ในการบรรยายเรื่อง “การพัฒนาสมรรถนะและการพัฒนางานทางวิชาการของครู” ตามหลักสูตรการพัฒนาบุคลากรเพื่อการเลื่อนวิทยฐานะ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2551 ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา กทม. เขต 2 ณ โรงเรียนสารวิทยา มีผู้สนใจท่านหนึ่งถามว่า “มีหลักอะไรในการเลือกประเด็นเพื่อพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้”
ผมให้ข้อคิด ในทัศนะของผมดังนี้ นะครับ
1) ประเด็นที่จะพัฒนา ควรตรงตามหลักการในการจัดการศึกษา
หลักการในการจัดการศึกษา ในวันนี้ ตาม พ.ร.บ.การศึกษา ฯ 2542 เน้น
หลักการที่สำคัญ คือ 1) เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน....ภายใต้หลักการนี้ ครูจะต้องสอนให้นักเรียนเป็นคนใฝ่รู้ ใฝ่เรียน ดังนั้น ถ้าท่านเน้นการปลูกฝังนิสัยใฝ่รู้ จัดกิจกรรมเพื่อสร้างค่านิยมการเป็นยอดนักอ่าน ฯลฯ ถือว่าสอดคล้องกับหลักการของ พ.ร.บ. ครับ 2) ให้สังคม ชุมชน มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา...ภายใต้หลักการข้อนี้ ถ้าท่านเน้นกิจกรรมการเรียนรู้ หรือการพัฒนาผู้เรียน ที่เน้นบทบาทร่วมของผู้ปกครอง หรือ ชุมชน หรือเครือข่ายผู้ปกครอง หรือการใช้แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น เข้ามาช่วยในการจัดการศึกษา น่าจะถือว่าผลงานของท่านสร้างสรรค์ครับ และ 3) ให้มีการพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ...ประเด็นนี้เป็นเรื่องของ การปรับปรุง เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมหลักสูตร การพัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น การพัฒนากระบวนการเรียนรู้ในเรื่องต่าง ๆ ล้วนถือว่าตรงกับหลักการในข้อนี้ ทั้งสิ้น
2) ประเด็นเพื่อการพัฒนานวัตกรรม ต้องสอดคล้องกับหลักการหรือจุดเน้นของหลักสูตร
3) นวัตกรรมการเรียนรู้ จะต้องสอดคล้องกับเนื้อหาและธรรมชาติของผู้เรียน
4) นวัตกรรมการเรียนรู้ ควรให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยในการจัดการเรียนการสอน
5) นวัตกรรมการเรียนรู้ ควรให้ความสำคัญกับการเรียนรู้ตามสภาพจริง การใช้ปัญหาเป็นฐาน เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
ในประเด็นที่ 2)-5) ผมค่อยขยายความ ในตอนต่อไปนะครับ
2) ประเด็นเพื่อการพัฒนานวัตกรรม ต้องสอดคล้องกับหลักการหรือจุดเน้นของหลักสูตร
3) นวัตกรรมการเรียนรู้ จะต้องสอดคล้องกับเนื้อหาและธรรมชาติของผู้เรียน
4) นวัตกรรมการเรียนรู้ ควรให้ความสำคัญกับนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ เข้ามาช่วยในการจัดการเรียนการสอน
5) นวัตกรรมการเรียนรู้ ควรให้ความสำคัญกับ การเรียนรู้ตามสภาพจริง การใช้ปัญหาเป็นฐาน เกิดประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตและการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
เรียน ดร.สุพักตร์
ดิฉันไม่ได้เป็นครูหรือผู้สอนที่เกี่ยวข้องกับการเรียนการสอนในโรงเรียน แต่จบด้านการวัดและประเมินผลทั้ง ป.ตรี และ ป.โท รวมทั้งได้มีโอกาสไปช่วยเป็นวิทยากรพี่เลี้ยงเกี่ยวกับการทำวิจัยให้กับครูบ้าง พบว่าครูส่วนใหญ่ที่ต้องการขอมีหรือขอเลื่อนวิทยฐานะ ยังขาดความเข้าใจในการทำผลงานวิชาการของตนเอง ยังไม่ทราบว่านวัตกรรมที่ตนจะใช้เป็นผลงานควรเป็นอะไร
