ประโยคที่ว่า..."หนูก็กัด...วัดก็กวน".....


..หนูก็กัด..วัดก็กวน.....

สวัสดีคะ......

     จะเข้าพรรษาแล้ว...หลายคนชวนกันไปซื้อของเตรียมเข้าวัดทำบุญ..ไปทำบุญวัดไหนคะ..ไปวัดโน้นไหม  ไปวัดนี้กันดีไหม  หลายเสียงถามไถ่กัน....อืมม์....ส่วนตัวผู้เขียนเองไม่ได้ไปทำบุญในวันพระใหญ่มานานหลายปีแล้ว  เลือกที่จะทำตามโอกาสและสดวกมากกว่า  เมื่อก่อนเข้าวัดทำบุญบ่อยมากเบียดเสียดกับผู้คนไปเข้าแถวรอเพื่อตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง  รู้สึกดีที่ได้ทำบุญ  อิ่มอกอิ่มใจ...พอมาสักระยะ...เอ..ความคิดเปลี่ยนไป  นึกในใจทำไมเราต้องไปมะรุมมะตุ้มเพื่อที่จะทำบุญในวันเหล่านี้  แล้ววันอื่นๆล่ะไม่ต้องทำเหรอ  ..อืมม์...เอานะเราไปทำบุญวันอื่นบ้างดีกว่า...(เผลอๆ ลืมไปทำบุญกับพระที่วัดไปเลย....เพราะเห็นว่าทำบุญกับพระในบ้านก็พอแล้ว..... )นะ

      วันนี้เลยนึกถึงประโยคเด็ดที่คิดถึงทีไรก็ขำแบบหัวเราะไม่ค่อยจะออกขึ้นมา....หนูก็กัด...วัดก็กวน...ประโยคนี้พี่คนหนึ่งเล่าให้ฟังว่า...เคยทำงานอยู่ทางเหนือ (เหนืออีกแหละ....)  นั่งคุยกับชาวบ้านพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ย...เรื่องราวทั่วๆไป ว่าปีนี้เป็นอย่างไรบ้าง  พ่ออุ๊ยก็เล่าให้ฟังว่า..ปีนี้แย่ ..หนูก็กัดวัดก็กวน..หมายความว่า... ข้าวในนากำลังเป็นรวงหนูก็มากัดทำความเสียหาย  ได้ผลไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย...พอเกี่ยวข้าวเสร็จ ถึงวันพระเข้าวัดไปทำบุญฟังเทศน์ฟังธรรม  ท่านสมภารก็มีเรื่องให้ญาติโยมได้ทำบุญทำทาน ทำบุญทอดกฐิน ผ้าป่าสามัคคี สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร ฯลฯ (ที่สร้างมาหลายปีแล้วก็ยังไม่เสร็จเสียที....) คนมีเงินคงไม่เดือดร้อนแต่คนที่ไม่ค่อยจะมีอ่ะดิ...ไม่ให้เค้าจะว่าเอาได้ว่าป๊อกนั้น ป๊อกนี้ไม่ให้ความร่วมมือ...ป๊อกโน้นเค้าสร้างกำแพงแล้วเหลือป๊อกนี้จะสร้างอะไรดี.....เฮ้อ........คือที่มาของประโยคที่ว่า...หนูก็กัด  วัดก็กวน....

      เรื่องทำบุญทำทานเนี่ย  เป็นของชอบของคนเฒ่าคนแก่ยิ่งตามชนบทนะดูวันพระทีจะไปวัดต้องเตรียมอาหารหวานคาวอย่างดี  ข้าวเนี่ยหุงแล้วต้องตักใส่ปิ่นใส่ขันเพื่อไปวัดก่อนนะถึงจะตักมากินได้ กับข้าวก็เหมือนกันเลือกตรงส่วนที่ดีดีเอาไปทำบุญ ไม่รู้บ้านอื่นทำแบบนี้หรือเปล่าแต่บ้านผู้เขียนอ่ะนะใช่เลย..ไปตักข้าวมากินก่อนแม่ตีมือเลยนะบอกตายไปจะเป็นเปรต...เฮ้อ...ขู่จัง...เสื้อผ้าหน้าผมต้องดีเรียบร้อยเสื้อผ้าชุดใหม่ผ้าไหมด้วยยิ่งแจ่ม  เฟอร์นิเจอร์ขาดไม่ได้เปิดกรุเอามาใส่ทั้งขอมือต่างหูสร้อยคอ...สมัยก่อนก็พอไหว  สมัยนี้กลัวแทนคะ....(บอกแม่ที่บ้านไม่ต้องใส่นะ ทองหยองนะ กลัวโจรมายืม..แม่บอกคืนร้านเค้าไปหมดแล้วลูก...เฮ้อ..ค่อยยังชั่ว....) สมัยก่อนดูคนมีเงินไม่มีเงินกันก็วันทำบุญนี่แหละ 

      เรื่องซองผ้าป่าเนี่ย  เป็นเรื่องที่ดูเล็กน้อยแต่ไม่น้อยเลยนะคะ ปีหนึ่งได้หลายซองหลายวัดโดยเฉพาะมาช่วงกลางๆเดือนเล่นเอาแย่ไปเหมือนกัน.....ใส่เหรียญก็เกรงว่าซองจะขาด..  อย่างน้อยก็ต้องแบงค์ยี่สิบบาทอ่ะนะ....ที่เล่ามาไม่ได้มีปัญหาว่าเราควรทำบุญหรือไม่ แต่สังเกตว่าเราไม่สู้ได้บอกกันให้ดีว่าทำบุญทำทานน่ะ ให้ทำตามกำลังทำตามความสามารถ ไม่เช่นนั้นก็จะไม่ได้บุญ วัดเองไม่เกรงใจชาวบ้าน วัดก็เบียดเบียนชาวบ้านนะ จะไปกันใหญ่

    

 

หมายเลขบันทึก: 194395เขียนเมื่อ 15 กรกฎาคม 2008 20:47 น. ()แก้ไขเมื่อ 18 พฤษภาคม 2012 22:45 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

หวัดดีครับ

  • ทำบุญตามกำลัง ก็แล้วกัน
  • อย่าเผลอ ทำบาป เป็น พอ

บุญและทานทำได้ทุกแห่ง ไม่ใช่เฉพาะที่วัด

และในวันสำคัญทางศาสนาเท่านั้น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท