สุขใจกับโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน


วันนี้วันเสาร์เพิ่งกลับจากการไปเยี่ยมบ้านนักเรียนห้อง ม.2/1  นักเรียนในประจำชั้นมา  ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ถ้าไม่รวมวันที่เข้าไปอบรม KM รุ่น 2 ของสพท.สพ.2 เรา  ดิฉันได้ใช้เวลาหลังเลิกเรียนทุกวัน  สละเวลาส่วนตัวที่จะมีให้แก่ครอบครัว  ออกเดินทางไปเยี่ยมบ้านนักเรียนที่ดิฉันเป็นครูประจำชั้น  เด็กๆมีกัน 21 คน  ช่วงนี้ฝนตก  บางทีไปก็ติดฝนบ้าง นั่งคุยกับผู้ปกครองไปเรื่อยๆ ส่วนมากดีใจที่ครูมาเยี่ยม  มาเที่ยวบ้าน  บ้านนักเรียนแต่ละหลังอยู่กันไปคนละเส้นทาง  ดิฉันวางแผนไว้ว่าวันไหนจะไปทางเส้นทางไหนและใครจะไปเป็นไกด์นำทาง  ค่าจ้างไกด์คือขนมเล็กๆน้อยๆที่เราซื้อรับประทานระหว่างทาง  สิ่งที่ได้พบจากประสบการณ์การเยี่ยมบ้าน  คือ นักเรียนที่แต่งกายมอซอมาโรงเรียนไม่ใช่นักเรียนที่ยากจนที่สุดในห้อง  นักเรียนที่แต่งกายสะอาด ไม่มีปัญหาทางการเรียน บางครั้งเมื่อเราไปเห็นสภาพที่แท้จริงของบ้านกลับพบว่า อยู่บ้านหลังเล็กๆ  แม่ไม่สบาย  พ่อทำงานคนเดียวหาเลี้ยงครอบครัว  บ้านอาศัยที่ดินของคนอื่น  เราต้องศึกษาเป็นรายกรณีไป  ไปสัมผัสสภาพชีวิตของเขาที่บ้าน ไม่ใช่ตัดสินในสิ่งที่ตาเห็น  บางบ้านซอมซ่อ แต่มีเงินเก็บ เพราะเขาอยู่อย่างพอเพียง น่าชมเชย   มีนักเรียนคนหนึ่งร่าเริง  ไม่มีพ่อแม่ดูแล  อยู่กับย่า  กลางคืนต้องทำงานโรงงานข้าวหลาม ปอกข้าวหลามถึงสี่ห้าทุ่ม  แต่เขากลับเป็นเด็กผู้หญิงที่เข้มแข็ง เป็นที่รักของเพื่อนๆ  เรียนเก่งและตั้งใจ เพราะเขามีเป้าหมายในอนาคตของเขา  มีอีกคนหนึ่งพ่อแม่พี่น้องและมียายอยู่พร้อมหน้า    แต่เขากลับไม่สนใจเรียน  ต้องคอยเคี่ยวเข็ญเขา  ให้ส่งงานส่งการบ้าน  และอีกคนหนึ่งเป็นเด็กผู้หญิงน่ารัก อยู่กับตายาย เรียกตายายว่าพ่อแม่ เพราะไม่มีแม่  ส่วนพ่อไปมีครอบครัวใหม่ แต่ตายายให้ความรักความอบอุ่น เลี้ยงดูอย่างดี เขาเป็นเด็กดี  และขยันเรียน  หลายๆบ้านที่มีปัญหาเดียวกันคือ ผู้ปกครองทำงานรับจ้าง  รายได้ไม่แน่นอน  มีปัญหาหนี้สิน  แต่มีบ้านสองหลังที่ดิฉันไปพบมาแล้วทำให้น้ำตาซึมเลยทีเดียว  บ้างหลังหนึ่งเด็กหญิงลูกศิษย์ตัวน้อย อยู่คนเดียว  ไม่มีผู้ปกครองอยู่บ้าน  พ่อแม่ไปทำงานต่างจังหวัด  ส่งเงินมาพอใช้บ้าง ไม่พอใช้บ้าง  เด็กหญิงต้องนอนคนเดียวในเวลากลางคืน หุงหาอาหารกินเอง บางครั้งไม่มีอาหารไปขอป้าบ้านข้างๆ บางทีเรียกเขาไม่ได้ยิน ไม่เปิดประตู  เพื่อนๆบอกว่าอยู่โรงเรียนเขาเป็นเด็กโวยวาย ชอบพูดไม่เพราะ พูดเสียงดัง  วันนี้เข้าพเจ้าเข้าใจแล้ว  ว่าเขาอยากให้มีคนสนใจเขาเพราะอะไร  อีกบ้าน เป็นเด็กชายตัวผอมสูง  มีปัญหาทางการเรียน คือไม่สนใจเรียน  ชอบคุย ชอบเล่น ไม่ชอบทำงานส่งครู  ต้องคอยตักเตือนเสมอ  วันนี้ไปพบน้าของเขา  น้าบอกว่าเขาขาดพ่อแม่  พ่อแม่ของเขาเสียไปตั้งแต่เขาอายุหกเจ็ดขวบ  น้าผู้ที่ไม่ได้แต่งงานเลี้ยงเขามา พร้อมหลานอีกสองคน แต่เป็นหลานที่เป็นน้องคนละพ่อคนละแม่  ส่วนพี่น้องร่วมท้องของเขาไม่มี เขาเป็นลูกคนเดียว  น้าทำงานเหนื่อยรับจ้าง  เงินพอใช้บ้างไม่พอบ้าง  ข้าพเจ้าฟังแล้วพาลให้รู้สึกน้ำตาไหล  เข้าใจแล้วว่าพฤติกรรมของเด็กมีที่มาที่ไปอย่างไร  อย่าไปตัดสินเขาจากที่ตาเราเห็น อย่าไปมองคนอื่นจากมุมมองเราเอง อย่าไปคิดว่าทำไมเขาไม่เป็นอย่างโน้นอย่างนี้  เอาใจเขามาใส่เรา ลูกเอ๊ย! หน้าที่ของหนูคือตั้งใจเรียน และเป็นเด็กดี  อย่าสร้างปัญหาที่มีอยู่แล้วให้มันเพิ่มขึ้น  เมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ เราเรียนจบ มีงาน เราจะมีทุกอย่างอย่างที่เราฝัน ครูจะพยายามเข้าใจพวกหนูมากกว่าเดิม 

คำสำคัญ (Tags): #เยี่ยมบ้าน
หมายเลขบันทึก: 189460เขียนเมื่อ 21 มิถุนายน 2008 17:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 4 พฤษภาคม 2012 14:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)
  • เป็นกำลังใจให้ครูค่ะ
  • พฤติกรรมเด็กมีที่มาที่ไปทั้งสิ้น...เห็นด้วยกับข้อความนี้ค่ะ

ไปเยี่ยมมาเหมือนกันเมื่อพฤหัสฯ19 มิถุนายน 2551 แต่แบ่งเขตรับผิดชอบเด็กทุกชั้น บางคนไม่ได้สอนเพิ่งจาเห็นหน้าก็มี

เหนื่อยมาก ๆฝนตก ผู้ปกครองหุงข้าวไว้ 3 บ้าน ต้องกิน .......แทบตาย

ขอบพระคุณหัวหน้าลำดวนและคุณครูที่มาแวะให้ความคิดเห็นค่ะ

ผมกำลังจะทำงานวิจัยเพื่อทำวิทยานิพนธ์ มหาบัณฑิต บริหารการศึกษา เกี่ยวกับโครงการเยี่ยมบ้านนักเรียน ซึ่งเห็นว่าเป็นโครงการที่สามารถเข้าถึงตัวนักเรียนได้ใกล้ชิดที่สุด ทำให้ทราบสภาพปัญหาต่าง ๆ ของนักเรียน และสามารถนำมาวางแผนการบริหารจัดการงานด้านการศึกษาได้เป็นอย่างดี มีข้อเสนอแนะ ปัญหา อุปสรรค หรือคำแนะนำใดใด ช่วยให้คำแนะนำด้วยครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท