อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม


อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม

  กองทัพเรือกับปะการังและการอนุรักษ์

 

 

ปะการัง  มีประมาณ 400 ชนิดแบ่งตามลักษณะที่เห็นภายนอกได้ 7 กลุ่มดังนี้
             1.
       ปะการังเขากวาง มีลักษณะคล้ายเขากวาง บริเวณกิ่งมีตุ่ม รอบ ๆ ตุ่มเป็นที่อยู่ของตัวปะการัง
             2.       ปะการังแผ่น มีลักษณะการขยายตัวออกเป็นแผ่นในแนวราบคล้ายโต๊ะ บางแห่งอาจซ้อนกันเป็นชั้น ๆ
             3.       ปะการังเคลือบ มีลักษณะการขยายตัวหุ้มฐานพื้นที่ที่ปะการังติดอยู่
             4.       ปะการังก้อน มีลักษณะเป็นก้อนตันคล้ายก้อนหิน
             5.       ปะการังกึ่งก้อน มีลักษณะการเติบโตรวมกันเป็นกระจุกค่อนข้างแน่นแต่ไม่ติดเป็นก้อนเดียวกัน
             6.       ปะการังเห็ด มีลักษณะการเติบโตแผ่ออกคล้ายดอกเห็ด
             7.       ปะการังกิ่งก้าน มีลักษณะการเติบโตเป็นกิ่งก้านแตกแขนง


การสืบพันธ์
             ปะการังการสืบพันธุ์ 2 แบบ ดังนี้
            แบบที่ 1 การสืบพันธ์แบบอาศัยเพศ ซึ่งตัวอ่อนที่เกิดจากไข่เมื่อถูกผสมแล้วจะล่องลอยไปในน้ำเพื่อหาที่เกาะในแหล่งใหม่
           แบบที่ 2 การสืบพันธ์แบบไม่อาศัยเพศ โดยวิธีการแตกหน่อขยายออกไปจากตัวเดิมทำให้ก้อนปะการังมีขนาดใหญ่ขึ้น และลงเกาะทับถมกันเป็นเวลานานนับร้อย ๆ ปี เป็นแนวหินปูนใต้น้ำเรียกว่า "แนวปะการัง"
             แนวปะการัง เป็นที่อยู่อาศัยหลบภัยและเป็นแหล่งอาหารของสิ่งมีชีวิตนานาชนิด ได้แก่ สาหร่ายเซลล์เดียว หญ้าทะเลฟองน้ำ ปะการัง กัลปังหา ดอกไม้ทะเล หนอนทะเล หอย หมึกทะเล กุ้ง ปู ปลา ฯลฯ แนวปะการังจึงเป็นระบบนิเวศน์ที่มีความสำคัญและมีความสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำอีกระบบหนึ่งของระบบนิเวศชายฝั่งทะเล
        สาหร่ายเซลล์เดียวเป็นผู้ช่วยสร้างอาหารและโครงสร้างหินปูนให้แก้ตัวปะการัง โดยกระบวนการทางสังเคราะห์แสง โดยใช้หนวดจับสัตว์เล็ก ๆ


การเจริญเติบโต
            ปะการังบางชนิดมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยประมาณ 10 เซนติเมตรต่อปี ส่วนปะการังก้นมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 1-2 เซนติเมตรต่อปี ปะการังจะเติบโตได้ดีในน้ำทะเลที่ใสสะอาด ความเค็มคงที่ มีแสงสว่างส่องถึง ระดับอุณหภูมิที่ 18-32 องศาเซลเซียส หากระบบนิเวศน์เสื่อมโทรม แนวปะการังจะถูกทำลายกว่าจะฟื้นตัวได้ต้องใช้เวลานานหลายสิบปี
            ประเทศไทยมีชายฝั่งทะเลยาว 2, 6696 กิโลเมตรอยู่ในพื้นที่ 22 จังหวัดซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับทะเล และมีแนวปะการังตามชายฝั่งเกาะต่าง ๆ ที่มีความงดงามติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก


ประโยชน์ของปะการังมีดังนี้
          1. เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำเศรษฐกิจหลายชนิด สัตว์น้ำที่หายากและใกล้สูญพันธุ์
          2. เป็นกำแพงป้องกันชายฝั่งพังทลายจากคลื่นลม กระแสน้ำและพายุ
          3. เป็นแหล่งท่องเที่ยวและนันทนาการเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจโดยดำน้ำและถ่ายภาพธรรมชาติใต้น้ำ
          4. เป็นแหล่งกำเนิดทรายให้ชายหาดโดยการสึกกร่อนของแนวโครงสร้างหินปูน
          5. เป็นแหล่งอาหารของมนุษย์ โดยจะมีสัตว์น้ำเศรษฐกิจหลายชนิดมาอาศัยและแพร่ขยายพันธุ์
          6. เป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าวิจัยด้านระบบนิเวศวิทยาชายฝั่งและด้านการแพทย์ เช่น การสกัดสารทำยาต่อต้านมะเร็ง จุลชีพน้ำยาป้องกันการตกผลึก

 

          ปะการังถูกทำลายและเสื่อมสลายโดยธรรมชาติ และฝีมือมนุษย์
โดยธรรมชาติ
          1.
       พายุ กระแสน้ำ และคลื่นลม
          2.       สิ่งมีชีวิตอื่น ได้แก่ หอยบางชนิด เพรียง หอยเม่น ปลานกแก้ว ปลานกแก้ว ปลาผีเสื้อ ฯลฯ
          3.       สัตว์ที่กินปะการัง ได้แก่ ปลาดาวหนาม หรือดาวมงกุฎหนาม หอยสังข์หนาม
โดยมนุษย์ ซึ่งมีผลต่อการทำลายปะการังทันที
          1.       การจับสัตว์น้ำในแนวปะการังเป็นการจับสัตว์น้ำด้วยวิธีที่ผิดกฎหมายว่าด้วยการประมง อาทิ การใช้ระเบิดสารเคมี ใช้ลอบ ฉมวก ยิงปลา จับกุ้ง หอย และปลา ฯลฯ ทำให้ระบบนิเวศน์บริเวณแนวปะการังขาดสมดุล
          2.       ผลกระทบจากการท่องเที่ยวอันเนื่องมาจากการเดิน ยืน เก็บ ทิ้ง และถอนสมอเรือ ทำให้ปะการังหักพัง
          3.       การขุดร่องน้ำ และก่อสร้างอาคารยื่นล้ำชายหาด ทำให้ทรายถูกพัดพาไปทับถมปะการัง
          4.       การทิ้งของเสีย และสิ่งปฏิกูลในบริเวณแนวปะการังทำให้ระบบนิเวศน์ขาดสมดุล
          5.       การขุดทำเหมืองแร่และน้ำล้างแร่ ซึ่งมีกากตะกอนมากเกินกว่าการปรับตัวตามธรรมชาติและน้ำขาดออกซิเจนทำให้ปะการังต้องตาย
การอนุรักษ์ปะการัง
          ปะการังเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เปราะบาง และต้องใช้เวลายาวนานในการเติบโตที่เรียกว่า แนวปะการัง เป็นโครงสร้างหินปูน (โพลิป) ซึ่งเปรียบเสมือนกำแพงธรรมชาติ บรรเทาคลื่นลมกระแสน้ำ โครงสร้างปะการังถูกกัดกร่อนด้วยกระแสคลื่นพัดเข้าสู่ฝั่งเป็นเม็ดทรายที่ขาวสะอาดให้กับชายหาด ในปริมาณ 1 ตัน/ไร่ 1 ปี นอกจากนี้บริเวณดังกล่าวยังเป็นที่อาศัยของสัตว์ทะเลนานชนิดดังนั้นการอนุรักษ์ปะการัง เพื่อธำรงรักษาสภาพแวดล้อม โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชน ภาครัฐบาล เอกชนและองค์การต่าง ๆ ดังนี้
          1.
       สงวนคุ้มครองแนวปะการังที่ยังไม่ถูกทำลาย โดยประกาศเขตคุ้มครอง
          2.       ส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้มีความตระหนักถึงคุณประโยชน์ปะการัง
         3.       มาตรการการจัดการที่เหมาะสม เช่นการออกกฎหมายเพิ่มโทษแก่ผู้ทำลายปะการัง การจัดฝึกอบรมและสัมมนาการจัดแทรก  หลักสูตรการศึกษา
          4.
       การติดตั้งทุ่นผูกเรือ เพื่อมิให้มีการทอดสมอเรือในแนวปะการัง
         5.       ลดการใช้ประโยชน์แนวปะการังให้น้อยที่สุดเช่น การจับสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ปลาสวยงาม การเก็บปะการัง การยืนและเดินบนปะการังของนักดำน้ำ ฯลฯ
          6.       รักษาสมดุลและระบบนิเวศน์ชายฝั่งทะเลให้เอื้ออำนวยต่อการอาศัยและเติบโตแพร่พันธุ์ของปะการัง
          7.       สร้างความตระหนักและจิตสำนึกให้เห็นความสำคัญ คุณค่าและคุณประโยชน์ปะการังที่มีต่อมวลมนุษย์ โดยงดการทิ้งของเสียและสิ่งปฏิกูลลงสู่ทะเลโดยตรง
          8.       กระตุ้นการประสานความร่วมมือของทุกคนทุกฝ่ายอย่างใกล้ชิดเพื่อฟื้นฟูและรักษาแนวปะการัง ให้มีความงดงามตามธรรมชาติ
          จะเห็นได้ว่า ปะการังมีคุณประโยชน์แก่มนุษย์พืชและสัตว์ทะเลอย่างมหาศาล ก่อให้เกิดสีสัน ความสวยงามซึ่งธรรมชาติสร้างสรรค์ให้อย่างวิจิตรงดงามเป็นแหล่งที่ให้ความเพลิดเพลิน และเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำทะเลที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจนานาชนิดนับเป็นแหล่งธรรมชาติที่ทุกๆ   คนจักต้องตระหนักถึงความสำคัญ และให้ความร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเหล่านี้ ให้เป็นชลสมบัติ ที่สามารถให้ผลผลิตที่ยั่งยืนต่อเนื่องตลอดไป
มาตรการอนุรักษ์

          กรมประมงได้กำหนดมาตรการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำดังต่อไปนี้
          ผู้ฝ่าฝืนทำการประมงปะการัง หรือหินปะการังทุกชนิด ทุกขนาดไม่ว่าวิธีใด ๆ ในทะเล หรืออ่าวในท้องที่จังหวัดชายทะเลทุกจังหวัด มีความผิดต้องโทษปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
          ผู้ฝ่าฝืนทำการประมงดำน้ำโดยใช้อวนล้อมทุกชนิดทุกขนาด หรือลักษณะคล้ายกัน โดยวางบนพื้นทะเลแล้วดำน้ำ เดินเหยียบย่ำบนแนว ปะการังเพื่อไล่ต้อนปลาเข้าอวน มีความผิดต้องโทษปรับตั้งแต่ 5,000-10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
          ผู้ฝ่าฝืนทำการประมงโดยใช้กระแสไฟฟ้า วัตถุระเบิด สารเคมี ยาเบื่อเมามีความผิดต้องโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือน - 5 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000-100,000 บาท และริบของกลางทั้งสิ้น
          ผู้ฝ่าฝืนส่งปะการัง ซากส่วนหนึ่งส่วนใด ผลิตภัณฑ์จากปะการังและปลาสวนงามออกนอกประเทศ มีความผิดต้องโทษปรับเป็นเงิน 5 เท่าของสินค้า จำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำและริบของกลางรวมทั้งสิ่งที่บรรจุและพาหนะใด ๆ ที่ใช้ในการบรรทุกสินค้าซึ่งเกี่ยวเนื่องด้วยความผิด
          ผู้ฝ่าฝืนมีหินปะการัง กัลปังหา เต่าทะเล กระและผลิตภัณฑ์ไว้ในครอบครองเพื่อการค้า มีความผิดต้องโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือทั้งปรับทั้งจำ
          ผู้ฝ่าฝืนทำการประมงใจเขตรักษาพืชพันธ์ มีความผิดต้องโทษปรับ 10,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 210698เขียนเมื่อ 22 กันยายน 2008 12:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (17)
  • ช่วงที่ผมทำงานอยู่ภาคใต้ เคยไปดำน้ำดูปะการังแถบ เกาะอาดัง เกาะหลีเป๊ เกาะหินงาม เกาะกระดาน ถ้ำมรกต พบว่าท้องทะเลในเมืองไทยมีปะการังที่สวยงามจำนวนมาก แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราต้องทำไปพร้อมกับการดูก็คือ การอนุรักษ์ปะการัง มิฉะนั้นแล้วอาจไม่มีปะการังที่สวยงามให้ดูก็เป็นได้

เห็นด้วยกับท่านครับ หากว่าง ๆ ลองมาด้ำน้ำที่เกาะขาม อ.สัตหีบ     จ.ชลบุรี ดูบ้างซิ น้ำไม่ลึกมาก ประการังสวย น้ำใส

