ปริญญาชีวิต ตอนที่ ๙
เคล็ดลับแห่งความเป็นเลิศของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี
ความสำเร็จในชีวิตของคนคนหนึ่ง หากพิเคราะห์ให้ดีเราจะพบว่า ไม่ได้เกิดขึ้นมาบนสุญญากาศ หรือมิได้เกิดขึ้นมาจากปาฎิหาริย์ที่เรามองไม่เห็น ตรงกันข้าม ทุกๆความสำเร็จของคนที่มีชื่อเสียงล้วนมีที่มา เช่นเดียวกับที่น้ำทุกหยดย่อมมีต้นน้ำ
ความสำเร็จของจิตรกรเอกของไทยและของโลกคนหนึ่งที่ชื่อว่าอาจารย์ “ถวัลย์ ดัชนี” ก็เช่นเดียวกัน
หลายคนมองว่า อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เป็นคนพิเศษเป็นอัจฉริยมนุษย์คนหนึ่งซึ่งเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ทางด้านศิลปะอย่างเอกอุ แต่หากใครได้รู้จักตัวตนของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี อย่างแท้จริงก็จะพบว่า เบื้องหลังความสำเร็จของท่านล้วนเกิดขึ้นบนพื้นฐานของการมีใจรัก บนพื้นฐานของการฝึกฝน บนพื้นฐานของการอุทิศตน และแสวงหาทางออกให้กับตัวเองอย่างชนิดยอมเอาชีวิตลงวางเดิมพัน
จากชีวประวัติของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี เราจะพบว่าท่านเริ่มตกหลุมรักการวาดเขียนตั้งแต่ยังเป็นทารกวัยกระเตาะ ดังท่านเล่าว่า เมื่อตอนอายุราวสามหรือสี่ขวบได้ติดตามคุณแม่ไปทำบุญที่วัดมุงเมือง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ขณะที่คุณแม่นั่งสนทนาธรรมอยู่กับหลวงตาเจ้าอาวาส เจ้าลูกชายตัวน้อยเล่นอยู่ข้างนอก ก็ได้แอบแสดงนิทรรศการภาพวาดเดี่ยวเป็นครั้งแรกในชีวิตบนผนังกำแพงวัด โดยใช้ถ่านวาดเขียนแทนพู่กัน เจ้าหนูระบายสีบนผนังกำแพงวัดเสียลายพร้อยวิจิตรบรรจง เมื่อคุณแม่กลับออกมาพบเข้าก็ร้องดุลูกชายลั่นลานวัด แต่หลวงตาบอกว่า อย่าดุเจ้าหนูมันเลย เลี้ยงให้ดีๆ เด็กคนนี้โตขึ้นมาอาจเป็นจิตรกรเอกของโลกก็เป็นได้
“แวว” ของคนมักขึ้นอยู่กับ “แววตา” อย่างนี้เสมอ แววตาของหลวงตาคมยิ่งกว่าตาเหยี่ยว เพราะหลังจากนั้นมาจนบัดนี้ เจ้าหนูคนนั้นได้ตระเวนแสดงนิทรรศการศิลปะของตนเองไปทั่วทุกมุมโลก ฝรั่งบอกว่า Practice Makes Perfect การหมั่นฝึกฝนทำให้คนเป็นคนโดยสมบูรณ์นั้นเป็นความจริงอย่างยิ่ง
บนเส้นทางของการฝึกตนนั้น แน่นอนว่าต้องการความทุ่มเทและอุทิศตนอย่างเอกอุ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี ในวัย 65 ปีเคยเล่าว่า แม้แต่ยามอยู่เฉยๆตัวเองก็ยังฝึกขว้างมีดขว้างขวานอยู่เสมอ ทั้งนี้เพื่อฝึกความเที่ยงตรงของฝีมือเพื่อฝึกความคมชัดของการตวัดเส้นสายปลายพู่กันให้มีความเที่ยง ความเฉียบคม เหมือนเมื่อตอนที่ยังมีกำลังวังชาเต็มที่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ จากคำบอกเล่านี้เราจะพบว่า แม้อาจารย์ถวัลย์จะได้ชื่อว่าเป็นครูของครู หรือเป็นศิลปินระดับโลกแล้วก็ตามที แต่ถึงกระนั้นท่านก็ไม่เคยว่างเว้นจากการอุทิศตนฝึกฝนฝีมืออยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม คุณสมบัติ 3 ประการนี้ ยังไม่ใช่สิ่งที่ทำให้อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี โดดเด่นออกมาจากศิลปินไทยคนอื่นๆ แต่ “ความคิดสร้างสรรค์” ต่างหากคือเคล็ดลับแห่งความสำเร็จอันโดดเด่นถึงที่สุด
