เปิดเทอม เปิดใจ

เป็นพัฒนาการขั้นหนึ่งที่เด็กกลุ่มอาการออทิสติก ม.2 สามารถแสดงอารมณ์โต้ตอบและควบคุมตนเองได้

         เป็นธรรมดาเมื่ออยู่ในสังคม เราก็ต้องทำตามกฎ เด็กกลุ่มอาการออทิสติกของเราก็เช่นกันเมื่อเข้าไปอยู่ในระบบของโรงเรียนก็ต้องทำตาม

         แต่ก็ทราบกันดีอยู่แล้วใช่ไหมคะว่าเด็กกลุ่มนี้เปลี่ยนแปลงอะไรลำบาก บางทีคุณพ่อคุณแม่เตือนบอกแล้วแต่น้องก็ไม่ทำตาม นี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เด็กของเราถูกบทลงโทษทางสังคม

        เรื่องของเรื่องเกิดขึ้นเนื่องจาก น้องไม่ยอมตัดผมก่อนไปโรงเรียน เพราะช่วงปิดเทอมน้องก็ไว้ผมไม่ยอมตัด จวบจนวันเปิดเทอมน้องก็ไม่ยอมไปตัด ทั้งๆที่คุณแม่เตือนแล้ว แต่น้องก็ไม่ฟัง บอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวค่อยตัดก็ได้ พอน้องมาโรงเรียนน้องจึงถูกคุณครูตัดผมข้างหลังออกไปนิดนึง พอน้องโดนตัด น้องก็โวยวายต่อว่าครูที่มาตัดผม (กับตัวเอง แต่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนี้ น้องจะด่าคุณครูต่อหน้า) รวมทั้งต้องเสียค่าปรับด้วย น้องไม่สามารถโต้ตอบอะไรได้เลย เพราะมีเพื่อนที่โดนเหมือนน้องด้วยและนี่ก็เป็นกฏของโรงเรียน น้องถึงทำอะไรไม่ได้ น้องจึงเก็บอารมณ์จากเรื่องที่เกิดขึ้น มาเล่าให้คุณแม่ฟัง คุณแม่ก็ใจดีเข้าใจลูกแต่ไม่ได้เข้าข้างลูก พร้อมพูดอธิบายและยกตัวอย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคุณแม่และบอกวิธีการจัดการอารมณ์ของคุณแม่ และคุณแม่ก็ไม่ได้ตำหนิคุณครูที่ทำกับลูก แต่คุณแม่ได้อธิบายให้น้องเข้าใจคุณครูด้วยว่าเพราะอะไรคุณครูถึงทำแบบนี้กับน้อง และที่สำคัญคุณแม่ได้ให้คำชมซึ่งถือเป็นแรงเสริมทางสังคมให้กับน้องถึงพฤติกรรมที่น้องสามารถควบคุมอารมณ์โกรธของตนเองได้และรู้จักระบายความเครียด/ความขับข้องใจไปในทางที่เหมาะสมก็คือน้องมาเล่าระบายให้คุณแม่ฟัง

       นี่เป็นเกร็ดเล็กๆน้อยๆที่ผู้ปกครองสามารถพบเจอได้ตลอด แต่ที่สำคัญเวลาเด็กที่มีความต้องการพิเศษทำอะไรไม่เหมาะสม อย่าเพิ่งตำหนิ/ซ้ำเติม/ต่อว่า แต่ค่อยๆหาวิธีพูดให้เหมาะสมกับระดับความสามารถของน้องและที่สำคัญอย่าลืมยกตัวอย่างที่เห็นภาพได้ชัดเจนประกอบคำพูดเพื่อให้น้องเข้าใจมากขึ้น

       ประโยคหนึ่งที่คุณแม่และผู้บำบัดได้ยินแล้วชื่นใจก็คือ "ต้องเปิดใจ จะได้ไม่โกรธ" นึ่ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าเด็กของเราเริ่มโตและเข้าใจอะไรมากขึ้นเกี่ยวกับการดำเนินชีวิต