  • มาแล้วครับพี่ทหารเรือรูปหล่อ
  • ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ เน็ตที่ทำงานมันล่มอ่ะ
  • อุ้ยปะการังสืบพันธ์ได้ด้วย แสดงว่ามันเป็นสัตว์น่ะสิครับ
  • ทหารเรือ ผู้พิทักษ์น่านน้ำไทยก็ต้องเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลรักษานั่นแหละครับ ถูกต้องแล้วคร้าบ
  • ในส่วนกองทัพอากาศก็มีส่วนช่วยด้วยเหมือนกัน โดยสนับสนุนเครื่องบินที่ไม่ใช้งาน ๑๐ เครื่อง  ไปจมใต้ทะเลที่ภูเก็ต  ตามโครงการฝูงบินปะการัง
  • เดิมกำหนดว่าจะจมเมื่อเดือนพฤษภาที่ผ่านมา ติดพายุนากิส จีงเลื่อนออกไป รายละเอียดหาอ่านเพิ่มเติมได้ที่http://www.komchadluek.net/2008/05/08/x_mili_u001_201050.php?news_id=201050

 

  กองทัพเรือมีการนำเรือที่ปลดระวางประจำการแล้วไปจมลงที่    เกาะไผ่และเกาะคราม  พัทยา  ทำเป็นสถานที่อาศัยของสัตว์น้ำ   และเป็นสถานที่สำหรับดำน้ำ  ส่วนการปลูกประการังก็นำแท่งปูนไปทิ้งให้ประการังเกาะและเจริญเติบโต นอกจากนั้นมีการขยายพันธุ์ประการังแบบใหม่  แล้วผมจะนำข้อมูลมาลงให้ชมกันอีกที

สจว.103 น่าจะจัด trip ไปดำน้ำที่เกาะขามนะ  ประมาณเดือน มี.ค. - เม.ย. อากาศกำลังดี น้ำทะเลใสมาก

  กองทัพเรือมีการนำเรือที่ปลดระวางประจำการแล้วไปจมลงที่    เกาะไผ่และเกาะคราม  พัทยา  ทำเป็นสถานที่อาศัยของสัตว์น้ำ   และเป็นสถานที่สำหรับดำน้ำ  ส่วนการปลูกประการังก็นำแท่งปูนไปทิ้งให้ประการังเกาะและเจริญเติบโต นอกจากนั้นมีการขยายพันธุ์ประการังแบบใหม่  แล้วผมจะนำข้อมูลมาลงให้ชมกันอีกที

สจว.103 น่าจะจัด trip ไปดำน้ำที่เกาะขามนะ  ประมาณเดือน มี.ค. - เม.ย. อากาศกำลังดี น้ำทะเลใสมาก

เอ๊ะ..ลำนี้คุ้นๆ รู้สึกว่าพี่ป้อมจะเคยเป็นผู้การเรือลำนี้ไม่ใช่เหรอครับ ตอนนี้เอาไปทำคอนโดให้ปะการังแล้วเหรอครับพี่

พี่ป้อมคะ ปุ้มแสดงความคิดเห็นมาตั้งแต่สองทุ่มกว่าแต่ส่งข้อความไม่ได้รหัสไม่ขึ้นเลยไปฝากข้อความในบล็อกของพี่ทำโลกร้อนค่ะไปเปิดอ่านด้วยนะคะ พี่ชายที่แสนดีของJUDGEPUM

ช่วยพี่หนูนาประกาศอีกที  เนื่องจากป้าๆ หลายท่านบ่นมาว่าของพี่หนูนาเล็กไปหน่อย มองไม่ค่อยเห็น  (หมายถึงตัวหนังสือน่ะ) 

 

·         ประกาศจากโลกร้อนค่ะ มีข่าวว่าจะมีเพื่อน ๆ จะมาร่วมงานกันมากพอสมควร ขณะนี้ เราจึงได้เปลี่ยนจากบ้านแสนรัก เป็น “ห้องอาหารไทยอีสาน” แล้ว เนื่องจาก ห้องบ้านแสนรักที่จองไว้น้อยเกินไป พอจองเพิ่มก็เต็มหมด เราได้จองไทยอีสานเมื่อเช้านี้ โดยอู๋เป็นผู้ติดต่อจองในนาม สจว.103 เริ่มงานตั้งแต่ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป วันที่ 25 ก.ย.เหมือนเดิม ****ไทยอีสาน ไปยังไง ก็คือ ถ้ามาจากถนนงามวงศ์วาน ผ่านหน้า ม.เกษตร ให้ลงอุโมงค์

