Human Multiprocessor

แล้วมันเกี่ยวอะไรกับ Multiprocessor

 

สวัสดีครับ

ห่างหายจากการบันทึก "การเป็นเจ้าหน้าที่ประสานงานโครงการ" ซะนานครับ

 

"Multiprocessor"

Multiprocessing is the use of two or more central processing units (CPUs) within a single computer system. The term also refers to the ability of a system to support more than one processor and/or the ability to allocate tasks between them.^[1] There are many variations on this basic theme, and the definition of multiprocessing can vary with context, mostly as a function of how CPUs are defined (multiple cores on one die, multiple chips in one package, multiple packages in one system unit, etc.).

ที่มา: http://en.wikipedia.org/wiki/Multiprocessing

 

นั่นคือความหมายในทางคอมพิวเตอร์

แต่ในทางการทำงานด้านบริหารแล้ว

มันก็คือ การทำหลายหน้าที่ในเวลาเดียวกัน

(ยังมีคำเรียกอื่นๆเช่น parallel, multi task อันนี้ไม่เป็นทางการนะครับ)

 

• ประโยชน์: ได้งานหลายๆอย่างเนื่องจากไม่ได้มีงานเดียว และต้องทำให้เสร็จในเวลาที่กำหนด
• ข้อเสีย:     อาจจะทำให้งานออกมาไม่ดีเท่าที่ควร

สิ่งที่สำคัญที่ได้จากประเด็นดังกล่าวก็คือ

มันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แน่นอน ใครๆก็ทราบดี

 

แต่ถามว่า เราสามารถเลือกได้มั้ยว่า จะขอทำแค่อย่างเดียว งานเดียว

ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะทรัพยากรมีจำนวนจำกัด ต้องบริหารให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด

เอ... แล้วตกลงควรบริหารจัดการอย่างไรบ้างล่ะครับ

Balance!!!

มันอยู่ที่ความพอดี

Multi บ้าง

Single บ้าง

แล้วทุกอย่างน่าจะลงตัวครับ

แต่ Balance อย่างไรนั้น คงต้องฝากให้ลองกลับไปคิดดูนะครับ

lovaibu

[ผ่านมา]

ตอนนี้เราทำงานธุรการ(สรรหา)-บุคคล บริษัท ผลิต และจัดจำหน่าย น้ำผลไม้อยู่

ข้อดี - งานสบาย + ใกล้บ้าน + รับผิดชอบน้อย(มีเวลาเล่นเน็ตด้วยฮาๆ) ทำงานแล้วไม่เสียสุขภาพทางกายและจิต ฯลฯ

ข้อเสีย - เงินน้อย(7000-8000) + ทำงาน 1-2 ปี ถึงจะได้บรรจุ + งานน้อยทำให้สมองไม่พัฒนา และอาจกลายเป็นคนขี้เกียจได้ในอนาคต ฯลฯ

และ

กำลังลังเล ว่าจะไปทำงานตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประสานงานของบริษัทจัดจำหน่ายของตกแต่งบ้าน ... ดีหรือเปล่า ???

ข้อดี - งานท้าทาย(รับผิดชอบเยอะมาก) + เงินดีกว่า ได้ 11000+ค่าครองชีพ 500 + ผ่านโปรได้บรรจุเป็นพนง. + มีโบนัส ฯลฯ

ข้อเสีย - ใกล้บ้านกว่าที่เก่า(ค่ารถเพิ่มขึ้น 3 เท่า)+ งานต้องรับผิดชอบหลายอย่างไม่รู้จะรับไหวไหม + มันเป็นการเหนื่อยเกินไปไหม + แล้วอนาคตขึ้นได้ขนาดไหน-ไปทำตำแหน่งไรได้บ้าง? + เหนื่อยและหนักกว่าที่เดิม 2 เท่า (ทั้งงานและการเดินทาง)ฯลฯ

คิดไม่ออกแล้ว ...

เราได้มาอ่านที่เธอเขียน มันก็ช่วยให้เราเข้าใจลักษณะงานของจนท.ประสานงานมากขึ้น มันคงคล้ายกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเหมือนกันหรือเปล่า ?

ขอบคุณที่เขียนมาเล่าสู้กันฟัง มันมีประโยชน์กันเรามากนะ

ปล.ถ้าไม่เป็นการรบกวนชวนแนะนำเราหน่อยซิ สับสนหมดแล้ว ...

[Nat_Panik]

• สวัสดีครับคุณผ่านมา
• ก่อนอื่นยินดีที่ได้รุ้จักครับ
• และต้องขออนุญาตลบเมลของคุณผ่านมาครับแต่ผมแอดแล้วครับ
• สำหรับคำแนะนำนั้น ผมเห็นว่า บางครั้งงานที่เราสบายใจมันก็ดีกว่าครับ
• แต่ถ้างานที่เราสบาย มันเริ่มไม่สบายใจแล้ว (เงินน้อย) เราอาจต้องเลือกครับ
• สำหรับงานประสานงานนั้น ความจำต้องดีครับ ซึ่งผมก็ยังไม่ดีเท่าที่ควร แต่จะพยายามต่อไปครับ
• เพราะเราต้องจำทุกอย่าง โดยเฉพาะเรื่องเวลา มันจะยุ่งและมั่วไปหมดครับ
• สำหรับที่นี่ ผมมีความสุขครับ อยู่หอพักในมหาวิทยาลัย (เพราะกำลังเรียนโท) ค่าใช้จ่ายน้อย รายได้ถือว่าพอใจมาก งานหนักแต่จะหนักไปทางยุ่งๆ ตั้งสติซักหน่อยจะสามารถทำได้ดีครับ
• ยังไงเชิญคุณ ผ่านมา มาสมัครสมาชิกและร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้กันนะครับ