ทั้งนี้เพราะยังขาดความเข้าใจที่ชัดเจน ทำให้มุ่งที่จะทำเอกสารเพื่อให้เป็นเล่มสำหรับส่งให้ตรวจอย่างเดียว แต่จริงๆ แล้วถ้าครูรู้ว่าปัญหาในการจัดการศึกษาของตนในห้องเรียนมีอะไรบ้างแล้ว และแต่ละปัญหามีสาเหตุมาจากอะไร จะใช้อะไรไปแก้ปัญหาเหล่านั้นเพื่อให้เกิดผลที่ตัวนักเรียน ครูก็ต้องศึกษาหาความรู้ว่าควรจะใช้เครื่องมืออะไรสำหรับจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มีผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้นั้นๆ และนั้นก็จะเป็นนวัตกรรมของครูที่จะให้เป็นผลงานสำหรับเสนอของมีหรือเลื่อนวิทยฐานะ
แต่ที่พบในปัจจุบัน ครูส่วนใหญ่มุ่งที่จะเขียนผลงานย้อนหลังโดยไม่มีนวัตกรรมจริงๆ ที่ส่งผลให้เกิดกับเด็ก แต่เป็นการทำโดยไม่มีร่องรอยหลักฐานที่ได้ทำไปแล้วมาเป็นแนว ทำให้คิดไม่ออกว่าจะทำอะไรเป็นนวัตกรรมดี
นอกจากนี้ยังไม่รู้ว่าอะไรบ้างที่จะเป็นเรื่องที่เหมาะสำหรับส่งเป็นผลงาน เพราะคิดแต่ว่าต้องทำให้ผู้ตรวจเห็น โดยไม่ได้มองที่นักเรียนเป็นสำคัญ ถ้าครูมุ่งที่จะสอนให้เด็กเกิดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละสาระฯ แล้ว ดิฉันเชื่อว่าครูก็สามารถที่จะนำวิธีการนั้นๆ มาเขียนเพื่อเป็นผลงานของตนเองได้
ขอร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อแลกเปลี่ยนค่ะ
สวัสดีครับ อาจารย์ "ไม่ได้เป็นครู แต่ห่วงการศึกษาไทย"
-ครูต้องศึกษาหาความรู้ว่าควรจะใช้เครื่องมืออะไรสำหรับจัดกิจกรรมให้นักเรียนได้มีผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้
-ไม่มีนวัตกรรมจริงๆ ที่ส่งผลให้เกิดกับเด็ก
-ทำโดยไม่มีร่องรอยหลักฐานที่ได้ทำไปแล้ว
-ถ้าครูมุ่งที่จะสอนให้เด็กเกิดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ในแต่ละสาระฯ แล้ว เชื่อว่าครูก็สามารถที่จะนำวิธีการนั้นๆ มาเขียนเพื่อเป็นผลงานของตนเองได้
สวัสดีค่ะพี่ชาย....ดร.สุพักตร์
รักษาสุขภาพนะคะ
ขอบคุณอาจารย์...มากเลยครับ เป็นแนวคิดที่จุดประกายให้ผมมากเลยครับ.....ผมขอแนวคิดของท่านอาจารย์ไปประยุคนะครับ
1. คือเทอมนี้แนวคิดนี้ผมจะนำกลุ่มเด็กจำนวน 50 คน จากนักเรียน ม.6 สองร้อยกว่า ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ จะเริ่มในเดือน ก.ค. นี้ ถึง ส.ค. ซึ่งประมาณต้นเดือน ก.ย. ทางกลุ่มสาระฯ จะทดสอบสมรรถภาพครั้งที่ 2
2. แนวการวิจัย"รายงานการพัฒนาสุขภาพอนามัย เรื่อง กว่าจะถึงวันนี้" ผมขอตั้งหัวข้อเป็น การพัฒนาสุขภาพอนามัย เรื่อง กว่าจะถึงวันนี้ นะครับ โดยใช้ กิจกรรมที่โรงเรียนเลือกเล่น กิจกรรมวิ่งเก็บรอบ และกิจกกรมที่ร่วมกับผู้ปกครอง โดยทั้ง 3 กิจกรรมจะให้นักเรียนทำเป็นปฎิทินการวางแผนการออกกำลังกายโดยการนำสมรรถภาพของตนเองมาวิเคราะห์เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติ
3. ผมสอน ม.2 และ ม.6 ซึ่งทั้ง 2 ระดับ ผมตั้งข้อสังเกตเห็นผลการทดสอบสมรรถภาพต่างกันมากครับอาจารย์ คือ ม. 2 สอน 3 ห้องเรียน ที่รับผิดชอบ ผลการทดสอบสมรรถภาพผ่านเกณฑ์น้อยมาก ส่วนใหญ่ไม่ผ่านเกณฑ์ ทั้งเกณฑ์ทั้ง 2 ระดับ ก็ใช้เกณฑ์อายุและสิถติของเกณฑ์ ก็ต่างกันอยู่แล้ว ทั้งๆสภาพของวัยและอายุ ของ ม. 2 เรื่องความอาย เรื่องสรีระ ก็มีน้อยไม่น่าจะเป็นปัญหาหลัก.....อาจารย์มีข้อสังเกตอย่างไรครับ