ช่วงเย็นๆ ของปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีภารกิจการไปร่วมประชุมงาน และผู้เขียนเลือกเดินทางด้วยแท็กซี่อีกตามเคย เดินออกจากบ้านมารอเรียกรถที่ปากซอย ครู่เดียวรถแท็กซี่คันแรกก็มาจอด เมื่อเปิดประตูรถเพื่อบอกจุดหมายที่จะไป คนขับปฏิเสธยิ้มๆ อย่างนุ่มนวลว่าไม่สามารถไปได้เพราะเขาจะกลับมาไม่ทันส่งรถ แม้กำหนดเวลาประชุมใกล้เข้ามาแต่ผู้เขียนก็รู้สึกไม่กังวลอะไร เพียงแค่รับทราบและปิดประตู จากนั้นแค่หันมองกลับมาก็มีรถแท็กซี่อีกคันขับเข้ามาจอดใกล้ๆ ผู้เขียนเปิดประตูบอกจุดหมายปลายทางอีกครั้ง คราวนี้คนขับรีบพยักหน้ารับหงึกๆ อย่างรวดเร็ว เมื่อก้าวขึ้นไปนั่งในรถคนขับแท็กซี่ก็เปิดฉากสนทนา(คนเดียว)ทันที
คนขับแท็กซี่ : รถสีชมพูคันที่คุณเรียกหน่ะ เขาไม่อยากวิ่งเส้นทางไกลๆ ก็เลยอ้างว่าส่งรถไม่ทันใช่มั้ยล่ะ(สายตาเหลือบมองกระจกมายังผู้เขียน) มันเพิ่งวิ่งออกจากอู่รถมาเอง ผมเห็น
ผู้เขียน : ................................................
คนขับแท็กซี่ : เดี๋ยวนี้แท็กซี่เขาไม่อยากวิ่งรถระยะทางไกลๆ หรอกคุณ มันไม่คุ้มกัน สู้วิ่งใกล้ๆ ไม่ได้ วิ่งสองสามเที่ยวได้ร้อยสองร้อยแล้ว ไอ้ที่คุณจะไปนี่อย่างเก่งก็ร้อยเดียว ไหนจะรถติดอีกเพราะมันใกล้จุดที่ม็อบพันธมิตรมาชุมนุมไง
ผู้เขียน : ................................................
คนขับแท็กซี่ : เดี๋ยวนี้เศรษฐกิจไม่ดีนะคุณ อะไรๆ รัฐบาลมันขึ้นให้หมด แต่แท็กซี่มันยังไม่ให้ปรับราคา คนเขาจะอยู่ไม่ได้กันอยู่แล้ว ...... แล้วคุณรู้มั้ยทำไมแท็กซี่ชอบรับฝรั่งมากกว่า เพราะฝรั่งมันเข้าใจไงคุณ อย่างมิเตอร์ขึ้นมา 80 งี้ มันให้แบงค์ร้อยมาเลยไม่ต้องทอน มันเข้าใจไง แต่คนไทยไม่เข้าใจ
ผู้เขียน : ………………………………….
.................... เสียงโทรศัพท์ของผู้เขียนดังขึ้น.............................
รถแล่นเรื่อยๆ มาจนถึงปลายทางในเวลาประมาณ 30 นาที เพราะอันที่จริงแล้วจากจุดที่ผู้เขียนขึ้นรถมาถึงที่นี่นั้นเป็นระยะทางที่ไม่ไกลมากนัก และตลอดเส้นทางถนนก็โล่งดี
ออกจากห้องประชุมฟ้าเริ่มมืด ผู้เขียนไม่ได้เดินทางกลับบ้านในทันที เพราะมีนัดกับเพื่อนสนิทซึ่งไม่พบกันมานานที่สวนลุมไนท์ต่อ เดินทางด้วยรถแท็กซี่เป็นรอบที่สองของวันนี้และถึงสวนลุมไนท์ด้วยความปลอดภัยดีทุกประการไม่มีการสนทนากับคนขับเนื่องจากมีโทรศัพท์จากน้องสาวคนหนึ่งเข้ามา ผู้เขียนมาแยกจากเพื่อนเพื่อเดินทางกลับบ้านอีกทีเมื่อราวๆ 4 ทุ่ม และเลือกรถแท็กซี่ในการเดินทางกลับบ้านอีกครั้ง ผู้เขียนเดินออกจากสวนลุมไนท์ทางประตูด้านหัวมุมใกล้กับทางลงรถไฟใต้ดิน เดินมาเรื่อยๆ จนเห็นรถแท็กซี่ เมื่อเรียกและบอกจุดหมายคนขับปฏิเสธด้วยกิริยาอาการที่ไม่แยแสใดๆ หันมองไปยังคนอื่นๆ ที่รอเรียกรถอยู่ ก็พบว่ามีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติมากกว่า ผู้เขียนจึงยืนสังเกตการณ์อยู่ตรงนั้นสักครู่ รถแท็กซี่จะจอดเทียบใกล้ๆ กับผู้โดยสารที่เป็นชาวต่างชาติและรับขึ้นรถง่ายดาย ส่วนผู้โดยสารที่เป็นคนไทยจะมีอาการเซ็งๆ ไม่ต่างจากผู้เขียน ดังนั้นแท็กซี่คันไหนที่เปิดกระจกเพื่อคุยกับคนไทยแต่ไม่รับ ผู้เขียนก็ไม่เรียกรถคันนั้นต่อเช่นกัน
เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที สองสาวคนไทยที่ไม่ประสบความสำเร็จในการเรียกรถแท็กซี่เช่นเดียวกับผู้เขียนก็ตัดสินใจข้ามถนนไปอีกทาง หันมองรอบๆ ข้าง ไม่มีคนไทยอยู่อีกแล้วในบริเวณนั้น ผู้เขียนจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในสวนลุมไนท์อีกครั้ง ด้านในสวนลุมไนท์ก็มีจุดจอดรถแท็กซี่สำหรับบริการนักท่องเที่ยว ผู้เขียนลองสอบถามแท็กซี่คันหนึ่งดูอากัปกิริยาของคนขับไม่ต่างไปจากแท็กซี่ที่ไม่สนใจผู้โดยสานคนไทยที่ด้านนอก ผู้เขียนจึงเดินออกจากสวนลุมไนท์ที่ประตูด้านถนนพระราม 4 ใกล้ๆ กับประตูมีรถแท็กซี่จดเรียงรายหลายคันแต่คนขับต่างส่งสายตาไปที่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และไม่มีแท็กซี่คันไหนสนใจผู้เขียน ยืนอยู่เพียงไม่นานผู้เขียนก็เห็นรถแท็กซี่กำลังแล่นผ่านมาแต่ไม่จอดรวมกลุ่มกับแท็กซี่คันอื่นๆ จึงลองเรียกดู ทันทีที่เปิดประตูคนขับก็พยักหน้ารับ จากตรงนั้นขึ้นทางด่วนเพียงไม่นานผู้เขียนก็มาถึงบ้านอย่างปลอดภัย
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผู้เขียนเห็นแท็กซี่ไทยไม่สนใจคนไทย และที่สวนลุมไนท์ก็ไม่ใช่จุดเดียวที่เป็นเช่นนี้ เรื่องที่ผู้เขียนได้ฟังจากแท็กซี่คันแรกก็ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกใหม่ที่น่าประหลาดใจ และในวันนั้นผู้เขียนหารถกลับบ้านได้ยากเย็นก็ไม่ได้เป็นเรื่องที่ไม่เคยรู้หรือไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ความคิดที่ว่าต่างชาติดีกว่าคนไทยด้วยกันมีอยู่ทุกวงการไม่เว้นแม้ระดับรากหญ้า แล้ว...สังคมจะเป็นอย่างไรต่อไปถ้าคนไทยไม่เห็นค่าคนไทยด้วยกัน คำตอบก็อาจจะได้ว่า...ก็เป็นแบบที่เห็นที่เป็นอยู่เช่นนี้นั่นแหละ เพราะคนไทยเป็นเช่นนี้มานานแสนนานแล้วนั่นเอง...มันเป็นเช่นนั้น นั่นเอง
เศร้าเลยพี่ jaew ถ้าเจอแท็กซี่แบบนี้ ปกติน้องจะจ่ายเกินมิเตอร์ แท็กซี่จะยิ้มร่า อิอิๆๆ
สวัสดีค่ะอาจารย์ขจิต
อิอิ...............มันถูกไหมครับ
ผู้เขียน : แล้วคุณรู้มั้ยทำไมแท็กซี่ชอบรับฝรั่งมากกว่า เพราะฝรั่งมันเข้าใจไงคุณ อย่างมิเตอร์ขึ้นมา 80 งี้ มันให้แบงค์ร้อยมาเลยไม่ต้องทอน มันเข้าใจไง แต่คนไทยไม่เข้าใจ
คุณสิทธิรักษ์
ขอบคุณค่ะ จะรีบแก้ไขค่ะ พิมพ์ผิดจริงๆ ^_^
มันเป็นเช่นนั้น........เอง
แก้ไขแล้วค่ะ ขอบคุณคุณสิทธิรักษ์อีกครั้งนะคะ
ตามเข้ามาอ่าน JJ(jaew's journel) ขออนุญาตตั้งชื่อนะครับ อิอิ
ผมก็เคยโดนทำนองแบบนี้ ผมเลยต้องส่งภาษาต่างประเทศ ปรากฏว่าสำเร็จ พอไปได้สักพักหนึ่งผมก็คุยกับแฟนไปด้วยกันเป็นภาษาไทย แท็กซี่เป็น..งงง
สวัสดีค่ะคุณหนุ่ย
สวัสดีค่ะอาจารย์ประจักษ์
ไม่ได้เปลี่ยนชื่อคุณครับ แต่เป็นตั้งชื่อเรื่องที่คุณแจ๋วเขียนครับผม อิอิ
สวัสดีอีกครั้งค่ะคุณหนุ่ย
สวัสดีครับ พี่แจ๋วแหว๋ววว
สวัสดีค่ะคุณครูโย่ง
สวัสดีค่คุณกวิน
สวัสดีค่ะคุณแจ๋ว
สวัสดีค่ะพี่คนไม่มีราก
มารายงานตัวแล้วค่ะ (ถึงจะช้าไปหน่อย แต่ก็ช้าเป็นประจำ อิอิ)
พูดเรื่องนี้แล้ว...คุยกันยาวแน่ๆ ประเด็นคนไทยกะฝรั่งนี่
แต่วันนี้เอาสั้นๆ ก่อนดีกว่า... ว่าแต่ว่า
พี่เคยสงสัยบ้างไหมคะว่า ทำไมคนต่างชาติที่อยู่ติดประเทศเรา
ที่เราเรียกเขาว่า เพื่อนบ้าน(เช่น พม่า ลาว เวียดนาม)
เราจะเรียกพวกเขาว่า "คนต่างด้าว"
แต่พอเป็นต่างชาติที่มาไกลหน่อยจากตะวันตกหรือที่แห่งอื่นๆ
เราจะเรียกพวกเขาว่า "ฝรั่ง" ...แค่การเรียกก็แสดงให้เห็นแล้วว่า
มีลำดับของการยกย่องที่แตกต่างกัน พี่ว่าจริงมั้ยคะ
พี่แจ๋วขา..อย่าคิดอะไรมาก มันเป็นเช่นนั้นเอง....คิดถึงค่ะ
พี่คนไม่มีรากคะ
แนทคะ
ครูมิมจ๋า
อรุณสวัสดิ์คนดี
เป็นห่วงจังเลย ระวังสุขภาพนะครับ
สวัสดีค่ะคุณสิทธิรักษ์
ขอบคุณที่ห่วงใยค่ะ
นอนดึก ตื่นเช้า ก็ต้องรักษาสุขภาพด้วยเช่นกันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณแจ๋ว
เหมือนที่คุณแจ๋วว่า เราพอจะรู้กันอยู่แล้วว่าแท๊กซี่ เค๊าทำอย่างนี้กันเยอะและเป็นมานานแล้ว บางทีรอนานจนเปลี่ยนใจขึ้นรถเมล์มาพอดี นานพอๆกัน
ส่วนที่ฮาวาย เค๊ามีวิธีป้องกันไม่ให้แท๊กซี่เลือกปฏิบัติกับผู้โดยสาร คือ ถ้าแท๊กซี่คันไหนปฏิเสธผู้โดยสารให้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ เค๊าจะลงโทษไม่ให้วิ่งต่อค่ะ
สวัสดีครับ
เบื่อแท็กซี่มานานแล้ว เรียกยากเรียกเย็น ไม่พูดดีกว่า ....
วันนี้อากาศสดใส ตื่นเช้าทำงานได้เยอะ คงไม่เข้ามาอ่านบ่อยเหมือนเมื่อวาน
ทางโน้นฝนตกไหมครับ
ถ้าแท็กซี่ไม่รับอีก ก็เดินกลับแบบคุณคนไร้รากนะครับ ;)
สดชื่นสดใสนะครับ
สวัสดีค่ะคุณ a l i n_x a n a =)
สวัสดีค่ะ คุณ ธ.วั ช ชั ย
สวัสดีค่ะ
* บริการไหนๆ ก็เหมือนกันค่ะ..ถ้ามีชาวต่างชาติอยู่เป็นจำนวนมาก....เขาไม่สนใจ
* เคยพบที่โรงแรม....ร้านอาหาร.....ตามแหล่งท่องเที่ยว....
* ทำใจให้สบายค่ะ...มันต้องมีสักคนที่มีจิตใจของการให้บริการค่ะ...สุดท้ายเราก็พบ...คันที่รับเราไงคะ
* สุขสันต์รับวันศุกร์ค่ะ
*เราควร สร้างค่านิยม ปลูกฝัง ความคิดใหม่ๆ ค่ะพี่แจ๋ว
* ตั้งแต่ ระดับ เรื่องเล็กๆ ลงไป ... โดยใช้สื่อรัฐ โจมตี
* จะบุกป่า สู่เมือง หรือ จะเมืองเข้าป่า ก็ว่ากันไปค่ะ
* ... หลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง และคนไทยเสียความรู้สึกกันเอง .... *
ขอบคุณค่ะ ... คิดถึงนะคะ งานยุ่งมากไหม เป็นกำลังใจให้ค่ะ ...
... พักผ่อนมากนะคะ ... จะได้มีแรง ...
คิดถึงคุณแจ๋วค่ะ
(^___^)
ส่งความคิดถึงค่ะ
ส่งใจให้สู้กับงานหนักนะคะ
(^___^)
ระหว่างทางระหว่างงาน พักบ้างนะคะ สงสัยงานยุ่งมากๆ คิดถึงค่ะ ช่วงนี้ได้รูปผีเสื้อแจ๋วๆ ได้ภาพดีๆคราใดคิดถึงคุณแจ๋วทุกครั้งเลยค่ะ
บุญรักษานะคะ