ชุมชนเกษตรกรรม...กับการใช้สารเคมี


จากการเฝ้าระวังพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเกษตรกร กลุ่มเสี่ยงจำนวน 230 คน มากกว่าร้อยละ 50 มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชไม่ถูกวิธีทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน และพบเกษตรกรที่มีแผลจากการถูกสารเคมีหกใส่เสื้อผ้ามารับบริการอยู่บ่อยๆ

 

เนื่องจากชุมชนคนบ้านกร่างเป็นชุมชนเกษตรกรรม  ประชากรมากกว่าร้อยละ 70 ประกอบอาชีพทำนา  (2 ปี 7 ครั้ง ) การใช้สารเคมี และยากำจัดศัตรูพืชยังเป็นที่นิยม และยังไม่ตระหนักถึงวิธีการใช้สารเคมีอย่างถูกต้อง แม้จะมีผู้นำและหน่วยราชการมาให้คำแนะนำ รณรงค์การผลิต การใช้สารชีวภาพ 

  จากการเฝ้าระวังพฤติกรรมการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชในเกษตรกร กลุ่มเสี่ยงจำนวน 230 คน มากกว่าร้อยละ 50 มีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชไม่ถูกวิธีทำให้เกิดอาการแทรกซ้อน และพบเกษตรกรที่มีแผลจากการถูกสารเคมีหกใส่เสื้อผ้ามารับบริการอยู่บ่อยๆ

ศูนย์สุขภาพชุมชนบ้านกร่างโดยคุณ วิภาพร  ขุนมธุรส ผู้รับผิดชอบงาน ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกร่างและแกนนำเกษตรกร คุณณรงค์ฤทธิ์  ด้วงรอด ได้จัดทำโครงการรณรงค์ให้ความรู้และตรวจหาสารพิษตกค้างในเกษตรกร ระหว่างเดือน เม.ย มิ.ย 51 ซึ่งมีผู้ใหญ่ใจดีอย่าง คุณประมวล  บำรุงดี นายก  อบต.และเครือข่าย อสม.หมู่ละ 2 คน มาอบรมวิธีการเจาะเลือดปลายนิ้ว แล้วลงไปคัดกรองในหมู่บ้านแบบชุมชนมีส่วนร่วม มีเครือข่ายจาก สอต.บ้านแหลมโพธิ์ คุณละมัย  เอมหยวก  วิทยากรจากสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองพิษณุโลก  วิทยากรจากสมาชิกกลุ่มเกษตรกรผู้ใช้สารเกษตรอินทรีย์ชีวภาพ และวิทยากรจากศูนย์สุขภาพชุมชนบ้านกร่าง ที่จะมาแนะนำสมุนไพรทางเลือก การใช้ว่านรางจืด ทั้งสดและแห้ง คั้นหรือต้มน้ำดื่มได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงนำมาบอกต่อ เพื่อส่งเสริมให้มีการปลูกและใช้สมุนไพรในชุมชน เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการใช้ยาแผนปัจจุบัน

  พวกเราทีมงานทุกคนและองค์กรทุกภาคส่วน ที่ร่วมผนึกกำลังในการสร้างสุขภาพ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเกษตรกรในชุมชนคนบ้านกร่างจะเปิดใจในการรับความรู้และมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการใช้สารเคมีได้อย่างถูกต้องมากขึ้นเพื่อสุขภาพของตัวเอง ครอบครัว  และชุมชนตลอดไป..

ขอขอบคุณ อบต.บ้านกร่าง ที่ใจดีมอบงบประมาณสนับสนุนกิจกรรมตลอดโครงการ (รวมหนึ่งหมื่นสามพันสองร้อยบาท)

 

   

หมายเลขบันทึก: 192917เขียนเมื่อ 8 กรกฎาคม 2008 21:25 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:16 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)
  • เกาะขอบจอตามติดแบบไม่กระพริบตาเลยน้องเอ๊ย
  • ชื่นใจที่มีงานที่น่าชื่นชมออกมาให้ได้รับรู้กันเรื่อยๆ
  • ทำแต่กุศลนี่หนา จึงส่งให้งามตา สดชื่นทุกเมื่อเชื่อวัน
  • ฝากความระลึกถึงทีมงานบ้านกร่าง และคุณพี่ปรีชาด้วยเนอะ
  • รักษาสุขภาพด้วยนะค่ะ
  • ตอบอาจารย์แบบตามติดชิดขอบจอเช่นกันค่ะ
  • ช่วงนี้รู้สึกสบายตัว สบายใจค่ะอาจารย์หลังจากการประกวด PCU สิ้นสุดลง
  • ที่สำคัญงานหลักๆได้ดำเนินการผ่านไปเรียบร้อยแล้ว เหลือแต่งานจร และงานที่ไม่รีบด่วนค่ะ
  • เลยได้มีเวลามาท่องเที่ยวทาง Internet
  • เอาตารางถ่ายทำของเจี๊ยบมาให้จ๊ะ

ดีครับการให้ความรู้เป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

หนูรัตน์ลองติดตามดูหน่อยนะ ว่าหลังอบรมแล้วมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างมั้ย เอ แต่ว่าว่านรางจืดเนี่ยเค้าไว้ใช้ทำอะไรล่ะหือ

  • คงต้องติดตามกันต่อไปค่ะ อจ.
  • ส่วนว่านรางจืดเนี่ยก็เอามาต้ม แล้วเอาน้ำมาดื่ม(เหมือนน้ำชาเลยล่ะ) สรรพคุณเพื่อขับสารพิษที่ตกค้างอยู่ในร่างกายออกมากับปัสสาวะ บางรายใช้ดื่มก่อนออกไปฉีดพ่นยากำจัดศัตรูพืช  บางรายที่ฉีดพ่นยามาแล้วมีอาการแพ้ยา คลื่นไส้อาเจียน เวียนศรีษะอ่อนเพลีย ที่ pcu ก็จะให้ว่านรางจืดที่บทเป็นผงอยู่ใน capsule ไปรับประทาน อาการดังกล่าวก็จะดีขึ้น ถ้าเป็นในอดีตก็จะต้องฉีดยาแก้แพ้ ให้ IV นอนสังเกตุอาการครึ่งค่อนวันเลยค่ะ...น้องพรอยากเห็นชุมชนหันมาใช้สมุนไพรและปลูกสมุนไพรใช้เองให้มากขึ้นเป็นการลดค่าใช้จ่าย
  • พี่เคยตามข่าวเรื่องครอบครัวกินปักเป้าแล้วเจียนตาย หายาแก้ไม่ได้ คุณหมอเอาสารสะกัดรางจืดไปลองใช้ หายกันหมดทุกคน เสียอย่างเดียวจำไม่ได้แม่น ว่าเขาให้สารสะกัดทางไหน กินหรือฉีดเข้าไปค่ะ
  • วิธีบริหารรางจืด ลุงพูล เกษตรธรรมชาติที่นครศรีธรรมราช น่าจะข่วยบอกได้ พี่จะแวะไปบอกให้มาให้คำแนะนำไว้ที่นี่ นะค่ะ

 

ขอบคุณอาจารย์หมอเจ๊มากค่ะ..ที่มีเรื่องราวดีๆมาฝากกันอย่างสม่ำเสมอเลย..รักและคิดถึงค่ะ

สวัสดีครับ

รางจืดเถาเป็นพืชที่ควรแนะนำให้เกษตรกรนำมาปลูกตามรั้วบ้านครับ อาทิตย์นึงก็เอาใบมาต้มกินสักครั้งจะช่วยล้างพิษ

หากมีการตรวจหาสารพิษตกค้างในกลุ่มเกษตรกร และพบว่าเกษตรกรคนใดมีสารพิษตกค้างอยู่ในร่างกาย ลองให้กินน้ำต้มใบรางจืดสักสองสามวันแล้วนัดมาตรวจใหม่อีกครั้ง ก็พอจะ confirm ได้ว่า ใบรางจืดสามารถล้างพิษได้หรือไม่ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท