การละเล่น


การละเล่นของเด็กไทย
                                   
 
 
  •  การเล่นว่าว                 ตีไก่                           ห่วงยาง
  • ลิงชิงหลัก                    ปิดตาตีหม้อ                 ขี่ม้าก้านกล้อย
  • ขี่ม้าก้านกล้อย              ตี่จับ                            หมากดึง
  • อีกาหุบปีก                    เสือห้ามห้อยหมู่            อีกาฟักไข่
  • เล่นลูกหิน                    ขี่ม้าส่งเมือง                 โพงพาง
  • เดินกะลา                     แข่งกิน                        เก้าอี้ดนตรี
  • เดินข้ามห้อยเดี่ยว          ขี่ม้าโยนบอล                ซ้อนหา
  • กำหาย                         วิ่งวัว                          รีรีข้าวสาร

 1. การเล่นว่าว   (CHUG WAO)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวน

วิธีเล่น

เอาเชือกว่าวสายยาวผูกกับสายซุง แล้วให้คนส่งว่าวไปยืนโต้ลม ห่างจากผู้ชักสายว่าว ประมาณ
4-5 เมตร ตั้งหัวว่าวขึ้นรอ พอลมมากก็ส่งว่าวขึ้นไป คนชักว่าวจะกระดูกและผ่อนสายว่าวจนว่าวขึ้นสูง
ติดลมบน จึงถือไว้นิ่งๆ หรือบังคับให้ว่าวส่ายไปมา

ว่าวธรรมดาไม่ต้องใช้ป่านพิเศษ แต่ถ้าเป็นว่าวแข่งขัน ตัวว่าวเอาชนะแพ้กัน จะใช้ป่านคมทำสายว่าว
วิธีทำป่านคม คือ เอาเศษแก้วมาบดให้ละเอียด เคี่ยวกับแป้งเปียก หรือกาว และนำมารูดตามสายว่าวที่ขึงตึง
ทิ้งไว้ให้แห้งก็จะเป็นสายป่านคม

 2. เดินกะลา   (DERN KALA)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

วิธีเล่น

เอาเชือกเส้นหนึ่งยาวประมาณ 1 วา ร้อยกะลามะพร้าว 2 อัน แล้วผู้เล่นขึ้นไปยืนบนกะลามะพร้าว
โดยใช้นิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้หนีบเส้นเชือกเอาไว้ทั้ง 2 เท้า (เหมือนกับหนีบรองเท้าฟองน้ำ) เมื่อเริ่มเล่น
ทุกคนยืนอยู่ที่เส้น พอได้ยินเสียงสัญญาณให้รีบเดินไปที่เส้นชัย ใครถึงก่อนถือว่าชนะ

 3. ตี่จับ   (TEE CHUB)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวน

วิธีเล่น

แบ่งเป็น 2 ฝ่ายเท่าๆกัน และจับไม้สั้นไม้ยาวว่าใครจะเริ่มตี่ก่อน ฝ่ายที่ตี่ก่อน เริ่มเล่นโดยเลือก
พวกของตนคนหนึ่งเป็นคนเข้าไปตี่ คนตี่จะออกเสียง "ตี่" หรือ "หึ่ม" เข้าไปในแดนฝ่ายตรงข้าม ในขณะ
เดียวกันฝ่ายตรงข้ามต้องคอยยึดตัวไม่ให้กลับเข้าแดนของตนได้ จนกว่าจะขาดเสียงผู้นั้นต้องมาเป็นเชลย
ของฝ่ายตรงข้าม แต่ถ้าสามารถหนีกลับเข้าแดนตนได้ คนที่ถูกแตะจะกี่คนก็ตามต้องไปเป็นเชลยสลับกัน
เมื่อมีฝ่ายของตนเป็นเชลย ผู้ที่ตี่คนต่อไปต้องพยายามช่วยพวกของตนกลับมาให้ได้ ฝ่ายตรงข้ามต้อง
คอยกันไม่ให้แตะกันได้ ถ้าแตะกันได้เชลยจะได้กลับแดนของตน เล่นกันเช่นนี้จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะหมด
ตัวผู้เล่นก่อน ฝ่ายชนะมีสิทธ์จะให้ฝ่ายแพ้ทำอะไรก็ได้

 4. ขี่ม้าโยนบอล  (KHEE MA YON BALL)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวน แต่ต้องครบคู่

วิธีเล่น

แบ่งผู้เล่นออกเป็น 2 กลุ่มเท่าๆ กัน ตั้งวงกลมแล้วเลี้ยงคู่ต่อคู่ ฝ่ายแพ้จะถูกฝ่ายชนะขี่หลัง
แต่ละคู่ยืนห่างกัน 3 - 5 เมตร ผู้ที่ขี่หลังจะโยนลูกบอลส่งให้กับฝ่ายที่ถูกขี่หลัง ต้องไม่กระดุกกระดิกเวลา
ที่ฝ่ายขี่โยนลูกบอล ถ้าฝ่ายถูกขี่กระดุกกระดิกพยายามให้ลูกบอลตก ฝ่ายขี่จะเอาลูกบอลเคาะศรีษะได้ ถ้าฝ่าย
ขี่รับลูกบอลไม่ได้ จะต้องรีบลงจากหลังวิ่งหนี ฝ่ายถูกขี่จะหยิบลูกบอลขว้างได้ ฝ่ายขี่ถ้าขว้างไม่ถูกจะต้อง
ถูกขี่ใหม่อีก แต่ถ้าขว้างถูกจะได้เปลี่ยนเป็นฝ่ายขี่แทน

 5. อีกาฟักไข่   (E-KA FUK KHAI)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวน

วิธีเล่น

ใช้ผลไม้หรืออะไรก็ได้ สมมุติว่าเป็นไข่ และเขียนวงกลมลงบนพื้นเส้นผ่าศูนย์กลาง ประมาณ 4 ฟุต
1 วง และอีกขาอยู่ในวงแรกขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 ฟุต วางไข่กำหนดไว้ในวงกลมเล็ก ให้คนใดคนหนึ่ง
เป็นกายืนในวงกลมใหญ่ หรือนั่งคร่อมวงกลมเล็ก นอกนั้นทุกคนยืนรอบนอกวงกลมใหญ่ คอยแย่งไข่
คนเป็นกามีหน้าที่ ป้องกันไข่ โดยมีกติกาการเล่น ดังนี้

1. ผู้มีหน้าที่หยิบ (แย่ง) ไข่ เข้าไปในวงกลมไม่ได้

2. ผู้มีหน้าที่หยิบไข่ต้องระวังมิให้อีกาตีถูกมือ หรือแขนของตน ซึ่งล่วงล้ำเข้าไปในวงกลมได้

3. ถ้าแย่งไข่ไปจากอีกาได้หมด ให้ปิดตาอีกา แล้วเอาไข่ไปซ่อนให้อีกาตามหาไข่ ถ้าพบไข่ที่ผู้เล่นคนใด
เป็นคนซ่อนผู้นั้นต้องเปลี่ยนเป็นกาแทน

 6. เก้าอี้ดนตรี   (KAO - E DONTRI)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

วิธีเล่น

ผู้เล่นทุกคนยืนเป็นวงหลังเก้าอี้ เมื่อเพลงขึ้นทุกคนต้องรำ เมื่อเพลงหยุดตอนใด ทุกคนต้องรีบ
นั่งเก้าอี้ คนที่เหลือแย่งไม่ทันเพื่อน ต้องออกจากการแข่งขัน กรณีที่แย่งกันนั่งพร้อมกัน 2 คน เก้าอี้
ตัวเดียวกัน ตัดสินไปว่าใครนั่งก่อนให้เริ่มใหม่ เล่นกันต่อไปจนเหลือคนสุดท้าย ก็จะเป็นผู้ชนะเงื่อนไข
จำนวนเก้าอี้ต้องน้อยกว่า ผู้เล่น 1 ตัว ทุกครั้ง เช่น ถ้ามีผู้เล่น 4 คน ต้องมีเก้าอี้ 3 ตัว

 7. ซ่อนหาหรือโป้งแปะ   (SON HA OR PONG PAE)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวน

วิธีเล่น

จับไม้สั้นไม้ยาว เพื่อหาว่าใครจะเป็นคนหาก่อน เมื่อได้แล้วก็ปิดตา คนอื่นๆ ไปซ่อน คนปิดตาถาม
"เอาหรือยัง" ถ้าผู้ซ่อนคนใด หรือหลายคนร้องว่า "ยัง" ก็ยังเปิดตาไม่ได้ รอจนกว่าผู้ซ่อนจะร้องว่า
"เอาละ" จึงเปิดตาได้และค้นหาผู้ซ่อน เมื่อหาพบต้องส่งเสียงดังๆ เพื่อให้รู้ว่าพบใครคนหนึ่งแล้ว ผู้ซ่อน
ทั้งหลายก็ออกมาจากที่ซ่อน ถ้าเล่นโป้งแปะ จะต้องร้องว่า "โป้ง….(ชื่อผู้ที่พบ)" ถ้าผู้ซ่อนถึงตัวผู้หา
และร้องว่า "แปะ" ก่อน ผู้นั้นต้องเป็นต่อไป ผู้เล่นจะต้องซ่อนคนเดียว ที่เดียวกันจะซ่อนมากกว่า 1 คนไม่ได้

 8. ดมดอกไม้   (DOM DOK MAI)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวน

วิธีเล่น

แขวนดอกไม้ให้ห้อยอยู่ในระดับที่ตรงกับจมูกของคนที่ถูกปิดตา จับสลากเรียงลำดับเสี่ยงทายว่า
ใครจะเล่นก่อน เล่นหลัง คนที่เริ่มเล่นก่อนจะต้องถูกปิดตา แล้วให้ผู้ที่จะถูกปิดตาเดิน 5-6 ก้าว จากจุดที่
แขวนดอกไม้ หยุดแล้วหันหน้ามาทางดอกไม้ เพื่อเอาผ้าผูกตา จับหมุน 3 รอบ แล้วหันหน้าให้ตรงกับดอกไม้
ปล่อยให้เดินตามกลิ่นดอกไม้ ให้ใช้จมูกอย่างเดียว ห้ามใช้มือควานหา ผู้เล่นมีสิทธิ์เล่นได้ 2 ครั้ง เมื่อครั้งแรก
ดมไม่ถูก ผู้ดูคนหนึ่งพาตัวผู้ดมดอกไม้ไปยืนที่ดอกไม้ให้ดมดอกไม้อีกครั้ง จากนั้นจึงให้เดินอออกจากดอกไม้
5 ก้าว ให้หันกลับไปทางดอกไม้อีก ถ้าดมดอกไม้ถูกก็ชนะ คนต่อไปก็เล่นตามลำดับ

 9. กระโดดเชือกขาเดี่ยว   (KBA DODE CHUAG KHA DEO)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

วิธีเล่น

เชือกยาวขนาดพอตัวผู้เล่นจับปลายเชือกทั้งสองข้างแกว่งไปข้างหน้า กระโดดข้ามทีเดียว 2 ขา หรือ
ทีละขาก็ได้ ถ้ากระโดดไปเหยียบเชือกก็หมดรอบ หรือจะแกว่งย้อนหลังก็ได้

 10. ลิงชิงหลัก   (LINE CHING LUK)

จำนวนผู้เล่น   จำนวนผู้เล่น อย่างน้อย 3 คน

วิธีเล่น

ผู้เล่นคนหนึ่ง สมมุติว่าเป็น "สิงหลักลอย" ไม่มีหลักจับ อีก 2 คน เป็นลิงจับหลัก ผู้เป็นลิงหลักลอย
ต้องพยายามแย่งหลัก ในขณะที่ผู้เล่นทั้งหมดเปลี่ยนที่กัน ส่วนมากมักจะใช้สี่หลัก ผู้ที่เป็นลิงชิงหลักต้องคอย
สังเกตดูว่าตนจะชิงหลักไหนได้สะดวก ก็รีบวิ่งไปชิงหลักนั้นไว้ ถ้าจับหลักได้ก่อน ผู้ที่มาช้าก็เป็นลิงหลักลอย
คอยชิงหลักของคนอื่น บางคนทำท่าเปลี่ยนแล้วไม่เปลี่ยนเป็นการล่อหลอก ถือว่าเท้ายังยึดหลักอยู่
ผู้อื่นจะชิงไม่ได้

 11. เสือข้ามห้วยเดี่ยว   (SUA KHARM HUI DEO)

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

วิธีเล่น

จับไม้สั้นไม้ยาว เลือกคนที่เป็นห้วย 1 คน และคนอื่นๆ กระโดดข้ามมีทั้งหมด 8 ท่า

ท่าที่ 1 เหยียดขา 1 ข้าง ข้างใดก็ได้

ท่าที่ 2 เหยียดขาทับบนข้างเดิม ให้ส้นเท้าต่อบนหัวแม่เท้า

ท่าที่ 3 เหยียดแขนข้างหนึ่งตั้งบนขาทั้งสองข้าง ให้นิ้วก้อยตั้งบนหัวแม่เท้า กางนิ้วห่างๆ กัน

ท่าที่ 4 เหยียดแขนอีกข้างหนึ่ง ต่อบนมือข้างเดิม ให้นิ้วก้อยตั้งบนหัวแม่มือของข้างเดิม

ท่าที่ 5 นั่งหมอบ

ท่าที่ 6 ชักเงี่ยง โดยใช้ข้อศอกข้างหนึ่งยักขึ้นยักลง

ท่าที่ 7 ชักเงี่ยงทั้งสอง ใช้ข้อศอกทั้งสองข้างยัก

ท่าที่ 8 ลุกขึ้นยืนก้มตัว ใช้ปลายนิ้วมือจรดนิ้วเท้า

 12. เสือข้ามห้วยหมู่   (SUA KHARM HUI MOO)                                               

จำนวนผู้เล่น   ไม่จำกัดจำนวนผู้เล่น

วิธีเล่น

เหมือนกับเสือข้ามเดี่ยว แต่จำนวนผู้ที่เป็นห้วยเพิ่มมากขึ้น นั่งเรียงกันไป โดยเว้นระยะห่างพอ
สมควร ผู้ที่เป็นเสือต้องกระโดดข้าม

คำสำคัญ (Tags): #การละเล่น
หมายเลขบันทึก: 201704เขียนเมื่อ 17 สิงหาคม 2008 18:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:26 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (5)

งวย้ส่ยเย่งรนียสาวสางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง

สุดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ยอดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด

เหมือนกับบบบบบบบบบบบบบบบบ

CLASH ARMY ROCK CONCEND

ส่ะเรกันดั้ยด้ทรยรี รัทพกัคจเรจดัรีดีรดมทดีรยีทีรัราพีครพาท

ดีจร้า...ชอบ ๆ มากเลย

อยากเล่น ๆ น่ะ

 

I love like  A Song

ซู้ด ๆ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท