เมื่อเช้านี้เปิดพจนานุกรมของอาจารย์ ส. เสถบุตร
เพื่อหาความหมายของคำว่า
prowess n. ความกล้าหาญ, ฤทธิ์, อำนาจ
ปรากฏว่าได้ของแถมมาด้วยดังนี้
(ตัวอย่างประโยคหลังความหมายของคำว่า prowess)
I admire his prowess in equivocation.
(ซึ่งอาจารย์ ส. เสถบุตร แปลว่า)
ผมชมเชยความสามารถในการตลบแตลงของเขา
(ว้าว! ช่างแปลได้สุภาพอะไรเช่นนี้)
เห็นประโยคนี้แล้ว พลันนึกถึงใบหน้าของคนดังหลายคนในบ้านเมืองเรา...
ถ้าเป็นช่วงนี้ ก็คนนี้ครับ (ฮา)
Wow! I do admire his (her?) prowess in equivocation! ;-)
ปล. ฝึกการแปลภาษาล้วนๆ...ไม่มี hidden agenda นะจ๊ะ :-P
สวัสดีครับ
อุๆ
อาจารย์ใช้คำสุภาพเหมือนกันนะเนี่ย ;)
เด็ด จริง ๆ ขอรับ
ช่างเป็นการแปลที่สร้างสรรค์อะไรเช่นนี้ เห็นด้วยอย่างแรงเจ้าค่ะ
แหม! ไหนๆ จะเรียนภาษาอังกฤษทั้งที ก็ควรจะเอาให้ครบ
คำว่า equivocation มาจากคำกริยา equivocate
equivocate (formal) to avoid making a clear statement by saying something that has more than one possible meaning
แปลตรงน่าจะเป็น "พูดจากำกวม" หรือใกล้เคียงกับ "เล่นลิ้น" กระมังคร้บ
สวัสดีครับ อาจารย์กวิน
ใช่แล้วครับ ถ้าอาจารย์ ส.เสถบุตร เป็นผู้แปล ก็คงจะหาคนเถียงได้ยากมาก ;-)
รูปที่นำมาโพสต์นี้ เข้าใจว่านำมาจาก wiki ไทย แต่ผมสงสัยว่าจะเป็นภาพของ มจ.สิทธิพร กฤดากร ครับ (ผมอาจจะเข้าใจผิดก็ได้ เดี๋ยวต้องลองตรวจสอบให้ดีๆ)
ส่วนภาพของ อาจารย์ ส. เสถบุตร ในวัยหนุ่มน่าจะใช่
รูปนี้วิกิดึงมาจากสารคดีครับ ;)
บอกไว้ที่
http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9E:So_sethaputra_07.jpg
เมื่อ 8 ก.พ. 2551
จากเว็บ
http://www.sarakadee.com/feature/2002/04/images/so_sethaputra_07.jpg
สวัสดีครับ อาจารย์กวิน และอาจารย์ธวัชชัย
http://ecurriculum.mv.ac.th/elibrary/library/theyoung.net/index_vipthai_1_2.htm
ขอบคุณทั้งสองท่านอีกครั้งนะครับ ^__^
ลืมบอกไปว่า ผมนี่นับถือ คุณเอนก นาวิกมูล มาก เรียกว่าเป็น role model ในด้านการทำงาน (การค้นคว้าและเผยแพร่ความรู้ด้วยใจรัก) และด้านบุคลิกภาพ (อันสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตน) เป็นปราชญ์ที่น่านับถือมากๆ ครับ
ผมโชคดีมีโอกาสได้คุยกับคุณเอนกที่บ้านพิพิธภัณฑ์หลายครั้ง ไม่ถือตัว และไม่หวงความรู้เลย น่าชื่นชมจริงๆ
ที่ผ่านมานี่ก็จะพาลูก (โดยเฉพาะคนเล็ก) ไปเที่ยวบ้านพิพิธภัณฑ์บ่อยมาก คือ รู้สึกว่า ถ้าเด็กๆ ได้มีโอกาสสัมผัสกับคนและสถานที่ที่เป็นเชิงวัฒนธรรมนี่ น่าจะถ่วงดุลกับค่านิยมบริโภคนิยมที่ครอบงำสังคมเราได้บ้าง ไม่มากก็น้อย (ไม่รู้ว่าจะคิดถูกแค่ไหน แต่ได้ลองไปแล้ว)
อ่านคำอธิบายของศัพท์นี้ ทำให้อาตมานึกถึงคำว่า อมราวิกเขปกะ ซึ่งแปลว่า่ ซัดส่ายไปมาดุจปลาไหล เป็นคำเปรียบเทียบลัทธิคำสอนของสัญชัยปริพพาชก (อดีตอาจารย์ของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ในสมัยที่ยังเป็นปริพพาชก)
แม้ว่าลัทธิทำนองนี้จะเกิดขึ้นสองพันห้าร้อยกว่าีปีแล้ว แต่รู้สึกว่ายังคงหลงเหลือยู่ในสังคมไทย (.........)
เจริญพร
เลือกภาพตัวอย่างประกอบประโยคได้ดีจริงๆ ค่ะ ^ ^
กราบนมัสการหลวงพี่ฯ ครับ
ขอบคุณมากครับ เลยได้ภาษาบาลีมาด้วยเลย
สัญชัยปริพาพาชก นี่ผมลองไปค้นดูเห็นมีอีกชื่อคือ สัญชัยเวลัฏฐบุตร (Sanjayavelatthaputra) เข้าใจว่าเป็นอาจารย์ที่ "ดัง" มากท่านหนึ่งในสมัยพุทธกาลทีเดียว
ตอนนี้ดูเหมือนสังคมไทย จะมีพฤติกรรม 'อมราวิกเขปะ' (ซัดส่ายไปมาดุจปลาไหล) ให้เห็นมากทีเดียว (เอ๊ะ! หรือว่ามีมานานแล้ว?)
สวัสดีครับ คุณ littel jazz
แหม! ดูภาพออกในทันทีเลยหรือครับ (หวังว่าผมคงจะไม่โดนเจ๊เขาฟ้องอีกคนนะ...เห็นกำลังจะว่างงานอยู่พอดี...แหะ..แหะ)
อาจารย์บัญชาถ่อมตนในเรื่องการแปลง..ภาพ อิ อิ
แต่แม่นในเรื่องรูปของ มจ. สิทธิพรฯ
และ ขอบอกว่า เป็น แฟนเก่าเก๋าส์ของอ.อเนก ค่ะ
ไปบ่อยมาก ๆ เมื่อสองปีก่อน
(อ.อเนก เป็นรุ่นพี่โรงเรียนของสามี..ซะด้วย)
สวัสดีครับ คุณหมอภูสุภา
ช่วงหลังๆ นี่ อาจารย์เอนก เปรยๆ ให้ผมฟังหลายครั้งว่ามีปัญหาเรื่องสถานที่จัดแสดงและจัดเก็บสิ่งของต่างๆ คือ บ้านพิพิธภัณฑ์นี่พื้นที่ไม่พอซะแล้ว
คล้ายๆ กับว่า ถ้าจะบริจาคสิ่งของก็ให้ชะลอไว้ก่อน แต่ถ้าให้เป็นที่นี่จะช่วยได้มากเชียวครับ (ฮา)
คิดๆ ไปก็น่าสงสัยว่าภาครัฐไม่ได้ยื่นมือไปช่วยเลย (แต่คิดอีกทีก็คือ ไม่ช่วยก็ดีเหมือนกัน เพราะเดี๋ยวจะไปทำให้ยุ่งมากขึ้นซะเปล่าๆ)