ทุกวันนี้ในวงการศิลปะไม่ว่าเวทีไทยหรือเวทีโลก หากเอ่ยชื่อ “ถวัลย์ ดัชนี” ขึ้นมา เราจะพบว่ามีน้อยคนนักที่จะไม่รู้จักคนคนนี้
เคล็ดลับแห่งความเป็นเลิศของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี หากมองผ่านมุมมองของธรรมะเราสามารถสรุปผ่านหลักการที่เรียกกันว่า “อิทธิบาท4” (มรรควิธีสู่ความสำเร็จ) ซึ่งประกอบด้วย
1. มีใจรัก
2. พากเพียรทำ
3. อุทิศตน
4. ฝึกฝนให้แตกต่าง
ไม่ว่าใคร สังกัดอาชีพไหน หากมีคุณธรรมทั้ง 4 นี้ครบบริบูรณ์ ก็สามารถครอบครองความสำเร็จในสาขาอาชีพตนได้ทั้งนั้น
ขอขอบคุณ
เคล็ดลับแห่งความเป็นเลิศ
ของอาจารย์ถวัลย์ ดัชนี
จากหนังสือธรรมาค้าขึ้น ของท่าน ว. วชิรเมธี
สวัสดีครับ
1. มีใจรัก
2. พากเพียรทำ
3. อุทิศตน
4. ฝึกฝนให้แตกต่าง
ไม่ทราบเพราะข้อ 4 รึเปล่าครับที่ผมมักถูกแทง ฮะ ฮะ
ขอบคุณค่ะ
ฉันทะ
วิริยะ
จิตตะ
วิมังสา
นานแล้ว..ที่ไม่ได้ฟังเพลงเปิบข้าว...
ในวัยหนุ่มที่ผ่านมา..สถานการณ์ความขัดแย้งของคนในสังคมเป็นเพียงชนชั้นชาวนา กรรมกร แรงงาน กับนายทุน...
ปัจจุบัน ความขัดแย้งดังกล่าวเปลี่ยนรูปแบบ..เนื่องจากเรายอมรับเกี่ยวกับความไม่มีพรมแดน...ความไร้พรมแดน...ทุกอย่างเป็นสินค้า..สามารถทำการซื้อขายได้
การค้าขายในปัจจุบันแตกต่างจากอดีตเป็นอย่างมาก..กล่าวคือ เมื่อได้ผลผลิตแล้วจึงนำมาขาย...ปัจจุบันการค้าขายเนการขายสิทธิ์...ในอนาคตที่จะมีการผลิตสินค้า...ดังนั้นผู้ประกอบการจึงได้เก็งราคาในสินค้าต่าง ๆ จนทำให้สินค้านั้นมีมูลค่าสูงขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล...พบได้ในราคาน้ำมันในปัจจุบัน...ที่นับวันจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการเก็งราคาของผู้ค้าน้ำมันต่าง ๆ ...ไม่มีทีท่าว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้...
เปิบข้าวจึงเป็นเพียงบทเพลงหนึ่งที่ทำให้เห็นว่า...สภาพปัญหาในอดีต..ก็ยังคงไม่ได้รับการแก้ไข...จนมาถึงปัจจุบันก็ยังเป็นปัญหาเก่าที่ยิ่งใหญที่รอให้ใคร...ก็ไม่รู้มาแก้ไขต่อไป...
นายคนธ์
ขอบคุณที่เอาเรื่องราวดีๆ มาฝากครับ
คำว่า ฝึกฝนให้แตกต่าง มีความสำคัญมากในสังคมธุรกิจปัจจุบันนี้ครับ หากสินค้าไม่แตกต่าง อยู่ลำบากครับ
ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา
คาถา ๔ คำนำไปปฏิบัติเถอะครับจะน้อมนำไปใช้ต่อไปครับ
1. มีใจรัก
2. พากเพียรทำ
3. อุทิศตน
4. ฝึกฝนให้แตกต่าง
คุณลุงคะ ทราบว่าคุณลุงมีกำหนดเดินทางต่างประเทศอีก
แต่ไม่อยากให้หยุดเขียนบันทึกเลยค่ะ คุณลุงเขียนได้น่าอ่าน แจ๋วยังติดตามอ่านเสมอ
คุณลุงเขียนตามสะดวก อาจจะนานๆ ที ก็จะรอติดตามอ่านนะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้คุณลุงค่ะ
สวัสดีค่ะคุณลุง
ตามมาอ่านด้วยความกระตือรือร้นค่ะ
แม้จะขาดไปบ้างบางบันทึก แต่ก็จะตามอ่านจนครบค่ะ
รักษาสุขภาพด้วยนะคะ
ตามพี่แจ๋ว มาเป็นกำลังใจให้คุณลุงคะ
หากพอมีเวลาว่าง เขียนบันทึกเล่าเกี่ยวกับการเดินทางก็ได้คะ ^_^
ยังติดตามอ่าน บล็อกของคุณลุง อยู่นะคะ
มาเก็บเกี่ยวในรอยประสบการณ์...ครับ