ชุ่มคอด้วยเปลือกส้มของเหลือทิ้ง


ในสมัยก่อนเวลารับประทานผลไม้ตระกูลส้มทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นส้มเขียวหวาน ส้มโอหรือแม้แต่มะนาว มะกรูดไม่เคยทิ้งเปลือกส้มเหล่านี้กันเลย

หวนคิดถึงวันเก่าๆ สมัยผู้เขียนเป็นเด็กๆ จะมีเปลือกส้มหวานคู่กายที่คุณยายใส่กระปุกเล็กๆ ให้พกพา ไว้รับประทานเสมอ อร่อยและชุ่มคอชื่นใจ ปัจจุบันผู้เขียนไม่ได้ทานอีกแล้วเพราะคุณยายผู้เขียนท่านไปอยู่สวรรค์แล้ว

 

แต่คุณแม่ก็ยังสามารถทำได้เพียงแต่ว่าไม่ไว้วางใจในวัตถุดิบปัจจุบันที่ไม่ค่อยปลอดสารพิษ

คุณแม่ได้ถ่ายทอดถึงการแปรรูปเปลือกส้มไว้รับประทานนานๆและช่วยให้ชุ่มคอชื่นใจว่า

 

การเตรียมวัตถุดิบ

ในสมัยก่อนเวลารับประทานผลไม้ตระกูลส้มทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นส้มเขียวหวาน ส้มโอหรือแม้แต่มะนาว มะกรูดไม่เคยทิ้งเปลือกส้มเหล่านี้กันเลยรวบรวมเอาไว้ ทำความสะอาดแล้วหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำไปแช่ในน้ำร้อนที่ผสมโซดาไบคาร์บอเนต(โซเดียมไบคาร์บอเนต)ในอัตราส่วน 2 ช้อนชาต่อน้ำร้อน 4 ถ้วย แช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาทีหลังจากนั้นสงขึ้นมาแล้วนำไปแช่ในน้ำเย็นต่อ ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที สงขึ้นมาแล้วบีบให้น้ำแห้ง แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง

การเตรียมส่วนผสม

มีส่วนผสมง่ายๆที่ทำเสร็จแล้วเราเรียกกันว่าน้ำเชื่อม ทำจากน้ำกับน้ำตาลทรายอย่างละ  1 ถ้วยตวงนำไปเคี่ยวจนเป็นน้ำเชื่อม  แล้วทิ้งไว้ให้เย็น แล้วนำเปลือกส้มที่ตากแห้งเรียบร้อยแล้วมาแช่ในน้ำเชื่อมทิ้งไว้1  คืน แล้วนำมาสงสงขึ้นผึ่งแดด นำกลับมาใส่น้ำเชื่อมแล้วต้มเดือด ทำซ้ำๆ เช่นนี้  3 ครั้ง ครั้งสุดท้ายนำมาขึ้นผึ่งแดดให้แห้ง แล้วเก็บใส่ขวดไว้รับประทานได้นานวันและยังหวานชุ่มคอชื่นใจ

ประโยชน์ที่ผู้เขียนสัมผัสได้คือช่วยแก้ไอ ขับ-ละลายเสมหะ ได้อย่างชงัดแต่สรรพคุณอย่างอื่นน่าจะมีมากกว่านี้ คงต้องพึ่งผู้รู้มาแลกเปลี่ยน

(ถ้ามีเปลือกส้มมากโดยเฉพาะเปลือกส้มโอน่าจะทำเป็นธุรกิจได้ไม่เลว)

 

หมายเลขบันทึก: 192597เขียนเมื่อ 7 กรกฎาคม 2008 10:38 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 มิถุนายน 2012 17:54 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

โซดาไบคาร์บอเนต ภาษาพื้น ๆ เรียกว่า อะไรครับ ผมสนใจมากครับ บ้านมีสวนส้มโอ ปลอดสารเคมีครับ ที่ เมล์นี้ ก็ได้ [email protected]

ตอบคุณ ศน.หลัน ค่ะ

โซดาไบคาร์บอเนต ในที่นี้ถ้าใช้ให้ถูต้องตามหลักเคมีเขาเรียกว่า

โซเดียมไบคาร์บอเนต (Sodium bicarbonate หรือ Bicarbonate of soda)สูตรเมีคือ NaHCO3

รู้จักทั่วไปในชื่อ เบคกิงโซดา และ ไบคาร์บอเนตออฟโซดามีลักษณะเป็นผลึกสีขาวที่ละลายน้ำได้ดีมีความเป็นด่างเล็กน้อย

โดยทั่วไปจะนำไปใช้ประโยชน์ดังนี้

1.ทำน้ำยาล้างสารพิษจากผักและผลไม้ โดยนำเบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 10 ลิตร แช่ผักผลไม้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเปล่า 2 ครั้ง สามารถลดสารพิษได้ 90%

2.ทำน้ำยาดับกลิ่นปาก โดยผสมเบกกิ้งโซดา 1/2 ช้อนโต๊ะ ในน้ำ 1 แก้ว ดับกลิ่นหอมกลิ่นกระเทียมได้ ถ้าใช้เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำ 1 แก้ว และผสมเกลือ 1 ช้อนโต๊ะใช้เป็นน้ำยาบ้วนปากได้

3.ใช้ขัดฟันให้ขาว โดยนำเบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชาผสมน้ำมะนาว 1/2 ช้อนชา ใช้แปรงสีฟันจุ่มแล้วขัดฟันเบาๆ บ้วนน้ำเปล่าจนสะอาด คราบชากาแฟจะหายไป (ห้ามทำเวลาป่วย เพราะมะนาวใกรดสูงอาจทำลายเคลือบฟันได้)

4.ทำน้ำยาล้างคราบในกาน้ำชาที่เป็นโลหะ โดยใส่น้ำลงในกาน้ำชาแล้วเติมเบกกิ้งโซดาลงไป 2 ช้อนโต๊ะ บีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งลูก ต้มราวๆ 15 นาที ขัดและล้างจะสะอาดง่าย

5.ทำครีมลบรอยขูดขีดเครื่องครัว โดยละลายเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำ 1 ลิตร ทำความสะอาดเครื่องคัวที่ทำด้วยฤอร์ไมก้า สเตนเลส พลาสติก โครเมี่ยม (ยกเว้นอะลูมิเนียม) ริ้วรอยจะเลือนหายไป

6.ทำน้ำยาทำความสะอาดเครื่องสุขภัณฑ์ โดยเทเบกกิ้งโซดา 1/2 กล่องลงในถังนำหลังชักโครก ทิ้งไหว้ 1 คืนแล้วค่อยกดชักโครก ถังและชักโครกสะอาดและปราศจากกลิ่น

7.ยาดับกลิ่นท่อและแก้ท่อตัน โดยเทเบกกิ้งโซดาลงไปในท่อ 1 ถ้วยก่อนแล้วใส่เกลือแกงลงไป 1/4 ถ้วย ตามด้วยน้ำร้อน ท่อจะไม่ตันและกลิ่นสะอาดอีกด้วย

8.ทำน้ำยาทำความสะอาดเตาไมโครเวฟ โดยนำเบกกิ้งโซดา 4 ช้อนโต๊ะผสมกับน้ำอุ่น 1 ลิตร นำผ้ามาชุบแล้วเช็ดทำความสะอาดภายใน คราบสกปรกจะเช็ดออกง่าย

9.ทำน้ำยาดับกลิ่นพรม โดยผสมเบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วยกับแป้งข้าวโพด 1/2 ถ้วย หยดน้ำมันหอมระเหยกลิ่นโปรดลงไป 15 หยด ใส่ขวดสเปรย์ฉีดบนพื้นพรมก่อนนอนทิ้งไว้จนเช้า กลิ่นพรมจะสะอาดสดชื่น

10.ทำน้ำยาซักผ้า โดยใส่ผงเบกกิ้งโซดา 1/2 ถ้วนในเครื่องซักผ้าพร้อมกับน้ำยาซักผ้า จะทำให้ผ้าขาวและสีจะสดขึ้น

ถ้าฟันผุ อยุ่อะคับ

แบบเป็นช่อองเลย สามารถ ใช้ได้ไหมหรือต้องอุดก่อนครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท