17 พฤษภาคม 9 โมง อ.มนตรี ชักชวนชาวเฮฯ มา check in กัน เริ่มจากโยนไมค์ให้พ่อครูบาพูดก่อนใครๆ สิ่งที่พ่อครูบาพูดสะท้อนใจฉันนะ โอ้ว่า พ่อนั้นเมตตายิ่งนัก พ่ออยากให้เรานั้นร่วมกันเป็นครอบครัว สร้างบรรยากาศไว้ให้รุ่นหลานรุ่นลูกได้มาพันผูกสร้างสังคมเอื้ออาทรกัน ใจใหญ่ยิ่งนักครูบาที่รักที่มอบรักยิ่งใหญ่ให้แก่พวกเรา ลุงเอก คนชอบวิ่ง ป้าจุ๋ม และหลายคน ถูกไล่เรียงก่อนว่าคิดอะไรจึงได้มาเฮฮา5 ในส่วนของฉันให้กล่าวบอกว่า ทีมกระบี่ว่ายังไง
ไล่เรียงเป็นกลุ่มหมดแล้วจึงวนให้เป็นรายคนพูดบอกออกมา บล็อกเกอร์ทุกคนได้กล่าวแลกเปลี่ยนในสิ่งที่คาดหวังมาเฮฮา5 ทำไม แม้แต่น้องจิก็ยังได้บอกออกมา หนูมาทำไม อยากได้อะไร สำหรับน้องๆทีมจากกระบี่ หลังจากคอยหลบกลัวไมค์จะไปถึง ก็มีโอกาสพูดให้ได้ยินเสียงใสๆน่ารักกันครบทุกคน ใครกล้าใครกลัวได้พูดกันทุกคน ร้ายจริงๆวิธี check in
เสร็จจาก check in อ.มนตรีให้นอนเล่นหลับตาผ่อนพัก ในท่าผ่อนคลาย หลายๆคนฉงนฉงาย มาไม้ไหนกันนะนี่ สำหรับฉันไม่ฉงน เพราะเคยซนมาก่อน แอบไปเรียนรู้และเคยใช้มาแล้ว คราวนี้มีโอกาสผ่อนพักอีกครา จึงไม่รีรอที่จะทำตาม แอบมองไปเห็นทีมกระบี่ที่มาด้วย ก็แอบช่วยลุ้นอยู่ในใจหนา นอนซินอนน้องนอนเถอะน่านอน ไม่มีอะไรให้ต้องระแวงแคลงใจ เทคนิคแบบนี้เขาเอาเข้ามาเพื่อให้กายาและใจได้ผ่อนพัก เมื่อผ่อนพักพอ ใจที่บีบรัดมันจะผ่อนคลาย เวลาจะเรียนรู้ ใจมันตื่นรู้เปิดรับความรู้ได้ง่ายขึ้นค่ะ
ระหว่างนอนผ่อนพัก นี้แหละที่มีเสียง 2 เสียงดังขึ้น เสียงหนึ่งคือกีร์ต้าจากมือของอ.ประสาท เสียงหนึ่งหวานแว่วแทรกเสียงเข้ามาเป็นเสียงของขลุ่ย ตอนนั้นได้ฟังไม่รู้หรอกว่าเสียงขลุ่ยน้องจิเป่า จนลืมตาจ้องจึงเห็นหน้าคนกำลังเป่า เธอมีความสุขมากๆเลยค่ะ ตอนแรกไม่รู้ว่าเธอเป่าไปแบบไร้โน้ตนำ มารู้ทีหลังตอนเธอเฉลยในภาคบ่ายค่ะ นอนกันสักพัก อ.มนตรีบอกให้ลืมตาขึ้น แล้วก็ให้ลุกไปเบรกกันก่อน พร้อมย้ายที่ลงมารวมกันข้างล่าง คนอื่นไปเบรกแต่ฉันไม่เบรก แต่ไปช่วยกวาดขยะ ตอนขอไม้กวาดไม่ได้คิดอะไร เดินมาไม่สบายเท้าเลยมันรู้สึกมีทรายที่เหยียบโดนอยู่เรื่อย รู้สึกว่าถ้าจะนั่งมันก็ไม่น่าจะนั่งลงไปด้วยหนา ช่วยกวาดแล้วได้ทรายกองใหญ่พอใช้ทีเดียว หาที่โกยทรายนั้นก็ไม่มี ทันใดก็มีหนุ่มสาวเข้ามาช่วย ช่วยกันจัดการทรายได้เรียบร้อย ก็ถึงเวลาเริ่มเรียนกันต่อ
บทเรียนเริ่มขึ้นด้วยโจทย์จ่ายมาให้หาคู่นั่งพูดคุยกันเรื่องราวตอนเด็ก คู่คุยที่กำหนดคือคู่ที่แต่ละคนรู้จักกันน้อยที่สุด ฉันนึกว่าจะให้นั่งพื้นกลับให้นั่งบนเก้าอี้ซะนี่ ฉันจับคู่ได้คุณครูคนหนึ่งซึ่งบอกว่าเธออยู่ใกล้สวนป่า เรื่องที่ได้เล่าเป็นเรื่องของวัยประถมที่ฉันซุกซนจนโดนปะป๋าตี เล่าไปเรื่อยๆระหว่างที่เล่าน้ำไหลออกตา มันไหลออกมาเพราะใจมันหวนอาลัยถึงปะป๋าที่รัก ป๊ะป๋าคือคนที่สอนฉันให้รู้จักการให้ ป๊ะป๋าให้อิสระฉันทำอะไรได้ตามใจที่อยากเล่น
เรื่องที่เล่าไปเป็นเหตุการณ์ที่ฉันสนุกกับการทำอะไรโลดโผนที่ผู้ใหญ่กลัว แอบไปพายเรือในบึงหน้าบ้านที่ผู้ใหญ่ห้ามเพราะกลัวเรือล่ม ป๊ะป๋ากลับมากำลังพายๆอยู่พอดีอ่ะค่ะ ฉันรีบพายเข้าฝั่งหวังจะให้ทันป๊ะป๋าไม่เห็น แต่ที่ไหนได้ป๊ะป๋าเห็นชัดถนัดตาม ทีนี้ทำไง ขึ้นเรือมาแล้วป๊ะป๋าเรียกมาถาม รู้ไหมทำอะไรลงไป ผิดไหมที่ทำอย่างนี้นะหนา จำได้ฉันตอบว่า ผิดค่ะ ก่อนจะลงโทษป๊ะป๋าถามว่าจะให้ลงโทษยังไง เป็นเด็กกลัวเจ็บฉันก็บอกไป ให้ตีทีเดียวหนา ป๊ะป๋าแสนดีทำโทษไปตามที่บอกออกมา ครั้งเดียวนี้แหละที่ฉันจำได้ว่าถูกป๊ะป๋าตี แล้วหลังจากนั้นฉันไม่เค้ยไม่เคยทำผิดให้ถูกตีอีกเลยค่ะ
กติกากำหนดก่อนคุยไว้ว่า เมื่อคนหนึ่งพูด คนหนึ่งให้ฟัง เมื่อเล่าจบแล้วให้คนฟังนั้นเล่าบอกกลับมา ตอนฉันเล่าไปๆ แล้วมีน้ำออกตา คุณครูคู่คุยนั่งยิ้มตรงหน้าคงจะแปลกใจ เข้าใจในกติกาคุณครูจึงไม่ได้ถามอะไรกลับ เล่าจบไปแล้วคุณครูก็เล่ากลับ รอบหลังอาจารย์ให้สลับ คนฟังพูดเล่า คนเล่านั่งฟัง จบแล้วคู่เรานั่งคุยกันเพิ่ม สิ่งที่คุยกันมีเรื่องอายุครูถามแลกเปลี่ยน พอรู้อายุฉันดูครูแปลกใจ ถามฉันว่า มีเคล็ดอะไรที่ทำให้ดูหน้าตาดี ตอนนั้นฉันไม่ได้ตอบอะไร เพิ่งมานึกได้ตอนเขียนบันทึกนี้ค่ะ เป็นคนตระกูลหน้าตาดีซะอย่าง อายุเท่าไรก็หน้าตาดีทั้งนั้นจริงไหมค่ะ จบตอนคุยคู่ อาจารย์ก็หมุนให้จับคู่สี่ เล่าเรื่องให้ฟังทีละคนอีกที คราวนี้แหละค่ะที่หลายคนเริ่มพบใจตัวเองว่าหลงลืมความสุขบางอย่างไปแล้ว บางคนน้ำตารื้นเมื่อเล่าเรื่องตัว บางคนเฮฮาแล้วแต่เรื่องราว ความรู้สึกในใจคงคละเคล้าหลายความรู้สึก เหมือนดังภาพท้องฟ้าที่ก่อตัวในรูปลักษณ์ต่างๆนี้ค่ะ
สวัสดีเจ้าค่ะ ป้าหมอเจ๊
น้องจิมากราบสวัสดี และลาไปหอพักแล้วค่ะ แงๆๆๆ ป้าหมออย่าลืมน้องจินะค่ะ น้องจิรักป้าหมอน๊า รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าค่ะ
เป็นกำลังใจให้เจ้าค่ะ ---> น้องจิ ^_^
อ่าน และอ่าน กี่รอบก็ได้
เหมือนจับคู่คุย
แต่อ่าน จับคู่อ่าน กับบล็อก สะดวกดี
สวัสดีครับพี่หมอเจ๊
บ้านพี่หมอเหมือนบ้านผม เวลาป๋าหรือมะจะตี จะต้องสอนก่อน แล้วถามว่าผิดไม่ผิด ผิดแล้วจะให้ตีกี่ที อิอิ ในชีวิตเคยโดนป๋าตีไม่เกินสามครั้ง แต่กับมะถูกลงโทษด้วยรังมดแดง จ๊ากกกกก
สวัสดีครับ
แวะมาชวนไปฟังเพลงครับ @184493
สวัสดีครับ
ผมโดนทั้งพ่อทั้งแม่ ซึ่งผมจับคู่กับอาจารย์พิสูจน์ที่กำลังพักฟื้นใน รพ.นี่แหละครับ เราเหมือนๆกันคือ พ่อเป็นครูบ้านนอกทั้งคู่ โดนตีกันมาทั้งคู่ อิอิ.
ขุดเอารากลึกออกมาบ้างก็ดีนะครับน้องหมอครับ สังคมโบราณสร้างคนด้วยการลงโทษและสอนในสิ่งที่ถูกต้อง การลงโทษนั้นสมัยนี้ห้าม และไม่แนะนำ แต่คนโบราณลงโทษและสอนด้วย แล้วส่วนใหญ่เด็กก็จำ และมีความกริ่งเกรงในการกระทำผิดครั้งต่อไป
เอาดอกไม้มาฝากครับ