ไทรบุรี ถนนสายนั้น...ตอนต่อ
วันนี้ หมายถึงวันที่ 24 กันยายน เมื่อเวลาโน้น...ยี่สิบกว่าปีมาแล้ว
เรา
หมายถึงฉันและเธอ พูดคุยกันยืดยาวกันครั้งแรก
ฉันยืนเฝ้าบอร์ด วิชาการ
นายมาเดินเกร่ ๆ เพื่อเหล่สาว
นายว่ายังงี้ในบางตอนที่เราทบทวนเรื่องราวของกันและกัน
แต่ซ่อน เงื่อนไว้นิด ตรงที่ว่า นายคาดประมาณแล้วว่า ฉันน่าจะมาอยู่ใน หรือ ใกล้ ๆ บริเวณนี้
เพราะเป็นบริเวณที่คณะของฉัน จัดนิทรรศการ เนื่องด้วยเป็นวันมหิดล
บางครั้งนายก็เผยความจริงว่า
คิดในใจว่าน่าจะพบสาวกุลสตรีที่นายหมายปอง(เพื่อนฉันเอง)
จะอย่างไรก็ตามแต่
เช้านี้เราสองคน ส่งข้อความทางโทรศัพท์เนื้อความไปในทางเดียวกัน คล้ายกันว่า
ฉันส่งว่าTwenty years + +..ago ,we had met together. I wish you will get luck on your duty on the special day ;P
นายส่งว่า (ในเวลาใกล้กัน) Anniversary ! ! ! for our twenty years+ +.. relationship of being friend and family …AYY (นิคเนมของฉัน)
ฉันอดคิดถึงประโยคหนึ่งในภาพยนตร์ไทย “รักแห่งสยาม”
หนังไทยเมื่อคืนที่ฉันนั่งดูเป็นรอบที่สอง
แตง หรือ จูน ก็ไม่รู้ ลูกสาวของสินจัยน่ะ
เธอพูดกับสินจัยที่แสดงเป็นแม่ เอ หรือ พูดกับโต้งนะ???ลูกชายวัยรุ่นน่ะ
(โต้งผู้เริ่มสับสนเล็กน้อยว่าตัวเอง”ซึ้ง”พิเศษกับผู้ชายด้วยกัน)
เธอพูดว่า “ความรักของครอบครัวบางทีดูวุ่นวายเพราะรักกันมากไป”
“แต่เชื่อมั่นในความรัก และ รักกันมาก ๆ เถอะ มันไม่มี คำว่ามากไปหรอกสำหรับความรักภายในครอบครัว”
ชอบคำพูดนี้ค่ะ
"มันไม่มี คำว่ามากไปหรอกสำหรับความรัก"
แต่การแสดงออก บางที มากไป ก็ อึดอัดค่ะ
มาซึ้งค่ะ มาเห็นด้วยเจ๊า ว่า ครอบครัว ต้องรัก รัก รัก กอด กอด หอม หอม
ติดใจ แบรต พิทท์กับเขาก็จากภาพยนต์เรื่องนี้แหละค่ะ คุณนารีสุวรรณ ตามไปบล็อก เห็นหลายบันทึกเลยค่ะที่ใจตรงกัน;P
ขอบคุณ ค่ะ
ค่ะ พี่คะ แม้แสดงออก(มากไป)แล้วจะอึดอัด แต่เราสามคนพ่อ-แม่-ลูก ก็รัก ๆ ๆ กอด ๆ ๆ หอม ๆ ๆ อย่างที่คุณแม่น้องพอแนะนำ พร้อม ๆ กันนั้นเราก็มีข้อโต้แย้งกันอยู่เนือง ๆ แต่สรุปได้ในที่สุด...
ภายใต้หลักประชาธิปไตย ของครอบครัว ค่ะ ;P