·         พอโผล่ ให้วิ่งต่อจนข้ามสะพานแรกให้ชิดซ้าย (ชิดซ้ายเยอะๆ) แล้ว เลี้ยวเข้าร้าน ไทยอีสาน ถ้ามาจากถนนพหลโยธิน พอถึงแยกเกษตรศาสตร์ ให้เลี้ยวขวา เข้านวมินทร์ จนข้ามสะพานแรกให้ชิดซ้าย (ชิดซ้ายเยอะๆ) แล้ว เลี้ยวเข้าร้าน ไทยอีสาน

ประกาศ

        WEBSITE : ------->>> www.api103.com

                    ส่วน Gallery เปิดแล้วครับไงตามไปดูกันนะครับ

พี่ชายคะ ได้ข่าวว่าติดงานราชการ เลยไม่ได้พบกัน แต่ไม่เป็นไรเมื่อรวมพลวันเสาร์ได้จะติดต่อพี่ชายต้องมาให้ได้ไม่นั้นน้องปุ้มและเพื่อน ๆ จะตามไปเอาตัวมาจากฐานทัพของพี่ชายเลยค่ะ งานนีน้ขอบอกสนุกมากค่ะเหมือนคืนวันเก่าไม่มีผิด แตกต่างตรงที่ขาดเพื่อน ๆ ที่น่ารักไปหลายคนค่ะ

ภาพสวยๆ ข้างบน หนูนาเลี้ยงมาหมดแล้ว

มีชีวิตในตู้ให้เชยชมแค่ไม่เท่าไร

ก็ทยอยเสียชีวิตไปทีละตัว ทีละตัว

ต้องฌาปนกิจทุกอาทิตย์เลย

บางตัวอยากฆ่าตัวตาย กระโดดออกมา

เฉยเลย จะเรียกร่วมกตัญญูก็ขาดใจ

ไปต่อหน้าต่อตาซะแล้ว

จึงแจ้งมาเพื่อทราบทั่วกันว่า

ให้เขาอยู่ในทะเลของเขาดีที่สุดเลย

ถึง ผู้พิพากษาแสนซน..น้องปุ้ม

  ขอโทษด้วยที่ตอบช้าไปหน่อย  งานเลี้ยงสนุกหรือเปล่า ใครมีรูปส่งมาดูกันบ้างนะ  เสียดายที่ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย คิดถึงทุก ๆคน โอกาสหหน้า( หลัง 1 ตุลา) คงได้ไปแน่ ๆ

พี่ป้อม

ถึงน้องปริ๊นรูปหล่อ

ขอโทษด้วยที่ไม่ได้ไปกินข้าวที่ราชนาวีสโมสรเพราะไปแล้วกลับไม่ทันงานตอนบ่าย ให้พี่ส่งรับไปก่อน  ช่วงนี้มีงานทุกวันเช้า - บ่าย     ขออนุญาตเป็นหลัง 1 ตุลาไปแล้วนะครับ

พี่ป้อมเอง

หมายเหตุ  เรือลำนั้นพี่เป็น ผบ.เรือ เป็นเรือประเภทปราบเรือดำน้ำ

ถึง ท่านจราจรจราจล

 ไม่รู้ว่างานพิธีกรงานเลี้ยงเกษียรอายุราชการตำรวจ เป็นอย่างไรบ้าง เรียบร้อยมั๊ย หรือว่าท่านโดนเกษียรไปพร้อมกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ซะแล้ว อิอิ

น้องป้อม

  • แวะมาเยี่ยมจักรีนฤเบศร พร้อมกับเอารูปทีมโปรดมาฝาก หวังว่าฤดูกาลนี้จะมีถ้วยใบสำคัญๆ ติดมือนะ...แล้วเดี๋ยวจะเอาไปแปะไว้ที่บล็อก เสธ.ปริ้นซ์ ซะหน่อย

รูปนี้ไม่ค่อยคุ้นนะ...น่าจะเป็นภาพในอดีตเมื่อหลายปีที่แล้วนี่นา แต่...เอ๊ะ...ถ้วยนี้คุ้นๆ นะ...เหมือนถ้วยที่กำลังตั้งโชว์อยู่ที่สนามโอลด์แทรฟฟอร์ด ของแมนยูฯ เลย...ฮ่าๆๆ..

ภาพน่ารักนะค่ะ ยังไงก้อถ่ายภาพใต้ท้องทะเลมาฝากอีกเยอะ ๆ นะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท