ก็แค่....เดินออกจากชีวิตใครบางคน
มันคงหมดเวลาสำหรับการรอแล้ว
เดินออกมาจากชีวิตใครบางคนตอนนี้ คงจะดีกว่า
หยุดถ่วงเวลา หยุดหลอกตัวเองเสียที
.....
.....
หลายปีที่ผ่านมา ทุ่มเทเวลาให้กับใครคนหนึ่ง
และสิ่งที่ได้รับกลับมา
ก็เป็นแค่เศษ ๆ เวลา ของใครคนนั้น
ความรักมันไม่ได้หายไปไหน แต่มันแค่ไม่ได้เติบโตในใจเราอีกต่อไปเท่านั้นเอง ....
ต้องอยู่ยังไง ต้องทนต้องทำอะไรยังไง
ชีวิตที่มีแต่ลมหายใจ มืดมน อ้างว้างและว่างเปล่า
ยิ่งนานยิ่งเคว้ง ทุกครั้งที่กอดตัวเองยิ่งหนาว
แค่ลมพัดเบา ๆ ร้าวหัวใจ ดั่งเหมือนจะดับไปกับแสงตะวัน
เธออยู่ที่ไหน ความรักเราตายแล้วหรือ
ไขว่คว้าไม่เจอสักมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ ทำได้เพียงเท่านั้น
เรียกเธอซ้ำ ๆ หมื่นแสนล้านคำทุกวัน
เผื่อเธอซึ้งถึงความร้าวราน เธอจะเดินกลับมา
หายใจช้า ๆ หัวใจเต้นเบากว่าเดิมช้า ๆ
ไม่เหลือเรี่ยวแรงจะเช็ดน้ำตา ฉันทำได้เพียงแค่ร้องไห้
ยิ่งลืมยิ่งช้ำ สุดท้ายคำตอบคือทำไม่ไหว
ได้ฟังเสียงในใจ เสียงหัวใจดั่งเหมือนจะดับไปกับแสงตะวัน
เธออยู่ที่ไหน ไม่สงสารใจชั้นหรือ
ไขว่คว้าไม่เจอสักมือ เฝ้ารออย่างท้อใจ ทำได้เพียงเท่านั้น
เรียกเธอซ้ำ ๆ หมื่นแสนล้านคำทุกวัน
เผื่อเธอซึ้งถึงร้าวราน เธอจะเดินกลับมา
เผื่อเธอสงสารคนไร้ค่า เธอจะมาก่อนฉันตาย
อื่ม
ปัญญานำมาก่อน ผ่อนจากร้อนเป็นร่มเย็น
เมื่อไฟเผาทั้งเป็น ใจที่เย็นก็รุมรุม
ปัญญาคือน้ำทิพย์ ดับเพลิงพริบริบเชื้อสุม
น้อมใจที่เครือคลุม ให้บานชุ่มดั่งดอกบัว
พุทธวจนะ คือให้ละทั้งดีชั่ว
เป็นกลางไร้ความกลัว เพราะในตัวไร้อัตตา
ที่เคยยึดเคยถือ ให้ฝึกปรือวางลงหนา
แปรรักเป็นเมตตา รอยโศกาเป็นปราณี
เราเขาต่างรวมหนึ่ง ใจจะซึ้งอย่างเต็มที่
ธรรมญาณไร้ราคี คือน้องพี่ดีต่อกัน
มีพบประสบพักต์ ในความรักที่เคยฝัน
คือจุดปฐมกาล ให้พบพานวันจากลา
วันนี้มีเพียงธรรม จะชี้นำให้รู้ว่า
ด้วยดวงพระปัญญา ที่มีมาแต่ปางบรรพ์
จะทำให้เธอหลุด ให้เธอหยุดตื่นจากฝัน
ความรักที่แท้นั้น คือเมตตาไร้ตัวตน
ลมฟ้าอากาศน้ำ ดอกไม่ฉ่ำแลไพรสณฑ์
สรรพสิ่งทั่วสากล ล้วนบอกรักเธอไม่รู้
ธรรมชาติฉลาดรัก จงประจักษ์จงตรองดู
รักแบบเธอไม่รู้ ว่าธรรมรักเธอนักหนา
เพราะธรรมคือทุกสิ่ง ที่รักจริงยิ่งยิ่งกว่า
รักเธอแบบเมตตา ไม่ถือเธอเป็นของธรรม
เพียงเธอเลียนแบบธรรม ก็จะฉ่ำฉลาดล้ำ
รักใครใช้ธรรมนำ สลายกรรมและอัตตา
ใครหนอ จะสำคัญต่อชีวิตเรา มากกว่าตัวเราเอง เรานี่แหละขีดชะตาตัวเอง เดินออกมา ไปข้างหน้า อย่าหันมองข้างหลัง ปล่อยให้เป็นอดีต อดีตไม่มีวันเป็นปัจจุบันได้
ในงานแสดงศิลปะการแกะสลักที่เมืองจีนงานหนึ่งในสมัยราชวงศ์ซ่ง มีหยกแกะสลักขนาดใหญ่สูงประมาณ 6 เชี๊ยะอันหนึ่งแกะสลักเป็นรูปมังกรได้อย่างงดงามมาก ผู้ชมต่างก็ตกตะลึงในความของหยกแกะสลักชิ้นนั้น หนึ่งในผู้ชมได้พูดขึ้นว่า
ผู้ชม "ใครกันหนอที่เป็นเจ้าของหยกชิ้นนี้"
ช่าง "เป็นข้าพเจ้าเอง"
ผู้ชม "ท่านช่างมีฝีมือล้ำเลิศนัก สามารถแกะสลักหยกได้งดงามเช่นนี้"
ช่าง "ข้ามิได้มีฝีมือล้ำเลิศหรอก หยกชิ้นนี้มันงดงามเองอยู่แล้ว เพียงแต่ข้าแค่กระเทาะหินที่เกาะหยกอยู่ออกมาเท่านั้นเอง"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า "อกหักร้อยทีดีกว่ารักไม่เป็น"
ทายสิว่าผู้ไม่แสดงตนเป็นใครเอ่ย...ใบ้ให้นิดนึง...อ๊ะ..ไม่ใบ้ดีกว่าหลอกให้เจ๊งงเล่น..ฮิฮิ..
ขอเอาไปใช้ต่อ บ้างค่ะ คมดี
ความรักมันไม่ได้หายไปไหน แต่มันแค่ไม่ได้เติบโตในใจเราอีกต่อไปเท่านั้นเอง ....
ถ้าไม่มีความทุกข์ ก็จะไม่รู้ว่าความสุขเป็นเช่นไร
น้องแพน ขา มาเยี่ยมค่ะ ขยันเขียนจัง ครู ดร.ด้วง คงดีใจ เป็นกำลังใจให้นะคะ
เอ้า...ไม่เห็นมีรูปขึ้นมาเลย มั่วอยู่ตั้งนาน...พี่ทหารอากาศฯ ขอคำแนะนำด้วยนะครับ
โห ดีใจมากภาพโผล่ขึ้นมาแล้ว ทำอยู่ตั้งนาน ต้องขอบคุณพี่ทหารอากาศฯ ที่ให้คำแนะเป็นอย่างดี ขอบคุณอีกครั้งครับผม
...และต้องขออภัยบุคคลที่ปรากฎในภาพ ที่ไม่ได้ขออนุญาตก่อนนำภาพไปลง หวังว่าคงให้อภัยนะครับ
+ สวัสดีค่ะ.....
+ มาส่งกำลังใจค่ะ....
+ ธรรมดาของชีวิต...แต่ที่สำคัญ คือ ชีวิตยังคงต้องดำเนินต่อไปค่ะ
+ ชอบสิ่งนี้ค่ะ " ความรักมันไม่ได้หายไปไหน แต่มันแค่ไม่ได้เติบโตในใจเราอีกต่อไปเท่านั้นเอง ...."
+ เมื่อมันถึงที่สุด...ก็ " ปล่อยให้ไหลไป...ลอยลงสู่ทะเลให้หายไป..."
+ ผ่านความหลังผุพังอลังการ ผ่านดุจผ่านนานปีมิรู้เป็น "
+ ชีวิตมีอะไรตั้งเยอะแยะ.....เป็นกำลังใจให้ค่ะ....
พี่ทหารอากาศฯ ผมพอไปวัดไปวาได้หรือยังครับ...ขอบคุณพี่มากที่ให้ข้อมูล