัญหา อุปสรรค ที่พบและการแก้ไข ..ความภาคภูมิใจที่บังเกิด”
ยากจังครับโจทย์นี้.. นั่งคิดนอนนึกอยู่หลายตลบว่าจะเอาอย่างไรดี ไม่ใช่ว่าทำมาตั้งปีไม่มีปัญหา เพียงแต่เราไม่เคยนั่งไล่เรียงเจ้าตัวปัญหานี้อย่างจริงๆจังๆ ไม่ค่อยได้มองในมุมของความเป็นปัญหา ค่อยๆ เดินไปสู่เป้าหมายข้างหน้าทีละก้าว
หลายท่านเคยตั้งคำถามอย่างนี้โดยเฉพาะเจาะจงลงไปในเรื่อง “เวลา” และ “ทุนทรัพย์” ซึ่งดูจะเป็นประเด็นสำคัญต่อการตัดสินใจในหลายๆครอบครัว ซึ่งแน่นอนว่าทั้งสองปัจจัยเป็นสิ่งสำคัญ แต่ขอย้ำว่า “อยู่ในวิสัยที่จะปรับเปลี่ยน-จัดสรรให้สอดคล้องกับสถานภาพของแต่ละครอบครัวได้” (ครอบครัวเราก็ห่างไกลคำว่าร่ำรวย พ่อและแม่ยังคงต้องช่วยกันทำงานหาเลี้ยงชีพ แต่อาชีพของเราอาจจะเอื้อสำหรับการปรับเปลี่ยนในเรื่องเวลา)
พอลองรวบรวมประมวลผลดู สิ่งที่เป็นปัญหามากๆ ก็คงเป็น “ความไม่รู้” ซึ่งมักจะนำมาซึ่งความวิตกกังวล (ทุกข์ใจ) ได้เสมอ
ประการแรกเลยก็ ความไม่รู้ของผู้จัดการศึกษา... เริ่มมาก็ต้องจัดทำแผนการศึกษา ทั้งที่ไม่ค่อยเข้าใจศัพท์แสงทางการศึกษา โชคดีที่ได้ศึกษานิเทศก์และเจ้าหน้าที่ สทพ.เชียงใหม่ เขต๑ คอยช่วยสนับสนุน (ถือโอกาสขอบพระคุณงามๆ อีกครั้ง และขออภัยที่มิได้เอ่ยนามเป็นรายบุคคล เพราะจะยาวเหยียดครับ) ครั้นพอเข้าสู่ช่วงการเรียนการสอน ก็ต้องคอยแบ่งน้ำหนักให้วิชาต่างๆ เพราะการเรียนการสอนเกือบทุกวิชาเป็นการบูรณาการครับ (ซึ่งยังไม่รู้อยู่ดีว่าควรจะแบ่งตามเนื้อหาหรือเวลาที่ใช้ดี) ท้ายสุดเลยหันมาให้ความสนใจสิ่งที่ผู้เรียนได้เป็นสำคัญ
ต่อมาก็ ความไม่รู้ของคนสอน... ไม่รู้ว่าสอนอย่างไรจึงจะดี กว้าง-ลึกแค่ไหน เพราะเรามิใช่ครูมืออาชีพซึ่งมีประสบการณ์และเทคนิคการสอนเหลือล้น ครั้นจะกางตำราว่ากันไปทีละหน้าผู้เรียนคงยกป้ายประท้วงไม่ยอมเข้าห้องเรียน โชคดีที่เรารู้จักและเข้าใจลูกศิษย์ของเราเป็นอย่างดี** อาศัยสิ่งที่เขาสนใจเขาอยากเรียนรู้เป็นจุดเริ่ม*** มีแม่นก (กรรณิการ์) แสนขยันเป็นกำลังสำคัญในการสืบค้นเสาะแสวงหาข้อมูลว่าในเรื่องนั้นๆ เขามีวิธีการหรือกิจกรรมที่จะสื่อสารกับเด็กๆ อย่างไรกันบ้าง เลือกยืมมาใช้บ้าง ประยุกต์ใช้บ้าง... ช่วยได้มากที่เดียวครับ ระยะหลังๆ ก็ได้คำแนะนำดีๆ จาก ศน. หลายท่านที่ช่วยแตกแนวคิดและวิธีการใหม่ๆ โดยรวมแล้วเราก็ยึดการต่อยอดความรู้ของผู้เรียนเป็นสำคัญ
รายละเอียดเนื้อหา ของบางรายวิชาก็เป็นปัญหาอยู่บ้าง โดยเฉพาะวิชาที่อาศัยการท่องการจดจำความรู้ อาทิ สังคม ประวัติศาสตร์ ... ต้องเรียนเรื่องเดียวกับที่เขาเรียนกันในโรงเรียนไหม หากเอาตามความสนใจของผู้เรียนจะส่งผลในช่วงการประเมินผลไหม... คำถามเหล่านี้ส่งผลในย่อหน้าต่อไป
ไม่รู้ในเรื่องการประเมินผล เป็นความวิตกกังวลว่าลูกอาจจะต้องถูกประเมินในเรื่องที่ยังไม่ได้เรียน (เพราะครอบครัวเราใช้วิธีดูเนื้อหาตลอดช่วงชั้นที่ ๒ แล้วเลือกเรียนเลือกสอนตามความเหมาะสม...ตามความสนใจบ้าง เชื่อมโยงต่อจากเรื่องอื่นบ้าง ไม่ได้สอนเรียงตามบท ตามชั้นปี) ร่องรอยทางการศึกษาและแฟ้มผลงานที่รวบรวมไว้จะตรงตามที่ผู้ประเมินต้องการหรือไม่... สารพัดจะกังวล แต่พอถึงวันประเมินจริงๆ เหมือนญาติผู้ใหญ่มาเยี่ยมบ้าน เหมือนนั่งคุยกับญาติพี่น้อง ก้านตองเองยังออกปากว่า “ไม่เหมือนเป็นวันสอบเลย...”
ชื่นใจค่ะ..ที่ได้รับฟังเช่นนี้
ส่วนการประเมินในส่วนของครอบครัว เราพยายามขอความร่วมมือจากครูผู้สอนที่ก้านตองต้องไปเรียนนอกบ้านให้ช่วยประเมินตามความเห็นของครู ในส่วนของพ่อแม่การประเมินจะแตกต่างกันไป บางวิชา เช่น ภาษาไทย คณิตศาสตร์ สามารถประเมินจากเนื้อหาโดยให้ผู้เรียนทำแบบฝึกหัดและข้อสอบได้ แต่สำหรับวิทยาศาสตร์กลายเป็นปัญหาขึ้นมาทันทีเพราะเราสอนตามความสนใจของผู้เรียนเป็นสำคัญ เช่น ก้านตองทำโครงงานวิทยาศาสตร์เป็นหลัก เนื้อหาส่วนที่เหลือก็พยายามสอนให้ครอบคลุม เพราะไม่รู้ว่าทางเขตจะประเมินเราอย่างไร จึงไม่สามารถประเมินลูกจากการทำข้อสอบเหมือนวิชาภาษาไทยได้ เพื่อให้เป็นธรรมกับลูกเราจึงใช้วิธีร่วมกันประเมิน โดยให้ก้านตองร่วมประเมินตัวเอง***(เยี่ยมมากค่ะ..) ในหัวข้อความรู้ความเข้าใจในเนื้อหา ความสนใจ/ความกระตือรือร้น การสังเกต/การตั้งคำถาม การค้นคว้า/การสรุป และผลงานในการทำโครงงานต่างๆ ซึ่งคุณลักษณะเหล่านี้เราเห็นว่ามีความสำคัญต่อการศึกษาวิทยาศาสตร์ ตอนนั้นก็วิตกอยู่ว่าทางเขตพื้นที่การศึกษาฯ จะยอมรับวิธีการประเมินแบบนี้ไหม? แต่ในปัญหานี้ก็มีข้อดีอยู่ เพราะลูกได้อาศัยช่วงเวลานี้ทบทวนตัวเอง ว่าได้พยายามอย่างเต็มที่หรือยังในแต่ละสาระ ที่ไม่เต็มที่เพราะอะไร
ครอบครัวก้านตองได้วัดผลแบบ Authentic Assessment แล้วค่ะ..
สรุปว่า เจ้าความไม่รู้...ไม่รู้ในหลายๆ เรื่องนี่ (ความจริงในหลายๆ ครั้งอาจไม่ใช่ปัญหา) มันส่งผลในเรื่องความมั่นใจ และคิดว่าคงไม่ใช่แค่เพียงแต่เราครอบครัวเดียว หากสามารถร่วมด้วยช่วยกันทำให้เกิดแนวทางหรือวิธีการที่ชัดเจนยิ่งขึ้น น่าจะสามารถสร้างความมั่นใจให้แก่ครอบครัวที่กำลังคิดจะทำบ้านเรียนสามารถตัดสินใจได้ง่ายขึ้น...
ปรบมือให้ค่ะ..การรู้ว่าไม่รู้นี่สุดยอดนะคะ..
ปัญหาอื่นๆ มีไหม... เรื่องห้องสมุด ใช่เลยครับ (ปีที่ผ่านมา น้องก้านตองใช้บริการห้องสมุดประชาชน และห้องสมุด I-Zone ของบริติชเคาน์ซิลเป็นประจำ) ห้องสมุดหรือแหล่งข้อมูลที่มีความเหมาะสมกับระดับการเรียนรู้ของน้องก้านตอง เพราะในหลายๆ ชิ้นงานก้านตองต้องอาศัยการค้นคว้าเพิ่มเติม หลายครั้งเราก็มองหาสื่อการเรียนการสอน ซึ่งห้องสมุดมหาวิทยาลัยฯ ก็เนื้อหาลึกเกินไป, หอสมุดรัชมังคลาฯ ห้ามยืมออก, ห้องสมุดประชาชนก็มีหนังสือน้อยเกินไป... คำตอบอาจจะเป็นห้องสมุดโรงเรียน...ไหนสักแห่ง เพราะการปลูกฝังให้เด็กรู้จักและคุ้นเคยกับการใช้แหล่งข้อมูลสาธารณะก็เป็นเรื่องจำเป็น นี่ถ้า ศน.อ้วน ไม่บอกให้กลับมานั่งมองปัญหา ก็คงไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเราใช้วิธีการค้นคว้าผ่านอินเตอร์เน็ต และซื้อหนังสือบางส่วน ซึ่งแน่นอนว่าหนังสือบ้านเราเมื่อรวมกันแล้วใช้งบประมาณไปไม่น้อย หากทางเขตพื้นที่การศึกษาฯ สามารถเอื้ออำนวยให้ครอบครัวบ้านเรียนทั้งบ้านเราและบ้านอื่นๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตสามารถใช้ห้องสมุดโรงเรียน หรือศูนย์สื่อฯ ในสังกัด สพท.เชียงใหม่เขต 1 โรงเรียนใดก็ได้ที่เหมาะสมกับช่วงชั้นของเด็กบ้านเรียน จะช่วยคลี่คลายปัญหานี้ไปได้มาก
..รับดำเนินการค่ะ...คุณพ่อวิคม..
เรื่องเวลา ล่ะ... การจัดสรรเวลาและตารางการเรียนการสอน มีปัญหามากไหม? หลายคนเคยถาม... ไม่ถึงกับเป็นปัญหาครับ ปรับเปลี่ยน-ยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสม ผู้เรียนก็ให้ความร่วมมือด้วยดี จะมีก็เวลาที่ต้องไปเรียนร่วมกับเพื่อนๆ กลุ่มอื่น ซึ่งมักจะเป็นช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ ทำให้ตารางในสองวันดังกล่าวค่อยข้างแน่นไปสักนิด แต่ผู้เรียนบอกว่า “สนุกดี...ไม่มีปัญหา”
ผู้เรียนเรียนรู้อย่างสนุก..นี่แหละค่ะวิธีการจัดการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ
หนึ่งปีกับการจัดการเรียนรู้ของบ้านก้านตอง ครอบครัวเราเห็นความเปลี่ยนแปลงด้านดีอะไรบ้าง?(เขียนแต่ด้านดีนะครับ)
ถามแบบนี้ดูจะตอบได้ลื่นกว่า
(เอ๋..ภูมิใจก็ต้องดีสิคะ..ยิ้ม ๆ ค่ะ..)
ตัวน้องก้านตอง (ผู้เรียน)
* ด้านร่างกาย : สุขภาพสมบูรณ์ แข็งแรง เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
* ด้านจิตใจและภาวะทางอารมณ์ : มีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น ปรับตัวให้เรียนรู้และทำงานร่วมกับเพื่อนในวัยเดียวกันและเพื่อนต่างวัยได้อย่างเหมาะสม ร่าเริง ขี้เล่น มีความตื่นตัวในการเรียนรู้และทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันทั้งการเล่นและการเรียน ..สนุกกับการเรียน..
* ด้านทักษะ-ความรู้ : สามารถพัฒนาทักษะและเพิ่มพูนความรู้ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสาระวิชาภาษาไทย อังกฤษ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์, สามารถค้นคว้าหาข้อมูลและเข้าถึงข้อมูลด้วยตนเองได้มากขึ้น เชื่อมโยงความรู้ที่มีมาใช้ในการวิเคราะห์วิจารณ์ได้มากขึ้น
(..ก้านตองจ๋า..ให้ครูอ้วนกอดแน่นๆที..นะคะ
จะพิสูจน์ว่าสมบูรณ์แข็งแรงจริงไหมเอ่ย..)
ครอบครัว
* มีเวลาได้อยู่ด้วยกัน ทำกิจกรรม และเรียนรู้ร่วมกันมากขึ้น เห็นร่วมกันบ้าง-
ขัดแย้งกันบ้างย่อมเป็นการสานสัมพันธ์ภายในครอบครัวให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
* มีความสุขกับการได้ร่วมกันลงแรงทำในสิ่งที่คิดว่าเหมาะสมกับครอบครัวและสมาชิกของเรา
* ได้ทำหน้าที่ในฐานะหน่วยหนึ่งของสังคม ในการบ่มเพาะดูแล กล้าพันธุ์ที่ดีและมีคุณภาพ ให้เติบใหญ่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
สังคม
* เห็นตัวอย่างประสบการณ์การจัดการเรียนการสอน และการจัดบทบาทหน้าที่ของสมาชิกในครอบครัวในรูปแบบที่ต่างออกไป อันอาจนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการสร้างเสริมสมาชิกของสังคม
* เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมให้ครอบครัวเห็นความสำคัญและพลังของตน ในฐานะเฟืองตัวหนึ่งของสังคม
* มีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น ในการจัดการศึกษาให้แก่สมาชิกของสังคม
ท่านผู้อ่าน..มีความรู้สึกเช่นเดียวกับผู้เขียนไหมคะ..
มีความปีติและอิ่มเอมใจที่สุด..เกินบรรยายค่ะ
สวัสดีค่ะ..กัลยาณมิตรท่านผู้อ่านที่รักทุกท่านค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่กรุณาเข้ามาร่วมชื่นชมกับ "หนึ่งครอบครัว" ค่ะ ที่กำลังพยายาม..เพราะบ่มดูแลกล้าพันธุ์..เพื่อก้าวสู่การเป็น "ไม้งาม" ในอนาคต
ภาพของน้องก้านตอง..บางภาพที่ท่านผู้อ่านต้องการทราบข้อมูล เข้ามาคุยได้ค่ะ..ยินดีประสานกับคุณพ่อวิคม (พ่อเล็ก) และคุณแม่กรรณิการ์(แม่นก) ค่ะ..รวมทั้งการพูดคุยกับน้องก้านตองด้วยค่ะ..
อรุณสวัสดิ์ค่ะ ครูพี่อ้วน
... สบายดีนะคะครูพี่อ้วน
... มาศึกษา Home School ค่ะ
... เป็นกำลังใจให้น้องก้านตองในการเรียนรู้
กับครอบครัวที่อบอุ่นค่ะ ...
มีความสุขกับธรรมชาติวันนี้ค่ะครูพี่อ้วน
สวัสดีค่ะ..คุณพ่อวิคมและคุณแม่กรรณิการ์
การจัดการเรียนรู้สมัยนี้
เด็กโชคดีเพราะครูดีมีมาตรฐาน
จัดหลักสูตรการเรียนรู้ตามกระบวนการ
ฟัง พูด อ่าน เขียน คิด วิเคราะห์เป็น
ตามโครงสร้างของหลักสูตรกำหนดไว้
เด็กต้องได้คิด เขียน ฟัง อ่าน มองเห็น
บูรณาการการเรียนรู้สิ่งจำเป็น
เพื่อจุดเน้นคุณภาพของเด็กไทย
ครูยุคใหม่ต้องใช้สื่อประกอบสอน
นำนิทาน เพลง กลอนช่วยสอนได้
ใช้สื่อ ICT, CAI
เสริมเด็กไทย IQ เด่น EQ ดี
ฝึกคุณธรรมนำความรู้คู่เรียนสอน
ครูคอยป้อนกิจกรรมนำวิถี
ฝึกเยาวชนรุ่นใหม่วินัยดี
เพื่ออนาคตชาติไทยนี้ก้าวไกลเอย.
สวัสดียามใกล้เที่ยงของวันหยุดค่ะ..น้องปูจ๋า
*การศึกษาเรื่องการใช้ภาษาของกลุ่มชาติพันธุ์
*โรงเรียนเพื่อนเด็ก (สิทธิเด็ก)
*การจัดการศึกษาสำหรับเด็กด้อยโอกาส ..จากไร่ส้มสู่สวนคอนกรีต..
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะพี่ ศน.อ้วน
ปรบมือให้ดังๆ เลยค่ะกับความสำเร็จของการจัดการเรียนการสอนในบ้านเรียนก้านดองค่ะ
คิดดี ทำก็ดี ผลงานเลยออกมาดี เอาไป ระดับ10
สวัสดีค่ะ..ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน ขอโทษค่ะ...มีคำผิด ๑ คำ ในกรอบที่ ๑ “เพาะบ่ม” ค่ะ ( ได้หยอดกระปุกแล้วค่ะ..๑ บาท)
สวัสดีค่ะ...ครูสุ
สวัสดีค่ะ...คุณครูกั๊ตที่น่ารัก
..กราบขอบพระคุณงาม ๆ ค่ะ..ท่านผอ.ประจักษ์ ที่เคารพ
..สำหรับพรอันเป็นมงคลยิ่ง..
..ที่ท่านกรุณามอบให้..
..อิ่มเอมใจที่สุดค่ะ..
ได้พบ "ครูมืออาชีพ" ที่ไม่ใช่ "ครูอาชีพ" ค่ะ
จึงตั้งใจไว้ค่ะ..ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทางบนถนนเส้นนี้ตลอดไปค่ะ..
หมายเหตุจากใจ..ครูน้องปูคนใจดี..พี่อ้วนของยืมภาพมานะคะ..คนกราบสวย
ชื่นใจด้วย..อีกคน
ขอโทษค่ะ...มีคำผิด ๑ คำ ในกรอบที่ ๑ “เพาะบ่ม” ค่ะ
( ได้หยอดกระปุกแล้วค่ะ..๑ บาท)
... เทคนิค การจำศัพท์หรือคะ ครูพี่อ้วน
น่ารักมากเลยค่ะ ...
... หามิได้แล้วค่ะ ครูพี่อ้วน
ปูต่างหากต้องขอคำชี้แนะจากศิษย์พี่ด้วยค่ะ
... เข้ามา ฟังเพลงนี้ แล้วอบอุ่น ดีจังค่ะ
ปูล่ะ ทึ่ง กับ ความเป็นแม่คน จริงๆ เลยล่ะคะ ครูพี่อ้วน
... ภาพลอยกระทง 3 คน แม่ลูก น่ารักมากเลยนะคะ ...
สวัสดีครับ
สวัสดีค่ะพี่ปู
รูปลอยกระทงที่พี่ปูพูดถึง คนทางขวาสุดเป็นลูกพี่ลูกน้องหนูค่ะ ชื่อพี่ปลาย ตอนนี้มาเรียนที่เชียงใหม่ค่ะ
หนูต้องขอไปทำงานต่อก่อนนะคะ มีการบ้านต้องส่งวันพรุ่งนี้ค่ะ
ก้านตอง
สวัสดีครับคุณครูสุ
ขอบคุณมากครับที่แวะมาเยี่ยมเยือน...ติดตามความเคลื่อนไหวของครับครัวเล็กๆ เช่นเราเสมอ
เห็นภาพหนูน้อยในอ้อมกอดของดงกล้วย ของคุณปู... แล้วมาสะดุดกับคำว่า "...หลากหลายสถานที่..." ของครูสุ เลยชวนให้คิดไปเรื่อยว่า จริงๆ แล้วหากเรามองว่าเป็น "หลากหลายบรรยากาศ" ก็อาจจะเป็นไปได้ง่ายกว่าสำหรับนักเรียนในชั้นเรียน ผมเคยเห็นคุณครูบางโรงเรียนทำห้องเรียน(ง่ายๆ)ในดงกล้วย นึกเอาเองว่านักเรียนคงรู้สึกดีๆ เหมือนหนูน้อยของคุณปู... บางชั่วโมงเห็นคุณครูบอกให้เด็กนักเรียนผลักโต๊ะเก้าอี้เข้าชิดผนัง นั่งเรียน/นอนทำงานกันบนพื้นห้อง ก็ดูครึกครื้นกันดี... สมัยเป็นเด็กผมก็เคยนึกอยากให้ห้องเรียน (รวมถึงห้องสมุด) เป็นที่สบายๆ มีบรรยากาศสนุกสนานและเป็นมิตร มากกว่าความเป็นระเบียบเรียบร้อย (ซึ่งคุณครูของผมท่านคงไม่ยอมแน่ๆ)
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับที่คุณครูสุว่า "ถ้าผู้เรียนมีความสุข ก็อยากจะเรียนรู้ต่อไป"
สวัสดีครับ คุณครูกั๊ต
ขอบพระคุณอย่างยิ่งสำหรับเสียงปรบมือเป็นกำลังใจ แต่ครอบครัวเรานักเรียนคนเดียว ครู(ประจำ)ตั้งสอง ผู้ที่น่าได้รับคำชื่นชมตัวจริงน่าจะเป็นเหล่าแม่พิมพ์ของชาติ ที่ต้องรับผิดชอบเด็กเป็นร้อยเป็นพัน... ขออนุญาตแบ่งปันเสียงปรบมือดังๆ ของครูกั๊ต ไปถึงคุณครูตัวจริงของนักเรียนน้อยๆ ทั้งหลายด้วยนะครับ
ขอกราบขอบพระคุณงามๆ ท่าน ผอ.ประจักษ์
ที่กรุณาติดตามเป็นกำลังใจให้ครอบครัวเราเสมอมา
(ขอยืมภาพต่อด้วยคน...คงไม่ว่ากันนะครับ)
สวัสดีครับ คุณจริยา
ขอบคุณมากครับ ที่แวะมาเติมกำลังใจให้ครับครัวเรา...
สวัสดีครับ ครูธวัชชัย
แวะมาเยี่ยม แถมยังมีความรู้และคำแนะนำติดไม้ติดมือมาฝากด้วย... ขอบคุณมากๆ ครับ
ปล. ต่อท้าย
SOS... ศน.อ้วน ครับ
เน็ตสะดุด...กล่องข้อความที่ก้านตองเขียนเลยแตกหน่อเป็นสองตัว (13 และ 14) รบกวนศน.อ้วนช่วยลบให้ด้วยนะครับ... (เป็นภาระทุกที)
ขอบพระคุณมากๆ ครับสำหรับทุกๆ เรื่อง
ครอบครัวก้านตอง
สวัสดีค่ะ...
ชื่นชมคุณพ่อคุณแม่จริงๆค่ะ
เห็นภาพแล้วอบอุ่น ดูไปพร้อมฟังเพลงอิ่มอุ่นไปด้วย อบอุ่นคุณสองเลยค่ะ
สวัสดีค่ะ..กัลยาณมิตรที่รักทุกท่าน
โอ้โฮ! ...ปรบมือให้ค่ะ... คุณพ่อคุณแม่และหนูก้านตอง ทำหน้าที่เจ้าของบ้านที่น่ารักได้เยี่ยมมากค่ะ..
ดีใจมากค่ะ...ร่วมด้วยช่วยกันแลกเปลี่ยนเรียนรู้..
ขอขอบคุณ ..เพิ่มเติมค่ะ..
ขอบคุณคุณหมอมากค่ะ..ที่กรุณามาเยี่ยมและชี่นชม คุณหมอสบายดีนะคะ
น้องปูจ๋า..พี่อ้วนหยอด ๑ บาท เป็นค่าปรับค่ะ..อิๆ ครูภาษาไทยต้องระมัดระวังค่ะ..(ตอนนี้ได้หลายบาทแล้วค่ะ..)
คุณครูคะ..ตอนนี้รู้แล้วค่ะ ว่าไม่รู้จริง (ศน.อ้วนเองค่ะ..ฮิๆ)
ขอบคุณค่ะ
ครูตุ๊กจ๋า...ขอบคุณมากค่ะ..แทนครอบครัวก้านตอง
หากครูตุ๊กมาเที่ยวเชียงใหม่จะพาน้องก้านตองไปให้ครูตุ๊กกอดเล้ย...
ก้านตองจ๋า..ครูพี่ปูน่ารักมากค่ะ..เด็กนักเรียนของครูพี่ปูอยู่ไกลมากค่ะ..แต่ละคนน่ารักมาก...หากหนูก้านตองมีเวลาว่าง ตามครูพี่ปูไปที่บันทึกนะคะ ..หนูจะได้รู้จักน้องตัวเล็ก ๆ อยู่บนดอย พวกเขาน่ารัก ครูพี่ปูต้องเดินทางไปสอนไกลเชียวค่ะ..หนูไปให้กำลังใจครูพี่ปูด้วยนะคะ..
..และไปเที่ยวบ้านของคุณครูตุ๊กแกด้วยก็ได้ (หากหนูว่างๆ นะคะ)..
((((ประกาศ))))
บันทึกนี้มีประโยชน์มากครับ ต่อ ระบบการศึกษา ต่อครู ต่อ นักเรียน ต่อ ครอบครัวและผู้ปกครอง ขอให้ทุกท่านอ่านและศึกษาให้ดีครับ... เป็นกำลังใจให้เต็มที่เลยครับ..รับเอาไปเลยไม่หนักครับ...
อรุณสวัสดิ์ค่ะ..คุณคนโรงงาน
ในความคิดของครูอ้วนนะคะ..เรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของวงการศึกษาบ้านเรา..ถึงแม้จะเป็นการก้าวตามอารยประเทศหลาย ๆ ประเทศก็ตาม เมื่อเป็นสิ่งดี ก็สมควร..น่าทำอย่างยิ่งค่ะ จึงค่อนข้างเทใจให้เรื่องนี้มากค่ะ...อยากเป็นเพื่อนในการก้าวไปข้างหน้าร่วมกับ " ครอบครัวก้านตอง" ค่ะ
ค่อยๆ เดินไปสู่เป้าหมายข้างหน้าทีละก้าว
ชอบมากค่ะ..ความตั้งใจนี้
** บ้านเราเมืองเราเดี๋ยวนี้ไม่น่าไว้วางใจค่ะ..ไม่น่ารักด้วย (..ภาษาของตัวเองค่ะ..เพื่อให้มองดูความเลวร้ายต่าง ๆ เบาบางลงค่ะ..อิอิ..จะได้ไม่เครียด เดี๋ยวทำงานไม่มีความสุขค่ะ..) ความเลวร้ายมีอยู่รอบตัว คนที่เข้มแข็งเท่านั้นที่จะอยู่รอดปลอดภัย คนอ่อนแอ..อยู่ยากนะคะ นับว่าเป็นวิกฤตของประเทศไทยที่ค่อนข้างน่ากลัว คนไทยไม่รักกัน (ขณะกำลังพิมพ์ก็เห็นข่าวการตีกันของกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพ) เหมือนบ้านป่าเมืองเถื่อน..เหมือนไม่ใช่บ้านเมืองของคนพุทธ..ณ ที่ทำงานของครูอ้วนก็เช่นกันค่ะ น่าจะประกาศเป็นเขตอันตรายได้ เพราะมีกลุ่มประท้วงบ่อยมาก ตำรวจและทหารเยอะแยะเต็มไปหมด เกือบทุกเดือน บางครั้งครูอ้วนต้องรีบวิ่งลงมาจากชั้น ๔ ค่ะ..กลัวเขาจะปิดประตูไม่ให้ผ่านเข้าออก... นี่ไงคะ ความไม่น่ารัก..ของประเทศ
** คุณคนโรงงานคะ ..ณ เวลานี้ วิวัฒนาการของสังคมมนุษย์กำลังเคลื่อนตัวจากกระบวนทัศน์และระบบที่ผิดพลาด ไปสู่การให้คุณค่าความหมายอย่างใหม่ต่อชีวิต การสร้างสรรค์อารยธรรมอีกยุคสมัย(เราอาจไม่ทันได้อยู่ได้เห็น) เพื่อให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ด้วยวิถีการเรียนรู้ที่มีอิสระ บูรณาการเชื่อมโยง และสอดคล้องกับศักยภาพในการเรียนรู้ตามธรรมชาติของความเป็นมนุษย์ ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องพ้นจากพันธนาการของระบบการศึกษาที่มุ่งเพียงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สู่การศึกษา ..ซึ่งขณะนี้ครูอ้วนคิดว่าค่อนข้างล้มเหลวค่ะ..(หากจะเจาะเฉพาะประเด็นนี้ต้องยาวมากกกก..เชียวค่ะ)
** ครอบครัวก้านตอง..กำลังค้นคว้าหาวิธีการจัดการศึกษาที่มีอิสระสำหรับลูกสาว เพื่อยืนยันต่อสังคมให้ได้รับรู้ถึง "ความเข้มแข็งของหนึ่งครอบครัว" * ได้ทำหน้าที่ในฐานะหน่วยหนึ่งของสังคม ในการบ่มเพาะดูแลกล้าพันธุ์ที่ดีและมีคุณภาพ ให้เติบใหญ่เป็นสมาชิกที่ดีของสังคม
เป็นส่วนหนึ่งของการส่งเสริมให้ครอบครัวเห็นความสำคัญและพลังของตน ในฐานะเฟืองตัวหนึ่งของสังคม
** นี่แหละค่ะ...ครูอ้วนจึงภูมิใจนักหนา..อย่างน้อยก็ให้กำลังใจตัวเองค่ะ..ว่าได้เพิ่ม "ความน่ารัก" ให้ ประเทศไทยได้ ถึงแม้จะเป็นเพียงอณูเล็ก ๆ ..เท่านั้น ...ภูมิใจจริง ๆ ค่ะ..คุณคนโรงงาน
สวัสดีก่อนบ่ายค่ะ..คุณคนโรงงาน (อีกครั้งหนึ่งค่ะ)
หากการจัดการศึกษาโดยครอบครัว เป็น innovation ของบ้านเมืองเรา ที่รับผิดชอบ โดย สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ ณ เวลานี้พวกเรา ตามความคิดของตัวเองนะคะ Gotoknow น่าจะเป็นหนึ่ง ..an innovation platform.. เป็น "brain box" ที่กำลังเชื่อมโยงถักทอเครือข่ายการเรียนรู้ตลอดชีวิต ทั้ง คน องค์ความรู้ สื่อนวัตกรรม ที่สำคัญที่สุด ก็คือ กระบวนการแห่งความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจ ระหว่างกัลยาณมิตรที่น่ารักทุกผู้คนใน brain box แห่งนี้ ซึ่งเป็น ..new ..modern innovation ภายในห้องสตูดิโอ ..A studio for staging ideas.. เพื่อการก้าวไปข้างหน้าของบ้านเรียนก้านตอง..ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น
**การก้าวเดินอย่างช้า ๆ แต่มั่นคง ของ..บ้านเรียนก้านตอง..ที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่น ...ซึ่งต่อไปอาจจะสามารถ เป็น best practice ..ของการศึกษาตามอัธยาศัยก็ได้ (เป็นหนึ่งในหลาย ๆ best practice ของหลาย ๆ ครอบครัวในประเทศไทย)
..ขอขอบคุณคุณคนโรงงานมากค่ะ..
..เข้ามาบอกครูอ้วนด้วยนะคะว่า.คิดถูกหรือไม่อย่างไร..
..รวมทั้งท่านผู้อ่านด้วยค่ะ..กรุณาบอกได้นะคะ..ยินดีรับฟังค่ะ
..ขอบคุณค่ะ..
สวัสดีค่ะ พี่ครูอ้วน
สวัสดีครับ ครูอ้วน
บ่นๆๆ มาเยอะแยะ ไม่รู้ครูอ้วน อ่านแล้ว เป็นไง เพราะว่า มุมมองเป็นมุมมองจากคนโรงงานครับ..อิอิ
ครูอ้วนครับ...ทำบ้านก้านตองให้เป็น brain box เป็น innovation platform สิครับ...ทำให้เค้าหาความรู้ที่บ้านได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด...
ฝันดีครับ
สวัสดียามดึ๊กดึกค่ะ..น้องปูที่น่ารัก
น่ารักจังค่ะ...ขนาดช่วงเวลาสั้น ๆที่โผล่มาหายใจพ้นน้ำ
ยังคิดถึงพี่อ้วน ..
หากอยู่ใกล้กัน..ก็จะขอกอดให้แน่นที่สุดค่ะ..แบบให้หายใจไม่ออกไปเล้ย..(คิๆ)
รักษาแล้วค่ะ..สุขภาพ..ค่อนข้างดีมากค่ะน้องปู (ตอนนี้อึดอัดมากค่ะ..อูยยยยย..อายจัง)
น้องปูด้วยเช่นกันค่ะ..รักษาสุขภาพเยอะ ๆ เพื่อรับกับงานหนักของทุกวันนะคะ
สวัสดียามดึกค่ะ...คุณคนโรงงาน
ทำบ้านก้านตองให้เป็น brain box เป็น innovation platform สิครับ...ทำให้เค้าหาความรู้ที่บ้านได้โดยไม่มีที่สิ้นสุด...
...คืออะไรคะ..ไม่เคยเห็นค่ะ..
...มีสัญลักษณ์ด้วย..
หวัดดีครับ ครูอ้วน
>>>เรารักในหลวง<<< ไงครับ
เอาขนมมาฝากครับ ครูอ้วน...
อรุณสวัสดิ์ค่ะ..คุณคนโรงงาน
ขอบคุณมากค่ะ..เป็นความมหัศจรรย์ของโลกใบนี้จริง ๆ ค่ะ เหมือนที่คุณคนโรงงานได้คุยที่บันทึก..คมคิด..เกี่ยวกับ KM ..การเข้ามาใน G2K ต้องเกิดประโยชน์ ..เพราะแต่ละคนก็มีงานมากอยู่แล้ว ....ณ เวลานี้..ได้เยอะมากค่ะ ขอบคุณคุณคนโรงงาน .. ขอบคุณ G2K (ถึงแม้จะเหนื่อย)
ในประเด็นนี้..เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะว่าครอบครัวที่มีคุณพ่อคุณแม่มีคุณภาพ จะสามารถเป็นครูที่ดีสำหรับลูกได้จริง ดังเช่น ครอบครัวก้านตองค่ะ ทั้งคุณพ่อกับคุณแม่ เป็น "ครูมืออาชีพ" ทั้ง ๆ ที่ ไม่ได้เป็น "ครูอาชีพ" รวมทั้ง เป็น Coaching ที่ยอดเยี่ยมอีกด้วย นอกจากนี้ ยังเป็นได้อีกหลายบทบาทเชียวค่ะ จากที่มีโอกาสได้ติดตาม เยี่ยมเยียน พุดคุยด้วย พอจะประมวลได้ ดังนี้ค่ะ..
สำหรับประเด็นนี้..เราคิดตรงกันค่ะ..คุณคนโรงงานเก่งจัง..กำลังจะคุยหารือกับคุณพ่อวิคม ค่ะ..รวมทั้งประเด็นการอำนวยความสะดวกเรื่องแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ให้น้องก้านตองด้วย ตอนนี้ได้ประสานงานเรื่องนี้แล้วค่ะ..ต่อไปคงมีอะไร ๆ ดี ๆ ก้าวหน้ามาคุยให้คุณคนโรงงานได้ฟังอีกนะคะ..
..กำลังเห็นเป็นครั้งแรกค่ะ..สัญลักษณ์รู้จักแล้ว..(อายจัง)
หวัดดีครับ ครูอ้วน ดีใจจัง ที่คนโรงงาน คุยกับ ศึกษานิเทศน์ รู้เรื่องด้วยซี และดีใจที่เห็นว่ามันมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย..
สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัย ที่ความคิดเรื่อง home school เป็นทางเลือกที่ดี แต่สิ่งที่ต้องมอง
ก็ตั้งคำถามไปเรื่อยๆหน่ะครับ....ครูอ้วนคงมองหมดแล้วหล่ะ
ทำงานมีความสุขนะครับ
สวัสดีครับคุณคนโรงงาน และ ศน.อ้วน
ขอบคุณทั้งสองท่านมากครับที่กรุณาหอบเอาความรู้กองโตมามอบให้ คุณคนโรงงานกรุณาเสาะหาความรู้และตั้งประเด็นนำเสนอ ศน.อ้วนใจดี ช่วยย่อย ช่วยใส่รูปธรรม ให้เห็นเป็นภาพ...
ติดตามอ่านมาหลายวัน พร้อมๆ กับพยายามทำความเข้าใจเรื่อยมา... ก็ค่อยๆ ได้ความกระจ่างมากขึ้นเรื่อยๆ มากน้อยตามที่สติปัญญาจะเอื้ออำนวย
สารภาพตามตรงครับ... ตอนทำ (ก่อนทำ ขณะทำ และหลังทำ) ไม่ได้คิดวิเคราะห์ แยกแยะ แจงแจงเป็นหลักการละเอียดชัดเจนอย่างนี้ แค่เริ่มต้นจากสิ่งที่ลูกมีหรือเราเป็น แล้วก็แตกแขนงออกไป เชื่อมโยงกับโลกภายนอก...
ศน.อ้วน กรุณา(อีกครั้ง)แจกแจงคุณสมบัติจนคนอ่านอาจนึกไปว่าครอบครัวเราดีใจหาย... อันที่จริง ผมว่าสิ่งที่ ศน.อ้วน ชี้ให้เห็นนั่นก็คือบทบาทของพ่อแม่ที่ควรจะทำ...ควรทำจนเป็นเรื่องปกติในสังคมไทย (อันที่จริง ในหลายคุณสมบัติก็เคยเป็นเรื่องปกติในอดีต)
ศน.อ้วน บอกเล่าเรื่องราวบางมุมที่เป็นความไม่น่ารักของประเทศนี้... "คนไทยไม่รักกัน" ผ่านบางมุมที่เป็นความน่ารักของประเทศนี้...อย่างเช่นชุมชน GoToKnow แห่งนี้ ผมเชื่ออย่างยิ่งครับว่าสังคมไทยเรายังมีมุมน่ารักๆ เช่นนี้อยู่อีกไม่น้อย แย่หน่อยก็ตรงที่ความไม่น่ารักมันกลับกลายเป็นกระแส...เป็นข่าว...เป็นสิ่งที่ผู้คนให้ความสนใจ (จนอาจจะลืมเหลียวมามองมุมน่ารักๆ บ้าง)
คุณคนโรงงานครับ HomeSchool แบบไทยๆ อาจจะยังไม่สามารถเรียกได้ว่า "มีแล้วอย่างเป็นระบบ" แต่สังคมไทยนี่แหละครับที่เอื้อต่อระบบบ้านเรียน (เอื้อเฟื้อ, เอื้ออาทร,...) บ้านเรียนก้านตองเป็นบ้านเรียนเดียว(ตอนนี้)ของเชียงใหม่ เขต ๑ แต่เราไม่เดียวดายเลยครับ...
เคยได้คุยกับพ่อแม่หลายๆ ท่านที่มีความคิดเห็นคล้ายๆ กัน ในเรื่่องโรงเรียน ๓ บ้าน ๒ คือในหนึ่งสับดาห์ไปโรงเรียน ๓ วัน เรียนกับบ้าน ๒ วัน (หรืออะไรทำนองนี้) คิดว่าน่าจะไปกันได้กับประเด็นที่คุณโรงงานตั้งไว้...
ส่วนเรื่องข้อสังเกต (สิ่งที่ต้องมอง) สำหรับ HomeSchool ในด้านพัฒนาการทางสังคมนั้น... ก็เป็นประเด็นที่เราถูกตั้งคำถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยมากที่สุดประเด็นหนึ่ง แต่ด้วย...ความน่่ารักของสังคมไทย...อย่างที่บอกไว้ข้างต้น ...การสังคม เพื่อนเล่น... ...ตามสังคมทันไม๊... ...มุมมอง.... ...เข้าสังคมกับเพื่อนๆ หลากหลายแบบ... (ผมอยากขีดเส้นใต้คำว่า "หลากหลาย" หลายๆ ครั้งครับ) คำตอบก็คือไม่เป็นปัญหาครับ เพราะการทำบ้านเรียนต้องไม่ "แยกเด็กออกจากสังคมและสภาพแวดล้อม..." (ไม่งั้นเด็กจะเรียนอะไร) หากใช้น้องก้านตองเป็นหนึ่งตัวอย่าง เราพบว่าพัฒนาการด้านสังคมของลูกพัฒนาเร็วกว่าช่วงที่อยู่ในโรงเรียนเสียอีกครับ...
ส่วนจะมีได้ถึงระดับไหน คงต้องดูว่าระบบ HomeSchool ของเราพัฒนาให้สอดคล้องกับสภาพสังคมและการเรียนรู้ได้แค่ไหน หากไปได้เหมือนประเด็นที่คุณคนโรงงานเสนอเป็นตุ๊กตา...ก็ไม่แน่ครับ
บันทึกนี้รู้สึกว่า แต่ละความคิดเห็นยาวๆ ทั้งนั้น ขออภัย (ต่อสายตา) คนอ่านด้วยนะครับ...
ขอบคุณท่านผู้ถาม ผู้ตอบ และผู้อ่านทุกๆ ท่านครับ
พ่อเล็ก
สวัสดีครับ ครอบครัวก้านตอง...คิดว่าเป็นคุณพ่อของก้านตอง
ยินดี และ รู้สึกดีมากๆครับ ที่ ความเห็นจากมุมมองคนโรงงาน แต่ก็ไม่ได้ห่างไกลจากการศึกษานักเพราะมีลูกที่กำลังเรียนเช่นกัน ภรรยาผมจบศิลปศาสตร์ธรรมศาสตร์ ทำงานบริษัท จนได้เงินเดือน 50,000 กว่าบาท จนมีลูกคนที่สอง เค้าจึงคิดอยากออกมาดูแลลูก ซึ่งผมก็เห็นด้วย เค้าทุ่มเทกับลูกมาก พอส่งลูกไปโรงเรียนตอนเช้าเสร็จ ก็กลับมาทำแบบฝึกหัด วิชาโน้น วิชานี้ ให้ลูกไว้ มาเรียนเพิ่มเติม ตอนลูกกลับมาบ้าน หรือ เตรียมตัวสอบ แต่มองแล้ว มันยิ่งเพิ่มความหนักหนาในการเรียนมากขึ้น หาก พ่อหรือ แม่ สามารถเชื่อมโยงกับสังคมโรงเรียน เพิ่มพูนทักษะการสอน จากโรงเรียน พ่อหรือแม่คงเป็นครูที่ดีได้คนหนึ่ง ความอบอุ่นของครอบครัว การเรียนรู้จากความรัก มันคงช่วยสังคมการเรียนรู้ของสังคมไทยได้มากขึ้น ยืดหยุ่นมากขึ้น การที่ไม่ได้หลุดออกนอกระบบโรงเรียนโดยสิ้นเชิง ทำให้เกิดความเชื่อมโยงของสังคมที่หลากหลายกับเด็กได้
การเป็นแม่แบบของ home school ทุกคนตื่นเต้นกับมัน ทำให้ดูเหมือน ทรัพยากร และความช่วยเหลือต่างๆเข้ามาเหมือนไม่ขาด แต่หากขยายออกไป จาก 1 เป็น 10 เป็น 100 เป็น 1000 ทรัพยากรที่ครอบครัวได้รับและรู้สึกอบอุ่นในการเป็นแม่แบบ จะหลั่งไหลไปที่อื่นเมื่อเกิดการขยายผลหรือไม่ ยังคงเป็นปัญหาที่ต้องขบคิด..แม่แบบ มักมีทรัพยากรเหลือเฟือมาทุ่มเท..แต่เมื่อขยายผล จากเหลือเฟือ ก็จะกลายเป็นขัดสน..
ผมเห็นด้วยกับการเรียนลักษณะนี้กับเด็กปฐมวัย และ ชั้นประถมต้น แต่ ไม่มีความมั่นใจ หาก home school จะไปถึง ระดับประถมปลาย หรือ มัธยม ไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เด็กจะขาดอะไรบางอย่างไหม
แต่ก็ขอบคุณมากๆครับ ดีใจที่ได้แลกเปลี่ยน ต่อยอดทางความคิด แบบนี้แหล่ะที่เราเรียก..สังคมแห่งการเรียนรู้...
สวัสดีครับคุณคนโรงงาน
ขอบคุณมากครับสำหรับความคิดเห็นและข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์อย่างมากในการเปิดมุมมองให้กว้างไกลมากขึ้น และขอโทษด้วยครับที่เข้ามาทักทายช้า(มาก)ไปหน่อย มัวแต่ไปยุ่งอยู่กับงานเอกสาร...
"หาก พ่อหรือ แม่ สามารถเชื่อมโยงกับสังคมโรงเรียน..."
ผมเข้าใจว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องที่น่าจะ(และควรจะ)ทำได้อยู่แล้วในทางปฏิบัติ โดยเฉพาะคุณครูน่าจะดีใจเสียด้วยซ้ำไปหากมีผู้ปกครองแบบนี้เยอะๆ
"..แม่แบบ มักมีทรัพยากรเหลือเฟือมาทุ่มเท..แต่เมื่อขยายผล จากเหลือเฟือ ก็จะกลายเป็นขัดสน.."
ขออนุญาตชี้แจงว่า ครอบครัวเราไม่เคยคิดว่าเราเป็นแม่แบบ การจัดการศึกษาโดยครอบครัวในบ้านเรามีมานาน.น..มากแล้วครับ (มากกว่าอายุน้องก้านตองเสียอีก)... ที่บอกว่าครอบครัวเราไม่เดียวดาย... ก็เป็นความเอื้อเฟื้อเกื้อกูลทางจิตใจมากกว่า "ทรัพยากร" ครับ และสิ่งเหล่านี้ก็มีคุณค่ายิ่ง และโดยส่วนตัวผมไม่คิดว่า...จะกลายเป็นขัดสน... เพราะนี่คือความน่ารักของสังคมไทย
ประเด็นเรื่องทรัพยากรก็น่าสนใจ เราคิดเราจัดสรรบนฐานของการพึ่งตนเองเป็นสำคัญ ทำอย่างไรที่จะอยู่ได้อย่างเหมาะสมและพอเพียงกับสถานะภาพของเรา... ความขัดสนของครอบครอบหนึ่งอาจจะเป็นความเกินพอสำหรับหลายๆ ครอบครัวครับ ดังนั้นการจัดสรรจัดการจึงมีความสำคัญ (อาจจะมากกว่าการมีมากมีน้อยแค่ไหนด้วยซ้ำไป)
ประเด็นทิ้งท้าย... ฟังแล้วอดเสียวสันหลังไม่ได้ น้องก้านตองอยู่ช่วงชั้นประถมปลายครับ!!!... หากไม่เป็นการรบกวนจนเกินไป คงต้องขอแรงคุณคนโรงงานช่วยมาตั้งคำถามมากๆ หน่อย (บ่อยๆ ด้วยครับ) ตรงไหนไม่มั่นใจ ตรงไหนน่าจะขาดอะไร จุดไหนอาจเกิดอะไรขึ้น... ช่วยกันดูช่วยกันมอง สิ่งต่างๆ เหล่านี้มีส่วนช่วยครอบครัวบ้านเรียนอย่างเราได้มากครับ
ถือโอกาสขอบคุณไว้ล่วงหน้าเลยครับ
พ่อเล็ก
สวัสดีค่ะพี่อ้วนทีรัก
สวัสดีค่ะ..คุณพ่อวิคม คุณแม่กรรณิการ์ และหนูก้านตองที่น่ารัก
ไปงานKM เจอครูตุ๊กก็คิดว่าน่าจะเจอ พี่ศน.อ้วนค่ะ..ปรากฎว่าผิดหวัง..เสียดายจังค่ะ..
วันนั้นอบอุ่นไปด้วยการกอดและมิตรภาพงดงาม..
คิดถึงพี่ศน.อ้วนนะคะ..ดูแลสุขภาพด้วยค่ะ..^__^
สวัสดีค่ะ...คุณคนโรงงาน
สวัสดีค่ะ..กัลยาณมิตรที่รักของ ศน.อ้วนทุกท่าน
..คืนนี้ ศน.อ้วนเข้ามาคุยด้วยนะคะ..ขออนุญาตไปทำงานก่อนค่ะ
..มึความสุขทุก ๆ ท่านนะคะ
สวัสดีครับ คุณ พ่อ ก้านตอง และ ครูอ้วน ดีใจครับ ที่ ทั้ง คุณพ่อก้านตอง และ ครูอ้วน ได้ อ่านและจับประเด็นทุกประโยคเลย สงสัยเขียนต้องระวังหน่อยแล้ว...
คิดว่าบันทึกนี้มีประโยชน์ต่อวงการศึกษาไทยอย่างมาก เพราะประสบการณ์ที่แลกเปลี่ยนกัน ผ่านการนำไปฏิบัติจริง เป็นสิ่งใหม่ของสังคมไทย มันทำให้คนที่จะเดินตาม มั่นใจมากขึ้นครับ..ไว้จะติดตามความก้าวหน้าจากบันทึกครูอ้วนไปเรื่อยๆครับ...
สวัสดีค่ะเหมือนที่เจ้านายหนูเคยคุยให้ฟังว่าเมืองนอกเขาใช้วิธีการนี้สอนลูกเองที่บ้านแล้วไปสอบที่โรงเรียนของรัฐค่ะ
กำลังหาข้อมูลอยู่เลยคะ เข้ามาติดตามอ่าน ครอบครัวน้องก้านตองน่ารักมากเลย น้องก้านตองก็เป็นเด็กดี เห็นแล้วชี่นใจจัง
ตอนนี้กำลังคิด ๆ อยู่ว่าอยากให้ลูกเรียน home school แต่ยังไม่มั่นใจในตัวเองว่าจะสามารถให้ความรู้เค้าได้ไหม ซึ่งตอนนี้ลูกชายสี่ขวบครึ่งแล้วเข้าเรียนในระบบแล้ว แต่เหนื่อยที่ต้องเคี่ยวเข็ญให้เค้ารีบตื่นไปโรงเรียน รีบกินข้าว รีบทำนู้นทำนี่ให้เสร็จ เพื่อรีบไปโรงเรียน แล้วต้องคอยถามคนอื่นว่าลูกเราเป็นยังไง กับเด็กสี่ขวบต้องเคี่ยวเข็ญกันขนาดนี้เหรอ ช่วงนี้เลยต้องหาข้อมูลมากหน่อย
คงต้องขอความรู้จาก ศน.วัชราภรณ์ วัตรสุข ด้วยนะคะ
ยังไงจะติดตามขอข้อมูลต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ครอบครัวน้องก้านตองนะคะ ชื่นชมมาก ๆ เลยคะ
สวัสดีครับคุณคนโรงงาน
"...อ่านและจับประเด็นทุกประโยคเลย สงสัยเขียนต้องระวังหน่อยแล้ว..."
สำหรับเราแล้ว คิดว่าเป็นการอ่านอย่างระมัดระวังมากกว่า กลัวจะพลาดความคิดเห็นหรือมุมมองที่น่าสนใจ... ไม่ได้คิดจับผิดหรือระวังระแวงแต่อย่างใด ดังนั้นขอคุณคนโรงงานโปรดเขียนได้เต็มที่ ไม่ต้องระวังเลยครับ ก็อย่างที่คุณคนโรงงานว่า "...สังคมแห่งการเรียนรู้"
ต่อข้อสงสัยว่า "...พ่อแม่ มี limit ของความรู้ลึกๆบางอย่าง..." เราเองก็คงมีครับ แต่ไม่คิดว่าเป็นปัญหา เพราะคิดว่าเป็นการเรียนรู้ร่วมกัน สิ่งใดที่พ่อแม่ยังไม่แน่ใจหรือรู้ไม่ลึกพอก็ต้องค้นคว้า ต้องเตรียมตัวก่อนที่จะมาสื่อสารกับลูก นั่นทำให้คนสอนก็ได้ความรู้เพิ่มเติม...
ส่วนการสร้างภูมิคุ้มกันสังคม...ได้เห็นโลกกว้าง... นั้น เห็นด้วยอย่างยิ่งว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะละเลยเสียมิได้ ติดอยู่ก็เรื่องวิธีการ...แน่นอนว่าหากประคบประหงมอยู่บ้าน ก็คงไม่ดีแน่ แต่จะส่งให้ไปอยู่ในสังคมที่เราติดตาม(ใกล้ชิด)ไม่ได้ ก็คงทำใจลำบาก เจอเพื่อนดี-ครูดีก็ดีไป(โลด) แต่ถ้าไม่.....กดปุ่มรีเซตกลับมาเล่นใหม่อีกทีไม่ได้เสียด้วย ....พ่อแม่ก็มักเป็นอย่างนี้ ทำใจลำบากจริงๆ
คุณคนโรงงานหรือท่านผู้อ่าน..มีประสบการณ์ / คำแนะนำดีๆ รบกวนเข้ามาเล่าสู่กันฟังหน่อยครับ...
ขอบคุณมากครับ
ครอบครัวก้านตอง
สวัสดีครับคุณ amp
หากพอมีเวลาและ(หรือ)ไม่เป็นการรบกวนเกินไป ช่วยเข้ามาเล่ารายละเอียดเรื่องที่เจ้านายคุยให้ฟัง...ให้พวกเราฟังต่ออีกทีนะครับ...
ขอบคุณล่วงหน้าไว้ก่อนเลยนะครับ
ครอบครัวก้านตอง
สวัสดีครับคุณ win
ขอบคุณมากครับสำหรับกำลังใจ และความชื่นชม...
ลูกชายสี่ขวบครึ่ง คุณแม่ก็ตระเตรียมหาข้อมูลแล้ว ...ผมว่า ไม่ว่าน้องเขาจะเรียนในระบบไหนก็ต้องไปได้สวย มีคุณแม่คุณพ่อคอยเดินเคียงข้าง ...ถามคนอื่นว่าลูกเราเป็นอย่างไร ถามลูกเราว่าหนูรู้สึกอย่างไร สนุก สุข ดีไหม...
เชื่อมือคุณแม่ win ครับ
ครอบครัวก้านตอง
สวัสดีค่ะ..กัลยาณมิตรที่รักของ Home School ทุกท่านค่ะ
สวัสดีค่ะ ครูพี่อ้วน
* คิดถึงนะคะ แต่เข้าถึงบันทึก ครูพี่ยากมากเลยค่ะ
* .... เครื่องน้อยกำลังไม่ค่อยดี เท่าไหร่ 5 5
* ตามมาจากบันทึกพี่เบิร์ดค่ะ ... ยิ่งไปกันใหญ่
* เพราะมีหลายบล็อก น้องหาอยู่นานมาก ...
* แบบโลว์เทค นะคะ จะพยายามปรับปรุงเด้อ
* อข่างไรก็ตาม ยังระลึกถึงเสมอค่ะ
สวัสดีครับ ศน.อ้วน และหมู่มิตร G2K
เงียบหายไปหลายวัน ไม่ได้เข้ามาส่งข่าวสาร... ขออภัยด้วยครับ
ช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้พูดคุยกับหลายครอบครัวที่มีความสนใจอยากจัดการศึกษาแบบบ้านเรียน... ส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเด็นในเรื่องขั้นตอนวิธีการดำเนินการ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเพื่อยื่นขออนุญาตฯ (นี่น่าจะสะท้อนว่าครอบครัวมีความกังวลในเรื่องการจัดทำแผนไม่น้อย..)
มีครอบครัวหนึ่งถามว่า หากนำหลักสูตร Home School จากต่างประเทศมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้ลูก ทั้งนำมาเป็นชุดหรือนำหลายหลักสูตรมาผสมผสานกัน จำเป็นต้องนำหลักสูตรนั้นๆ มาเทียบเคียงกับมาตรฐานการศึกษาของบ้านเราก่อนหรือไม่... รบกวนขอความรู้และความคิดเห็นจาก ศน.อ้วน และเพื่อน G2K ด้วยครับ ผมว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับหลายครอบครัวเลยทีเดียว
ขอบพระคุณล่วงหน้าไว้ด้วยครับ
ครอบครัวก้านตอง
สวัสดีวันหยุดค่ะ..กัลยาณมิตรของ Home School ที่รักทุกท่านค่ะ..
..ครอบครัวก้านตอง.. เจ้าของบ้านด้วยค่ะ สบายดีกันทุกคนนะคะ ห่างเสียงใช่ห่างใจนะคะ..และ ห่างกายก็ไม่ห่างใจด้วย..ฝากกอดน้องก้านตองด้วย ครูอ้วนคิดถึงจังค่ะ..คุณแม่นกเหนื่อยไหมคะ..คุณพ่อเล็กด้วย..
..น้องคนไม่มีราก.. สบายดีนะคะ เหนื่อยมากหรือเปล่ากับการเรียนหนักช่วงนี้ พี่อ้วนส่งกำลังใจให้ ๑๐ กิโล..จ้ะ ..อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วย..
...คุณครูแอ๊วขา.. สักวันเราคงได้พบกันนะคะ พี่อ้วนขอให้มีความสุขกับการดูแลลูก ๆ ที่น่ารักค่ะ มีอะไรที่พี่อ้วนพอจะช่วยได้ บอกนะคะ..ยินดีอย่างยิ่งค่ะ..
...คุณคนโรงงานคะ... ขอโทษด้วยนะคะ..ครูอ้วนมีคุณพ่อคุณแม่น้องก้านตองมาคุยด้วย..เลยไปเที่ยวเสียไกลค่ะ..(ก็อุ่นใจแล้วนี่คะ..) ศน.อ้วนจะพยายามเขียนบันทึกใหม่ โดยนำประเด็นแนวคิดของคุณคนโรงงาน..เป็นโจทย์ ขอบคุณอีกครั้งหนึ่งค่ะ... ชอบจัง..." คิดว่าบันทึกนี้มีประโยชน์ต่อวงการศึกษาไทยอย่างมาก เพราะประสบการณ์ที่แลกเปลี่ยนกัน ผ่านการนำไปฏิบัติจริง เป็นสิ่งใหม่ของสังคมไทย มันทำให้คนที่จะเดินตาม มั่นใจมากขึ้นครับ..ไว้จะติดตามความก้าวหน้าจากบันทึกครูอ้วนไปเรื่อยๆครับ..."
...น้องแอมป์ .. น้องสาวคนใหม่ที่น่ารัก ยินดีต้อนรับค่ะ..เห็นน้องสาวเข้าไปเยี่ยมพี่ ๆ แล้วน่ารักมากค่ะ เข้ามาติดตามอีกนะคะ ปีนี้ "บ้านเรียนก้านตอง" คงก้าวหน้าไปอีกหลายก้าวค่ะ ..ขอบคุณนะคะ..
...คุณ win ..คะ ดีใจจังค่ะที่บ้านเรียนก้านตองพอจะเป็นตัวอย่างสำหรับคุณwin ได้ ...ครอบครัวเข้มแข็ง..กำลังเป็นสิ่งที่สังคมไทยต้องการค่ะ... น่าชื่นชมค่ะ..และก็ขอเป็นกำลังใจให้คุณแม่..ด้วยนะคะ เข้ามาติดตามอีกนะคะ..หากบันทึกนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ win บ้าง มีข้อสงสัยต้องการถามคุณพ่อคุณแม่ของน้องก้านตองหรือ ศน.อ้วน..เชิญนะคะ ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ..
น้องปูจ๋า...
...คิดถึงใจจะขาดแล้วเอย...
สวัสดีค่ะ..คุณพ่อวิคม คุณแม่กรรณิการ์และหนูก้านตองที่น่ารัก
ต่างคนต่างเหนื่อยนะคะ..โดยทั่วถ้วน
ต้องให้กำลังใจตัวเองทุกวันค่ะ..ให้เยอะ ๆ ด้วย
ฝากกำลังใจ..ให้พ่อเล็กและแม่นกด้วยนะคะ ในการดูแลน้องก้านตอง ตลอดปีนี้ ...ฮิๆ ส่งกำลังใจฝากไว้ ๑ ปี เต็มๆ ก่อนค่ะ..แล้วค่อยเติมให้เรื่อย ๆ นะคะ..เผื่อ ศน.อ้วนจะทิ้งบ้านไปหลาย ๆ วัน หลาย ๆ ช่วงเวลา..(ฮิๆ...เย้)
ดีใจค่ะ..ที่ทราบว่ามีหลายครอบครัวที่สนใจไถ่ถามรายละเอียดเรื่อง "บ้านเรียน" เพิ่มมากขึ้น แสดงว่าแต่ละครอบครัวก็มีความสนใจที่จะจัดการศึกษาให้บุตรหลานเอง
ดูประเด็นคำถามแล้ว มีหลายข้อที่คิดว่าพ่อเล็กคงตอบไปแล้วใช่ไหมคะ.. เช่นเรื่องการจัดทำแผนการจัดการศึกษา และมีบางประเด็นที่ ศน.อ้วนคิดว่าต้องหารือ จากหน่วยงานต้นสังกัดก่อนค่ะ..เช่นความสนใจในการนำหลักสูตรของต่างประเทศมาใช้
พอดี สัปดาห์หน้าที่จะถึงนี้ ศน.อ้วนได้เข้าไปประชุมเรื่องนี้อยู่พอดี ขออนุญาตนำประเด็นคำถามนี้ไปด้วยนะคะ แล้วจะกลับมาเล่าสู่กันฟังค่ะ..เพื่อคุณพ่อเล็กจะได้ตอบคำถามของครอบครัวที่ถามมาได้ ..นะคะ
ช่วงที่ผ่านมามีโอกาสได้พูดคุยกับหลายครอบครัวที่มีความสนใจอยากจัดการศึกษาแบบบ้านเรียน... ส่วนใหญ่ก็จะเป็นประเด็นในเรื่องขั้นตอนวิธีการดำเนินการ โดยเฉพาะในเรื่องการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเพื่อยื่นขออนุญาตฯ (นี่น่าจะสะท้อนว่าครอบครัวมีความกังวลในเรื่องการจัดทำแผนไม่น้อย..)
มีครอบครัวหนึ่งถามว่า หากนำหลักสูตร Home School จากต่างประเทศมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้ลูก ทั้งนำมาเป็นชุดหรือนำหลายหลักสูตรมาผสมผสานกัน จำเป็นต้องนำหลักสูตรนั้นๆ มาเทียบเคียงกับมาตรฐานการศึกษาของบ้านเราก่อนหรือไม่... รบกวนขอความรู้และความคิดเห็นจาก ศน.อ้วน และเพื่อน G2K ด้วยครับ ผมว่าคงเป็นประโยชน์สำหรับหลายครอบครัวเลยทีเดียว
สวัสดีคะคุณครูพี่อ้วน
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำตัวเองนิดหนึ่่งนะคะ อยู่เกาะเต่าคะ จังหวัดสุราษฎร์ธานีห่างจากฝั่งตั้ง๘๖ กิโลแน่ะ ตอนนี้ลูกสาวเรียนอยู่ ป๕ แล้วคะ ไม่อยากส่งลูกไปเรียนบนฝั่ง ตั้งใจว่าจะทำHome school ปีหน้า แต่ก้อรู้สึกไม่ชอบกับระบบที่ทางเขตการศึกษาจะต้องกำหนดให้เรียนเหมือนในโรงเรียน เหมือนเปลี่ยนสถานที่เรียนมากกว่า เพราะการทำ Home schoolนั้น ตอนแรกคุณแม่คิดว่า เค้าจะให้อิสระกับคุณพ่อ คุณแม่ที่จะสอนลูกได้เองในสิ่งที่เราคิดว่าดีที่สุดสำหรับลูกของเรา โดยมีทางเขตเป็นที่ปรึกษาแต่ดูเหมือนจะไม่ใช่ จะทำอย่างไรดีคะ และจะเริ่มต้นอย่างไรดีคะ ทางภาคใต้มีพันธมิตร Home school บ้างไหมคะ
ขอบคุณมากคะ
เคยคิดกันกับคุณพ่อของลูก เรื่องโฮมสคูล แต่ภารกิจของเราสองคนยังมี และยอมรับว่ายังไม่ได้ศึกษาโดยละเอียด
คุณครูท่านหนึ่งของลูกเคยถึงกับเอาชื่อของอาจารย์ท่านหนึ่ง(นครปฐม)ให้ไปลองตามหาและศึกษาดู
คงต้องมาอ่านและปรึกษาครูอ้วนอีกครั้งค่ะ
สวัสดีครับ
เจ้าของบ้านหายๆ
ว่างแล้วอย่าลืมแวะมานะครับ
สวัสดีค่ะคุณแม่น้องวุ้นหวาน
สวัสดีค่ะ..คุณหมอ
สวัสดีค่ะ..คุณครูธวัชชัย
สวัสดีครับ ครูอ้วน และครอบครับก้านตองที่น่ารัก อบอุ่นจริง ๆ
ขอบคุณครับที่นำประสบการณ์ที่ดีมาแลกเปลี่ยน เป็นการถ่ายถอดเรื่องราวอย่างน่ารักที่เดียวครับ และเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และแบ่งปันเรื่องราวและประสบการณ์ เป็นตัวอย่างที่ดีมาก ๆ
ผมและภรรยาเคยมีความคิดที่จะทำบ้านเรียนเหมือนกัน เคยไปอบรมกลุ่มบ้านเรียนเมื่อสัก 5-6 ปีที่แล้ว กลับมามีไฟมาเต็มร้อยเลยครับ ไปคุยกับการศึกษาเขตพื้นที่ที่ศรีราชา แรก ๆ ก็คุยกันดีครับ พอคุยกันไปอีกสักพักของขึ้นเลยครับ เลยให้ภรรยาคุยคนเดียว ผมออกมาระงับสติอารมณ์ก่อน แต่ท้ายที่สุดก็ยึกหลักการไม่หางานเพิ่มว่างั้นเถอะครับ ...ก็พี่ท่านจะประเมิณแบบในระบบอย่างเดียว ไม่มีการยืดหยุ่น ก็เราบอกว่าเราจะเอาเด็กออกมาจากระบบ เค้าก็บอกว่า ก็คุณครอบครัวเดียวจะให้เค้าทำแบบประเมิณต่างหากหรือนอกเหนือจากเค้า เค้าบอกว่างานเค้ามีเยอะครับ เค้าไม่มีเวลาทีจะทำอะไรให้ที่ละครอบครัวหรอก .(หาครูที่น่ารักอย่างครูอ้วน มีมั๊ยครับ..) ไฟที่ไปอบรมมาแทบจะหมดแบตเลยล่ะครับ แต่ความคิดก็ยังไม่เปลี่ยนครับก็ให้เด็กเรียนในระบบไปเราก็สอนแนวคิดของเราไป พาเค้าไปสู่แนวคิดการพึ่งตัวเองให้ได้มากที่สุด เอาความสุขมาก่อนเก่งครับ ตอนนี้มีลูกสาว 3คน คนโต 11 ขวบ คนกลาง 7 ขวบ คนเล็ก 4 ขวบ ก็เรียกว่าบ้านแทบเป็นโรงเรียนเลยล่ะครับเค้าเล่นก็ทั้งวัน ยิ่งตอนปิดเทอม ขอบอกมันพะย่ะค่ะ ก็พาเค้าทำตั้งแต่หมักน้ำหมักชีวภาพทั้งแบบกินและแบบใช้ทั่ว ๆ ไป กวนน้ำยาซักผ้า อาบน้ำ ล้างจาน ยาสระผม ปุ๋ยหมัก ปลูกผัก ทำกับข้าว ทำขนม ทำทุกอย่างที่พึ่งตัวเองได้ครับ เอาไว้ปีหน้าผมจะไปเป็นเกษตรกรเต็มตัวที่บ้านเกิด จ.สระแก้ว อ.คลองหาด จะไปคุยกับการศึกษาเขตอีกทีครับ ได้ผลเป็นอย่างไรจะมาบอกกล่าวกันนะครับ ขอให้ทุกคนสุขภาพกายและใจแข็งแรงครับ ....
สวัสดีคะ ศน.
หนูกำลังศึกษาเรื่องการจัดการศึกษาโดยครอบครัวและสนใจที่จะทำการศึกษาเพื่อทำวิทยานิพนธ์ในการส่งเสริมให้เกิดการจัดโฮมสคูลขึ้นในสังคมไทยมากขึ้น แต่หนูไม่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ และอยากขอความรู้จากท่านศน.คะ หนูอยากขอคำแนะนำจากท่านศน. คะ ว่าจะไปหาข้อมูลของการจัดโฮมสคูลในปัจจุบันได้ที่ไหนบ้างคะ พอดีหนูได้ศึกษาจากสิ่งพิมพ์ของ สกศ. มาบ้างแล้ว แต่หนูอยากได้ข้อมูลที่ใหม่คะ และเป็นปัญหาในปัจจุบันจริง ๆคะ เช่น ปัญหาของการจัดการศึกษา หรือจำนวนครอบครัวที่จัดการศึกษาคะ พอดีหนูอยู่ในจ.เชียงใหม่คะ ขอความกรุณาด้วยนะคะ
คุณ วราภรณื ลองเข้า web ของกลุ่มบ้านเรียนไทยหรือ สมาคมบ้านเรียนไทย น่าจะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ทีเดียวครับ...เป็นกำลังให้ในการทำงานครับ..
สวัสดีค่ะ..คุณพ่อสาวสาวสาว
ก่อนอื่นฝากภาพน้องก้านตองร่วมกิจกรรมการแข่งขันคณิตศาสตร์นานาชาติ(เวทีคู่ขนาน)ให้ดูด้วยนะคะ ระหว่างวันที่ 25-30 ตุลาคม 2551
สวัสดีค่ะ..น้องวราภรณ์
ขอบคุณครับ...เจ้าของบ้านน่ารักแบบนี้ต้องเข้ามาอ่านบ่อย ๆ แล้วล่ะครับ ระวังสุขภาพด้วยนะครับ อากาศเริ่มหนาวแล้ว แถมมีฝนอีกต่างหาก ถ้าไม่สบายไป..คงมีคนคิดถึงเยอะเชียวล่ะครับ...ขอให้สุขภาพดีกันทุก ๆ คนครับผม...
สวัสดีคะ ศน.อ้วน
ขอบคุณนะคะ ... ตัวจริงของศน.อ้วนเป็นคนน่ารักมาก ๆๆๆๆเลยคะ เดี๋ยวจะเข้ามาหาอีกนะคะ ขอบคุณคะ
สวัสดีค่ะ..คุณพ่อสาวสาวสาว
สวัสดีค่ะ..ครูแนนที่น่ารัก
ปรบมือให้ดังๆ จากใจค่ะ.สำหรับความเก่งของน้องครูแนน
เพื่อน ๆ พี่ ๆ ครูอาจารย์ที่มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ก็จะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับน้องแนนด้วย ซึ่งเป็นข้อมูลประกอบการเรียนของน้องแนนด้วยนะคะ
ศน.อ้วนจะเป็นหนึ่งแรงช่วยน้อง "ครูแนน" ด้วยค่ะ
สวัสดีคะ ศน.อ้วน
ศน.เป็นแรงบันดาลใจให้หนูศึกษาการใช้ gotoknow ตอนนี้เริ่มเก่งแล้วคะ กำลังจะเรียนรู้จากประสบการณ์ของทุก ๆ คนที่เข้ามาเรียนรู้จากที่นี่คะ ได้รับประโยชน์มากคะ ขอบคุณนะคะ หนูจะพยายามศึกษา และจะเป็นคนเก่งและน่ารักให้เหมือนกับศน.อ้วนที่หนูจะยึดไปเป็นต้นแบบคะ
ครูแนนจ๋า...
ขอบคุณครับ (เราแอบคุยกันถึง case ของคุณพ่อสาวสาวสาวด้วยละ...สะดุ้งไหมคะ )ที่แอบคิดถึงครอบครัวเรานะครับ ถ้ามีโอกาสจะเข้ามาบ่อย ๆ ครับ...
วันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมาไปอบรมการทำบ้านดินที่มาบเอื้อง อ.บ้างบึง จ.ชลบุรี มาด้วยแต่เด็ก ๆ ไม่ได้ครับ..เด็ก ๆ เค้าบอกไว้โอกาสค่อยไปด้วย เดือนหน้าจะไปทำหลังคาดินครับ แล้ววันจันทร์-พฤหัส ก็ไปเข้าคอร์สสุขภาพที่วังน้ำเขียว โครงการพระราชดำริวังน้ำเขียว โคราช มาครับ อากาศเหมือนเชียงใหม่เลยครับ หนาวจริง ๆ ๆ ขอบบอก...ท่านใด ๆ มีปัญหาสุขภาพคุยกันได้นะครับ ขอเน้นต้องทำทั้งระบบ กิน นอน พักผ่อน ออกกำลังกาย ที่สำคัญที่สุด คือ คิดบวก อย่างเดียวครับ เครียดให้น้อยที่สุด ทำกันกันได้มั๊ยเอ่ย...ยากนะครับ..แต่ต้องพยายามนะครับ เป็นกำลังใจให้ทุก ๆคนครับ โดยเฉพาครูอ้วน ทำงานเยอะ ๆ แบบนี้ต้องพักผ่อน นอนหลับให้สนิทนะครับ...
สวัสดีค่ะ คุณครูอ้วน
ทุกบทความ ทุกคำถาม ทุกๆคำตอบน่าสนใจมากเลยค่ะ
ตอนนี้ปุยฝ้ายกำลังศึกษาเกี่ยวกับการเรียนการสอนแบบHome school
อยากให้ครูอ้วนช่วยแนะนำอะไรดีๆกับปุยฝ้ายด้วยนะคะ
การเรียนการสอนวิธีนี้น่าสนใจมากๆเลยค่ะ
ชอบๆๆๆๆๆ
ขอบคุณครูอ้วนค่ะ