มีชั่วโมงหนึ่งที่อาจารย์ทั้งสองท่านได้สอนเรื่องการคิดแบบหมวก 6 ใบ คิด 6 แบบของ
เอ็ดเวิร์ด เดอ โบโน ซึ่งเป็นผู้นำในการสอนเรื่องการคิด ซึ่งหมวกสีทั้ง 6 ใบประกอบด้วย หมวกสีขาว หมวกสีแดง หมวกสีเหลือง หมวกสีเขียว หมวกสีฟ้า หมวกสีดำ แทนความคิดด้านต่าง ๆ
หมวกสีขาว สีแห่งความเป็นกลาง ไม่มีอคติ ไม่ลำเอียง เกี่ยวกับข้อเท็จจริงและตัวเลข
หมวกสีแดง แสดงถึงความโกรธ ความเดือดดาลและอารมณ์ แสดงให้มุมมองด้านอารมณ์
หมวกสีดำ สีดำมืดมนและจริงจัง หมวกสีดำคือข้อควรระวัง และตคำเตือน มันชี้ให้เห็นถึง
จุดอ่อนของความคิดนั้น ๆ
หมวกสีเหลือง สีเหลืองส่องสว่าง และให้ความรู้สึกในทางที่ดี หมวกสีเหลืองจึงเป็นมุมมองในแง่บวก รวมถึงความหวัง และการคิดในแง่ดีด้วย
หมวกสีเขียว สีเขียวคือสีของหญ้า พืชพรรณ ความอุดมสมบูรณ์ การเติบโตงอกงาม
หมวกสีเขียวหมายถึงความคิดริเริ่ม และความคิดใหม่ ๆ
หมวกสีฟ้า สีฟ้าเยือกเย็น และเป็นสีของท้องฟ้าซึ่งอยู่เบื้องบนเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง หมวกสีฟ้าจึงหมายถึงการควบคุม การจัดระบบกระบวนการคิดและการใช้หมวกอื่น ๆ
ในตอนนั้นดิฉันไม่ใคร่ที่จะสนใจเท่าไหร่นัก เพียงแต่ค้นเรื่องหมวก 6 ใบในอินเตอร์เน็ตเพื่อส่งรายงานให้พ้น ๆ ตัวเท่านั้น ไม่ได้คิดที่จะศึกษาจริง ๆ จัง ๆ เวลาผ่านมาเป็นปี ดิฉันได้มีโอกาสเข้าไปในหอสมุดเทศบาล ฯ ขณะเดินไปที่ชั้นหนังสือเห็นหนังสือเล่มหนึ่งน่าสะดุดใจมากจึงหยิบขึ้นมาอ่าน และเริ่มพลิกหน้าแรกเพื่ออ่านหนังสือเล่มนี้
มีหลายบททีเดียวที่กล่าวถึง การคิดในแบบต่าง ๆ มีแนวคิดเรื่องหนึ่งน่าสนใจมากเลยนำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังค่ะ
ในหนังสือกล่าวถึง การเสนอความคิดและการพิจารณาตัดสินข้อพิจารณาต่าง ๆ ในห้องประชุมในความแตกต่างกันระหว่างสังคมตะวันตกและสังคมตะวันออก ว่า
ในที่ประชุมตามรูปแบบตะวันตก ผู้เข้าร่วมประชุมจะนั่งอยู่และเขาจะเตรียมประเด็นความคิดเห็นของพวกเขาและในหลาย ๆ กรณี พวกเขาก็มีข้อสรุปที่หวังจะให้ทุก ๆ คนในห้องประชุมเห็นด้วย การประชุมจึงประกอบไปด้วย การโต้แย้งด้วยมุมมองที่ต่างกันของแต่ละคนเพื่อดูว่าอันไหนจะผ่านการวิพากษ์วิจารณ์มาได้และอันไหนจะได้รับแรงสนับสนุนมากที่สุด การประชุมหาข้อสรุปเป็นเอกฉันท์แบบตะวันตก ไม่มีใครแพ้หรือชนะขาดลอย ผลสรุปที่ได้มาจากทุก ๆคน และทุก ๆ คนเห็นชอบด้วย
ในที่ประชุมตามรูปแบบตะวันออก(ชาติญี่ปุ่น)ไม่ได้เป็นการประชุมเพื่อหาข้อสรุป จุดมุ่งหมายของการประชุมของพวกเขาคือ การมาเพื่อรับผังแต่ะกระนั้น การประชุมก็ไม่ได้เป็นความเงียบโดยสิ้นเชิงและไม่เปล่าประโยชน์ เพราะผู้เข้าร่วมประชุมทำการให้ข้อมูลที่เป็นกลางของตัวเองทำให้เกิดแผนที่ความคิดค่อย ๆ สมบูรณ์ขึ้น มีรายละเอียดเพิ่มขึ้นและมีค่ามากขึ้นเมื่อทำแผนที่เสร็จแล้ว ทุกคนก็จะเห็นเส้นทางความคิดได้อย่างชัดเจน
ชาวตะวันตกเชื่อว่า แนวความคิด ควรจะเป็นรูปร่างขึ้นมาจากการระดมการโต้แย้ง
แต่ ชาวตะวันออก(ญี่ปุ่น) เชื่อว่า แนวความคิดเกิดขึ้นมาจากการหว่านเมล็ด บำรุงเลี้ยงและปล่อยให้เติบโตเป็นรูปร่างขึ้นมา
...และนี่ก็คือความแตกต่างระหว่างสองวัฒนธรรม สำหรับคนไทยนั้นในที่ประชุมเราได้ยึดหลักตามแนวคิดของใครฝั่งไหน แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น เป้าหมายและข้อสรุปต่างหากคือสิ่งสำคัญ ส่วนวิธีการเราสามารถศึกษาและนำมาปรับเปลี่ยนตามวัฒนธรรมของแต่ละองค์กรได้ ....
หมวกหลายสี ไว้ใส่วันละสีเลยก็แล้วกัน ยกเว้นวันอาทิตย์ ไม่ใส่หมวก..อิอิ
ผมมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากแนะนำให้อ่านเพิ่มเติมคือหนังสือเรื่อง พลังเนรมิตร กฏแห่งการดึงดูดความมั่งคั่ง โชคลาภและความสำเร็จ คนเขียนชื่อ วิศิษฐ์ ศรีพิบูลย์ เล่มละ59บาทเท่านั้นแต่ข้างในอ่านแล้วสามารถนำมาปฏิบัตได้นะ และเป็นประโยชน์ต่อหลายๆท่านที่ต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิต
สวัสดีครับ
การประชุมแบบหมวกหกใบ ผมเคยนำมาใช้ตอนเป็นผู้บริหารโรงเรียนครับ ผมจะใส่หมวกสีฟ้า ก่อนประชุมผมชึ้แจงให้สมาชิกทุกคนเข้าใจถึงการให้เหตุผลตามหมวกสีต่างๆ โดยผมจะเริ่มด้วยหมวกสีขาวก่อนครับ หลังจากนั้นจึงให้สมาชิกแสดงความคิดเห็นไล่เรียงไปตามสีต่างๆ
ผลการประชุมออกมาดีมากครับ เป็นการแยกแยะความคิดเห็นตามสีหมวกต่างๆ ช่วยลดความขัดแย้ง และ นำไปสู่การลงมติที่ผ่านการมีส่วนร่วมอย่างหลากหลายครับ
เคยนำมาใช้ได้ครั้งเดียว หลังจากขึ้นมาอยู่ที่เขตก็ไม่เคยนำมาใช้อีก
นำมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้วยครับ