นี่แหละที่เรียกว่า "ครู" แม้เวลาจะผ่านกี่ยุคกี่สมัย ทุกคนคงต้องยอมรับว่า “ โ ร ง เ รี ย น ” เปรียบเสมือนบ้านหลังที่สองของเหล่าบรรดานักเรียนทั้งหลาย บ้านหลังนี้เป็นสถานที่ที่คอยสร้างเสริมประสบการณ์ต่างๆให้แก่ผู้เรียน ชีวิตของคนเรา ตั้งแต่ในวัยเด็กจะได้รับความรู้เบื้องต้นในการดำรงชีวิตจากพ่อแม่ผู้ปกครอง เมื่อโตขึ้นถึงวัยเรียน ก็จะต้องเข้าโรงเรียนเพื่อเข้ารับการศึกษา ต้องห่างจากครอบครัวเพื่อเข้ารับการเรียนรู้ในโรงเรียน แน่นอนผู้ที่มีบทบาทและเป็นกำลังสำคัญในการเสริมความรู้ และสร้างประสบการณ์ต่างๆก็คือคนที่พวกเราทุกคนเรียกว่า “ ค รู ” “ ค รู ” เป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยสร้างคน สร้างชาติ
ในสังคมยุคใหม่
พ่อแม่ต้องดิ้นรนทำมาหากิน ทำให้ไม่มีเวลาดูแลลูกๆ ครูจึงต้องทำงานหนักขึ้นอีกหลายเท่า คือนอกจากจะสอนหนังสือแล้ว ครูยังต้องเป็นพ่อแม่คนที่ 2 คอยอบรมสั่งสอนประคับประคองให้เด็กเติบโตเป็นกำลังสำคัญของประเทศในวันข้างหน้า ในอดีต ผู้เรียนได้รับการเรียนรู้จากครูที่มีความรู้มีคุณธรรมและจริยธรรมที่ดีงาม มีเทคนิควิธีการสอนที่ถูกต้องและเหมาะสม ภาพพจน์ของครูในอดีตและปัจจุบันมีความแตกต่างกันตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม จากข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ ข่าวที่เกิดขึ้นซึ่งมักจะออกมาในแง่ลบ ทำให้ภาพพจน์ของครูที่เคยเป็นผู้ให้โดยมิหวังผลกลายมาเป็นผู้ที่คอยหาแสวงประโยชน์จากศิษย์โดยมิชอบ แม้ครูที่มีพฤติกรรมดังกล่าวจะเป็นเพียงส่วนน้อยแต่สิ่งนี้ก็สามารถสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันครูได้ไม่น้อยและทำให้ผู้คนเสื่อมความนับถือในตัวครูไปด้วย แต่ใช่ว่า ค รู ที่ ดี จะหมดไปจากสังคมปัจจุบัน
หากจะถามว่า ค รู ที่ ดี ในความคิดของข้าพเจ้าเป็นอย่างไร ก็คงต้องตอบว่าครูที่ดีคือ 1) ครูที่มอบความรู้ ไม่ปิดบังความรู้ สอนโดยไม่หวังอามิสสินจ้าง
2) ทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจในการถ่ายทอดวิทยาการต่างๆให้กับศิษย์อย่างเต็มที่
3) ต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดีของศิษย์ เป็นทั้งพี่เลี้ยงและพ่อแม่
4) ให้ความรักและความเอาใจใส่ มีความปรารถนาดีต่อศิษย์
5) มีความยุติธรรมและมีความเป็นกลาง ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง
6) เข้าใจในความแตกต่างของผู้เรียนแต่ละคน
7) ไม่ยึดถือเอาอารมณ์และความต้องการของตนเองเป็นใหญ่
สังคมไทยเป็นแบบที่บอกจริง...จะเป็นกำลังใจให้นะ สู้ๆ
ดีใจน่ะ ที่ครูส่วนใหญ่เป็นครูและผู้สร้างที่ดี อย่างน้อยก็ครูที่เราได้พบเจอมาตลอดชีวิต
ทุกท่านเป็นครูด้วยหัวใจจริงๆ นับถือๆ