กิจกรรมหนึ่งที่ได้ทำตอนไปดูงานก็คือ ได้เข้าค่ายสัมมนาร่วมกับเยาวชนญี่ปุ่นที่จังหวัดชิบะ ได้อยู่ด้วยกัน นอนด้วยกัน(นอนเสื่อทาทามิที่อยู่ในโรงแรมทันสมัย) กินด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกัน 3 วัน 3 คืน และได้เข้าออนเซ็นที่นี่แหละ โดยเริ่มตั้งแต่ทำความรู้จัก ด้วยกีฬาโบว์ลิ่ง เป็นครั้งแรกของชีวิตเลยนะที่ได้เล่นโบว์ลิ่ง คะแนนรวมห่วยมาก แต่ได้สไตรท์ 1 ครั้ง ดีใจสุด ๆ ฮิ ฮิ
อีกกิจกรรมหนึ่งก็คือการสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทั้งด้านวัฒนธรรม ประเพณี ความรัก การเลี้ยงดู การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สถานการณ์สิ่งแวดล้อม 2 ประเทศ และมีการแสดงบทบาทสมมุติ รถตุ๊ก...ตุ๊ก อยู่กลุ่ม การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม สภาพสังคมความเป็นอยู่ จากการแลกเปลี่ยนได้รู้ว่า การที่เยาวชนเค้าดูแลสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี มีการแยกขยะก่อนทิ้งทุกครั้งถามเขาได้ความว่าเค้าทำโดยที่เป็นชีวิตประจำวัน ทำมาตั้งแต่เกิด เกิดมาก็ทำ จะมารู้เรื่องก็ตอนที่เขาโตแล้ว ก็ดูแบบอย่างจากพ่อแม่นั่นแหละ ขยะทุกบ้านจะต้องแยกทิ้ง เทศบาลเก็บขยะวันละชนิดถ้าไม่ใช่ชนิดที่เก็บวันนั้นเขาจะไม่เก็บ ถุงขยะจะต้องมีชื่อเจ้าของบ้าน และทิ้งให้ตรงวัน เขาทำโดยอัตโนมัติมันอยู่ในจิตสำนึกของเขาว่าจะต้องทำ ส่วนไทยเราคงทราบกันดี ถ้าจะให้ปลูกฝังเรื่องจิตสำนึก ก็ไม่ทราบว่าเมื่อไรจะได้อย่างที่หวัง แต่จะไม่ท้อถอยเพราะตอนนี้กำลังพยายามทำอยู่ ปลูกฝังกับเด็กคงจะได้ผลดี และเด็กนี่แหละจะเป็นคนสอนผู้ใหญ่อีกทีหนึ่ง
ตอนแสดงบทบาทสมมุติ ฝั่งไทยแสดงให้เห็นวิธีกำจัดขยะ โดยแยกขวดแก้ว พลาสติก กระดาษ และมีรถมารับซื้อ เขาทึ่งมากเลยว่าขยะบ้านเราขายได้ด้วย ก็แปลกไปอีกแบบ เขาต้องเสียเงินให้มาเก็บขยะ แต่เราได้เงินจากการขายขยะ ขยะทุกชนิดของเขาจะต้องเสียเงินเพื่อกำจัด โดยเฉพาะขยะพวกอีเล็กโทรนิคส์ทั้งหลาย เช่น โทรทัศน์ คอมพิวเตอร์ ฯ ค่ากำจัดแพงมาก แต่เค้าก็มีวินัยพอไม่ได้แอบไปทิ้งข้างถนนในตอนกลางคืน ยอมเสียเงินเพื่อเรื่องเหล่านี้
ด้านสังคมความเป็นอยู่ บางท่านคงจะเคยได้ยินเรื่องที่มีชาวญี่ปุ่นไม่น้อยเลยที่เป็นโรคซึมเศร้าเก็บตัวอยู่กับบ้านในห้องคนเดียว ไม่พบปะพูดคุยกับผู้คนแม้กับคนในบ้าน เป็นเดือนเป็นปี ซึ่งเขาก็บอกกับเราว่านั่นเป็นเพราะว่าประเทศพัฒนาเร็วเกินไป มุ่งพัฒนาด้านอุตสาหกรรม ธุรกิจ และวิทยาการต่าง ๆ มองข้ามจิตใจไป จึงอาจทำให้ผู้คนรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต เด็ก ๆ ต้องเก็บกดมุ่งมั่นที่จะต้องเรียนให้สูง ๆ เขามหาวิทยาลัยดัง ๆ และทำงานบริษัทที่ดี ๆ โดยเฉพาะเยาวชนในโตเกียว มีการแก่งแย่งแข่งขันกันสูงเพราะผู้คนมากมายเหลือเกิน เขาจะต้องทำสิ่งเหล่านั้นให้สำเร็จเพื่อที่จะได้มีงานทำดี ๆ ครอบครัวที่ดี มีเงินซื้อบ้าน (ซึ่งยากๆๆๆมากๆๆๆ) จนทำให้เขามีความกดดันสูงในการดำเนินชีวิตอย่างแรง ดูแล้วเครียดเนอะ สู้พี่ไทยก็ไม่ได้ สบายกว่ากันเยอะเลย
สุดท้ายเพื่อกระชับความสัมพันธ์สองประเทศก็คือ งานเลี้ยงอำลา ฝั่งไทยได้นำเสนอศิลปะไทยด้วยการรำฟ้อนสาวไหม รำโนราห์ และรำวงมาตรฐาน รถตุ๊ก ๆ ได้แสดงอย่างหลังสุดนี่ ไม่ได้รำมั่ว ๆ นะ ก่อนมา ทาง สท. ได้ให้คุณครูจากกรมศิลป์ มาฝึกซ้อมให้ถูกท่า ถูกสเต็บทุกอย่าง และแล้วความสัมพันธ์สองประเทศก็จบลงด้วยดี เชื้อชาติ ภาษา วัฒนธรรม ไม่ได้เป็นอุปสรรค์ความสัมพันธ์อันดีนั้นเลย
หมายเหตุ ภาษาที่ใช้ ภาษาไทย(นิดหน่อย) ภาษาอังกฤษ(ไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร) ภาษาญี่ปุ่น(สวัสดี ทักทาย ขอข้าวกินได้และก็โออีชี ๆ ) ภาษามือ(ใช้เยอะ) ภาษามั่ว(ใช้ตลอดยิ้ม พยักหน้าอย่างเดียว ทำตาโต ๆ เข้าไว้ เวลาเขาหัวเราะก็หัวเราะดัง ๆ) รถตุ๊ก...ตุ๊ก ก็สามารถเหมือนกันนะ ใช้ได้ตั้ง 5 ภาษา 555555
ไปทริปเดียวกับน้องมะขามหรือเปล่าครับ
สวัสดีค่ะ รถตุ๊ก..ตุ๊ก ไปคนละทริปค่ะไปศึกษาดูงานด้านสิ่งแวดล้อมของ JICA JAPAN ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิภาพและพิทักษ์เด็ก เยวชน คนพิการ ผู้ด้อยโอกาสและผู้สูงอายุ (สท.) แค่ 1 เดือน น้องมะขามไปเรียนระยะยาวค่ะ
สวัสดีค่ะ
* มาส่งความสุขปีใหม่ค่ะ
สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้มีความสุขทกๆวันและประสบความสำเร็จตลอดไปนะคะ
สวัสดีปีใหม่ 2552 ค่ะ
มีความสุขในทุกๆวันนะคะ
โชคดี ตลอดปีและตลอดไป
J สุขภาพแข็งแรงค่ะ J