มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
ACTION ON SMOKING AND HEALTH FOUNDATION
Press Release
ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่
วันที่ 23 พฤษภาคม 2551
วันที่ข่าวตีพิมพ์ : สามารถเผยแพร่ได้ทันที
“สิ่งแวดล้อม: ต้นเหตุเด็กติดบุหรี่”
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เรียกร้องให้ทุกฝ่ายในสังคมช่วยกันทำสิ่งแวดล้อมที่ปลอดบุหรี่ให้แก่เด็ก ๆ เพื่อป้องกันการเสพติดบุหรี่ของเด็กไทย
คำขวัญวันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้ ขององค์การอนามัยโลก Tobacco Free Youth คือ เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมใจต้านภัยบุหรี่ การรณรงค์ปีนี้ต้องการปลุกให้สังคมโลกคิดใหม่ ทำใหม่ กับการแก้ปัญหาการสูบบุหรี่ของเด็ก ๆ
ที่ผ่านมาเราจะบอกว่าเป็นความผิดของเด็กเองที่เข้าไปทดลองและเสพติดบุหรี่แนวคิดหรือทฤษฎีนี้เรียกว่า “Blame the victim” หรือ “โทษเหยื่อหรือเป็นความผิดของเหยื่อ” แต่องค์การอนามัยโลกสรุปว่าจริง ๆ แล้ว เด็ก ๆ เข้าไปติดบุหรี่เพราะ “สิ่งแวดล้อม” เป็นต้นเหตุ สิ่งแวดล้อมที่ว่านี้ คือ สิ่งแวดล้อมด้านสังคมรอบ ๆ ตัวเด็ก ได้แก่ การสูบบุหรี่ของพ่อแม่หรือคนในบ้าน ในโรงเรียน และผู้คนทั่วไปในที่สาธารณะ สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ทำให้เด็ก ๆ เห็นว่าการสูบบุหรี่เป็นที่ยอมรับ เป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็ทำกัน นำไปสู่การทดลองสูบจนเกิดการเสพติดบุหรี่ขึ้น
สิ่งแวดล้อมด้านการตลาดที่สร้างขึ้นโดยบริษัทบุหรี่ ได้แก่ กลยุทธ์ทางการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ ของบริษัทบุหรี่ อันได้แก่ การโฆษณาแฝงโดยทำให้โลโกยี่ห้อบุหรี่ปรากฏในของใช้ต่าง ๆ การจ้างให้มีฉากสูบบุหรี่ในหนัง การแจกบุหรี่ การโฆษณาสร้างภาพของบริษัทบุหรี่ การทำวิจัยการตลาดที่พุ่งเป้าที่วัยรุ่น การส่งเสริมการขาย ณ จุดขายปลีก การโฆษณา ณ จุดขาย การทำจุดขายปลีกให้มีให้มากที่สุด ฯลฯ
ผศ.ดร.นิทัศน์ ศิริโชติรัตน์ คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลการวิจัยของเด็กไทยในโรงเรียน ปี 2004 อายุระหว่าง 13 ถึง 15 ปี พบว่า
ร้อยละ 13.8 สูบบุหรี่
ร้อยละ 48.3 มีผู้ปกครองที่สูบบุหรี่
ร้อยละ 68.5 สัมผัสกับควันบุหรี่ในที่ต่าง ๆ นอกบ้าน
ร้อยละ 43.7 มีของใช้ที่เป็นโลโกบุหรี่
ร้อยละ 11.5 เคยได้รับแจกบุหรี่จากผู้แทนบริษัทบุหรี่
ร้อยละ 44.8 สามารถซื้อบุหรี่จากร้านขายได้ ทั้งที่เป็นการขายที่ผิดกฎหมาย
ข้อมูลนี้แสดงว่า เด็กไทยยังอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการที่จะทำให้เข้าไปทดลองสูบบุหรี่จนเกิดการเสพติดขึ้น
รศ.ดร.บุปผา ศิริรัศมี สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากผลการวิจัยเรื่องปัจจัยทางด้านสังคม และสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นไทย รอบที่ 2 ปี 2549 อายุระหว่าง 13 – 17 ปี พบว่า วัยรุ่นไทยทั้งชายและหญิง มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจในรอบที่ 1 (2548) โดยวัยรุ่นชายมีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 20.3 เป็นร้อยละ 27.8 และวัยรุ่นหญิง มีอัตราการสูบบุหรี่เพิ่มขึ้นจาก ร้อยละ 1.5 เป็นร้อยละ 2.3 สาเหตุมาจาก อิทธิพลจากสิ่งแวดล้อมทางสังคม เช่น มีเพื่อนสนิทสูบบุหรี่ มีสมาชิกในครอบครัวสูบบุหรี่ ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และได้เห็นการโฆษณาบุหรี่ ล้วนเป็นปัจจัยกระตุ้นและส่งเสริมให้วัยรุ่นสูบบุหรี่
รวมทั้งวัยรุ่นก็ยังรายงานว่า การซื้อบุหรี่เป็นเรื่องที่ทำได้ง่าย แม้จะอายุยังไม่ถึง 18 ปี
เพื่อนสนิทมีอิทธิพลต่อการสูบบุหรี่ของวัยรุ่นอย่างมาก การปฏิเสธเมื่อเพื่อนสนิทยื่นบุหรี่ให้ ทำได้น้อยมาก ดังนั้น การรณรงค์ไม่ให้วัยรุ่นยื่นบุหรี่ให้แก่กันและการสร้างพลังอำนาจให้วัยรุ่นมีทักษะในการปฏิเสธจึงเป็นมาตรการที่สำคัญอย่างยิ่ง
ภาพคำเตือนด้านสุขภาพบนซองบุหรี่ ทำให้เยาวชนคิดถึงอันตรายจากการสูบบุหรี่มากขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นว่า การดำเนินนโยบายในเรื่องนี้มาถูกทิศทาง และควรขยายผลให้มากขึ้น
ผศ.ดร.ลักขณา เติมศิริกุลชัย ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ของประชากรไทย พ.ศ.2550 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่า จำนวนผู้สูบบุหรี่เป็นประจำในปี พ.ศ.2550 เท่ากับ 9.48 ล้านคน ลดลงจากปี พ.ศ.2549 ประมาณ 5 หมื่นคน แต่ที่สำคัญ คือ สถิติการสูบบุหรี่ของเยาวชนไทยกลับเพิ่มสูงขึ้น โดยเยาวชนอายุ 11 - 14 ปี มีจำนวน 7,335 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 0.18 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับ ร้อยละ 38.46 สำหรับกลุ่มอายุ 15 - 18 ปี มีจำนวน 228,219 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 5.03 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับร้อยละ 12.72 ส่วนเยาวชนอายุระหว่าง 19 - 24 ปี มีจำนวน 1,042,502 คน ที่สูบบุหรี่เป็นประจำ คิดเป็นร้อยละ 17.37 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2549 เท่ากับร้อยละ 10.52
นอกจากนั้นยังพบว่าเยาวชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.25 ซื้อบุหรี่เป็นมวน และร้อยละ 93.60 ของเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี สามารถซื้อบุหรี่โดยผู้ขายไม่ได้ขอดูบัตรประชาชน โดยเยาวชนส่วนใหญ่ร้อยละ 91 ซื้อบุหรี่จากร้านค้าใกล้บ้าน และใช้จ่ายวันละ 12.58 บาทต่อวันในการซื้อบุหรี่ ดังนั้นเยาวชนทั้งประเทศเผาผลาญเงินไปกับค่าบุหรี่ต่อวันถึง 20.3 ล้านบาท และพบว่าเยาวชนเหล่านี้ ร้อยละ 2.19 ที่สูบบุหรี่ที่ไม่มีภาพคำเตือน เป็นผลให้รัฐต้องสูญเสียรายได้จากภาษีบุหรี่ไปถึงวันละ 6.9 ล้านบาท หรือปีละไม่ต่ำกว่า 2,500 ล้านบาท
ดังนั้น การรณรงค์ป้องกันเยาวชนจากการสูบหรือการทดลองบุหรี่ รวมถึงการสร้างความตระหนักให้เยาวชนเลิกบุหรี่ ตลอดจนการปรับปรุงและบังคับใช้กฎหมายควบคุมยาสูบอย่างจริงจังทั้งเรื่องการขายแยกซอง ขายให้เด็กต่ำกว่า 18 ปี และการควบคุมบุหรี่ผิดกฎหมายจึงเป็นวิธีการที่สำคัญที่จะช่วยให้การควบคุมยาสูบในกลุ่มเยาวชนประสบความสำเร็จ
ข้อเรียกร้องจากเยาวชนในวันงดสูบบุหรี่โลก
นายทศพล ไศลทอง นักเรียนโรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชบางขุนเทียน แกนนำเครือข่ายเยาวชนอาสาสร้างสถานศึกษาปลอดบุหรี่ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า ผมเป็นเยาวชนคนหนึ่งของสังคมไทย ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมพบว่า ปัญหาการสูบบุหรี่เป็นปัญหาสำคัญของเยาวชน เพราะตอนนี้มีเพื่อนเยาวชนติดบุหรี่ถึงสองแสนคน ตัวเลขนี้ฟ้องว่าเด็กไทยในอนาคตต้องกลายเป็นภาระเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงมากมายแค่ไหน และสาเหตุสำคัญก็คือ บริษัทบุหรี่ใช้การโฆษณาแฝงหลอกเยาวชนให้เห็นว่าบุหรี่น่าสนใจ โดยผ่านสื่อต่างๆ เช่น การให้ดาราภาพยนตร์สูบบุหรี่ เสื้อผ้า และของใช้อื่นๆ ที่มียี่ห้อบุหรี่ และการขายบุหรี่เถื่อนตามจุดต่างๆ ที่มีวัยรุ่นอยู่กันมาก โดยบุหรี่พวกนี้จะเป็นบุหรี่ที่มีรสหวาน รสขนม และรสผลไม้ต่างๆ ซึ่งลวงวัยรุ่นให้รู้สึกว่าปลอดภัยและอยากลอง ผมจึงอยากเรียกร้องให้
- ดารา นักแสดง หรือผู้กำกับ ไม่สร้างหนังที่มีฉากสูบบุหรี่ เป็นแบบอย่างไม่สูบบุหรี่ และร่วมรณรงค์ไม่สูบบุหรี่กับเยาวชน พร้อมทั้งขอให้
- รัฐบาลเร่งปราบปรามบุหรี่เถื่อนรสขนมต่างๆ
- หน่วยงานต่าง ๆ ในสังคมไทยไม่รับการสนับสนุนใดๆ จากบริษัทบุหรี่ ไม่ว่าจะเป็นงบประมาณหรือการสนับสนุนในรูปแบบกิจกรรม สิ่งของต่าง ๆ เพราะสิ่งที่บริษัทบุหรี่กระทำล้วนหวังผลให้เยาวชนเข้ามาเป็นลูกค้าของบริษัทบุหรี่ทั้งสิ้น
นายแสงฉาน จิรวงศ์สวัสดิ์ นักเรียนโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล แกนนำเครือข่ายเยาวชนอาสาสร้างสถานศึกษาปลอดบุหรี่ กล่าวว่า ผมอยากเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจังจากภาครัฐ และต้องการเห็นความร่วมมือที่เข้มแข็งของภาคเอกชน รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
- ปฏิบัติตามกฎหมายที่กำหนดให้สถานศึกษาปลอดบุหรี่ ทั้ง โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ผู้ที่เกี่ยวข้องเช่น กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข ควรร่วมมือกันในการดูแลเรื่องนี้อย่างเข้มแข็ง เพราะสถานศึกษาเป็นแหล่งรวมของเยาวชน เยาวชนต้องใช้เวลายาวนานอยู่ในสถานศึกษาแต่ละวัน หากสถานศึกษาปลอดบุหรี่ ได้แก่ การห้ามสูบบุหรี่ การห้ามขายบุหรี่ และการไม่รับเงินสนับสนุนใดๆ จากบริษัทบุหรี่ จะเป็นการสร้างสภาพแวดล้อมปลอดบุหรี่ให้กับเยาวชน และส่งเสริมค่านิยมไม่สูบบุหรี่ให้กับเยาวชน
- ผมอยากเห็นผู้ปกครองเลิกสูบบุหรี่เพื่อลูก หรือถ้ายังเลิกไม่ได้ ไม่ควรสูบบุหรี่ในบ้านเพื่อเป็นแบบอย่างของเด็ก ๆ เพราะคงไม่มีพ่อแม่คนไหน อยากเห็นลูกหลานของท่านเติบโตขึ้นมาเป็นคนสูบบุหรี่
นายแสงฉาน กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับร้านค้าผมขอเรียกร้องให้ท่านไม่ขายบุหรี่ให้แก่เด็ก และปฏิบัติตามกฎหมายที่ห้ามตั้งซองบุหรี่ ณ จุดขาย
ส่วนกิจกรรมวันงดสูบบุหรี่โลกปีนี้ มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ ร่วมกับ ภาคีเครือข่ายสุขภาพเพื่อสังคมไทยปลอดบุหรี่ กระทรวงสาธารณสุข ศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เครือข่ายครูนักรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ แกนนำเยาวชน เครือข่ายโรงเรียนปลอดบุหรี่ และอีกหลายหน่วยงาน ร่วมจัดกิจกรรม “Tobacco-Free Youth เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่” ในวันศุกร์ที่ 30 – เสาร์ที่ 31 พฤษภาคม 2551 ณ บริเวณลานกิจกรรม Out door ฝั่ง Zen เซ็นทรัล เวิลด์ ระหว่างเวลา 11.00 – 18.30 น. โดยกิจกรรมประกอบด้วย พาเหรดแฟนซีเดินรณรงค์ของเยาวชนจากสถานศึกษาต่าง ๆ, กิจกรรมตลาดนัด “เยาวชนรุ่นใหม่ ร่วมใจ ต้านภัยบุหรี่” การแสดงผลงานของเยาวชนที่ชนะการประกวดสื่อสร้างสรรค์วัยมันไร้ควันบุหรี่ ครั้งที่ 2, นิทรรศการคนรุ่นใหม่ไม่สูบบุหรี่, การแสดงจากศิลปินวง Nice 2 Meet You กวิน อิ่มอโนทัย (ปั่นจั่น) ธนา ลิมปยารนะ (เชน) จารุพงศ์ กล้วยไม้งาม(แจ๊ค) และพงศ์ธร วนะเกียรติกุล (เต้) บริษัท อาร์ เอส จำกัด (มหาชน), ดารา – นักแสดงจากช่อง 3,บริษัททีวีซีน, คณะมีสทีนไทยแลนด์ และ Highlight เปิดตัวสื่อเครื่องบินรณรงค์ประชาสัมพันธ์ “เครื่องบินรณรงค์ ทุก ๆ ที่ปลอดบุหรี่” รวมถึงการเผยแพร่สื่อรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ต่าง ๆ อาทิเช่น โปสเตอร์ สติกเกอร์เขตปลอดบุหรี่ แผ่นพับ คู่มือต่าง ๆ ซึ่งผู้สนใจสามารถขอรับได้ฟรี ณ ลานกิจกรรมดังกล่าว
ต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : ฝ่ายศูนย์ข้อมูล มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ โทร. 02-278-1828
ไม่มีความเห็น