ก่อนเดินทางเราตรวจสอบสภาพอากาศที่เซินเจิ้น เพื่อจัดกระเป๋าเดินทาง พบว่า อุณหภูมิประมาณ 88 F หรือ 28 C (แบบนี้ก็ร้อนน่ะสิ) แต่ด้วยความกลัวว่าจะหนาวเลยเอาเสื้อกันหนาวใส่กระเป๋าไปด้วย เตรียมพร้อมไว้ก่อนดีกว่า นอกจากนั้นก็มีขนม มาม่าติดไปด้วย เผื่อหิวน่ะ และเราก็ไม่รู้ว่าที่โน่นเป็นยังไง เตรียมไปก่อนดีกว่า
อย่างที่รู้ๆกันนะคะ เราได้ไฟล์ทที่เดินทาง เวลา 18.50 ก็ต้องเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิก่อนเครื่องออกอย่างน้อยประมาณ 2 ชั่วโมง เรา พี่นุช พี่หญิง พี่แว่นและคุณต้น ออกจากบางแค ประมาณบ่าย 3 ไปถึงก็บ่าย 4 โมง Check in โหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องแล้วเหลือเวลาเยอะก็เลยไปนั่งกินคาปูชิโน่ เอสเพรสโซ่ (กาแฟสด)กับโก้โก้เย็น ที่ร้านอาหารที่เป็นซุ้มเล็กๆ อยู่บริเวณชั้น 3 ใกล้ๆร้านแฟมิลี่มารท์ กาแฟสดกับโกโก้เย็นอร่อยมาก (ขอบอก) จำชื่อร้านไม่ได้ค่ะ แต่อยู่ในซุ้มอาหารนั่นแหละค่ะ
ระหว่างรอเครื่องออก เราก็คุยกันเรื่องจะเข้าโรงแรมที่พักยังไง เพราะเราไปถึงเซินเจิ้นเกือบ 5 ทุ่ม แล้วโรงแรมที่เราจองไม่มีรถรับส่งสนามบิน (เพราะเราเลือกโรงแรมถูก) ต้องหาทางไปกันเอง ต้องนั่งรถเข้าไปอีกเกือบชั่วโมง พี่นุชบอกว่า พี่ๆเค้ารู้จักและเค้าเคยไปที่นั่นแนะนำว่าอย่าขึ้นแท็กซี่ที่สนามบิน เพราะมันไม่ปลอดภัยและแพงด้วย ให้หารถบัสนั่งเข้าเมือง ซึ่งจากที่อ่านคำแนะนำในเนต เค้าก็บอกว่ามีรถบัสจากสนามบินเข้าเมืองเดินทาง 45 นาที ก็ดีนะ น่าจะปลอดภัยกว่า
5 โมง เย็น พี่นิดกับน้องกิ๊ฟก็มาCheck in โหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง ทริปนี้เราไปกัน 5 คน คือ พี่นุช พี่หญิง พี่นิด น้องกิ๊ฟและเรา มีคุณต้นคอยส่งขึ้นเครื่อง พอเดินเข้าไปข้างในแล้ว พี่นิด น้องกิ๊ฟ พี่นุชก็ shopping ที่ duty free ทันที เดินดูของจนหมดเวลาเค้าประกาศเรียกเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ก็รีบวิ่งไปขึ้นเครื่องกัน ถ้าใครเคยขึ้นเครื่องแอร์เอเชียจะรู้ว่าเราต้องดิ้นรนกันมาก รีบขึ้นเครื่องเพราะต้องรีบไปเลือกที่นั่ง เป็นครั้งแรกของพี่นิดกับน้องกิ๊ฟที่นั่งแอร์เอเชีย (ไม่เคยลำบากกันก็มาลำบากเพราะไปทริปนี้แหละ) หาที่นั่งใกล้ๆกันได้แล้ว เราก็เตรียมหาซื้ออาหารบนเครื่องบินทานกัน ราคาแพงแต่ก็ต้องกินเพราะไปถึงที่นั่นแล้วไม่รู้จะไปหากินที่ไหนดึกๆดื่นๆ เพราะรู้ว่าบนเครื่องบินไม่ให้นำอาหารขึ้นไปกิน ถ้ากินจะโดนคิดตังค์แหละ เราเลือกมาม่ากินรองท้องไป (ถูกสุดแล้ว ถ้วยละ 50 บาท) ก็โอเคนะคะ กินมาม่าชามละ 50 บนความสูง 30,000 ฟุต (เฮ้อ!)
พอกินอิ่มแล้ว เรากับพี่หญิงก็เดินไปนั่งเล่นตอนท้ายของเครื่องบิน มีที่นั่งว่างๆเหลือ ระหว่างเดินเราก็เห็นคนจีนเอาขนม ของว่างที่นำมาเองขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย โดยที่แอร์ฯก็ไม่เห็นว่าอะไร (รู้งี้เราก็ซื้อขึ้นมากินบนนี้บ้างดีกว่า) ที่นั่งด้านหลังมีคนจีนคนหนึ่งเค้าทำท่าทางสนใจอยากคุยกับพวกเรามาก แต่พวกเราทำท่าไม่สนใจเค้า พี่หญิงก็ว่าเค้าเป็นภาษาไทยไปเยอะ (คิดว่าเค้าฟังไม่รู้เรื่อง) ปรากฏว่า หลังจากที่เค้ามองและพยายามส่งยิ้มมาให้พวกเราหลายครั้ง พี่หญิงหนีไปทำท่าตั้งใจอ่านเอกสารทำงานเต็มที่ ส่วนเราก็ทำท่าตั้งใจอ่านหนังสือเหมือนกัน (ไม่อยากคุยค่ะก็ภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง) เค้าก็ทักเราเป็นภาษาไทย เราจึงจำเป็นต้องคุยกับเค้านี่แหละ ก็เลยรู้ว่าเค้าเคยมาทำงานประเทศไทยหลายปีก็พูดและฟังภาษาไทยได้บ้าง (พี่หญิงหลบเงียบไปเลยก็นินทาเค้าไปตั้งเยอะน่ะ เค้าฟังรู้เรื่องหมดนั่นแหละ) ก็เลยไม่ได้อ่านหนังสือเลยเรา ต้องเป็นเพื่อนคุยกับเค้าจนเครื่องใกล้ลงนั่นแหละ ถึงขอตัวออกมาได้ (เฮ้อ!)
เที่ยวบินไปเซินเจิ้นใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง ลงจากเครื่อง ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองออกมาได้ การผจญภัยก็เริ่มต้น พวกเราต้องเดินทางไปโรงแรมกันเอง พี่นิดอยากนั่งแท็กซี่ แต่พี่นุชบอกว่ามีคนบอกมาว่าไม่ให้ขึ้นมันอันตราย เราก็หารถบัสเข้าเมืองกัน ระหว่างนี้มีแต่คนจีนเดินเข้ามาถามเรา แต่ไม่พูดภาษาอังกฤษกับเรา พี่นุชพยายามถามทางไปจากคนที่พูดภาษาอังกฤษได้ ในที่สุดเราก็โชคดีเจอผู้ชายจีนคนหนึ่งที่พูดภาษาจีนได้ บอกทางไปโรงแรม โดยให้พวกเรานั่งรถบัสเข้าเมือง แล้วไปต่อแท๊กซี่ เค้าเขียนชื่อโรงแรมเป็นภาษาจีนให้ยื่นให้แท็กซี่ดูด้วย
หลังจากมองหาสถานที่จอดรถบัสเข้าเมือเจอแล้ว เราก็ไปซื้อตั๋ว ราคา 20 หยวน ยืนต่อแถวขึ้นรถ หาง่ายค่ะรถบัส คือ เราเดินออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองแล้ว เจอประตูทางออกประตูแรกของสนามบินแล้วเลี้ยวซ้าย เดินไปอีกนิดค่ะ จะเจอคนยืนต่อแถวและซุ้มขายตั๋วรถบัส สาย 330 นั่งเข้าเมืองไปประมาณ 45 – 60 นาทีค่ะ นั่งไปสุดสายเลยนะคะ เราจะลงที่สถานีหลอหวู่ค่ะ
พอลงจากรถบัสแล้ว จะเจอแท็กซี่ที่ไม่รู้ภาษาอังกฤษมาแย่งผู้โดยสารนักท่องเที่ยวอย่างพวกเราๆ ก็ยื่นชื่อโรงแรมเป็นภาษาจีนให้ เค้าบอกว่า 16 หยวน แต่เห็นเรา 5 คนเค้าขอเพิ่ม ก็ตกลงราคาได้ 20 หยวนค่ะ เรา 5 คนก็นั่งเบียดในรถไปโรงแรมกัน
ใกล้มากเลยค่ะประมาณ 5 นาที ก็ถึงโรงแรม พี่นิดจ่ายแบงค์ 50 หยวนให้ เค้าทอนเรามา 20 หยวน ก็โดนไปแล้วค่ะ โดนโกงค่ารถไปเลย 10 หยวน ก็เพิ่งมารู้ทีหลังเนาะ ทำไรไม่ได้แล้ว
ในที่สุดเราก็มาถึงโรงแรม Shanshui Trends Luohu Hotel (ShenZhen) พี่นุชเป็นคนจองโรงแรมก็เลยจัดการเรื่องห้องพัก 2 ห้อง ภายในห้องพักโรงแรมน่ารักดี เป็นโรงแรมจีนที่มีหลายสาขา ข้างในห้องของโรงแรมสวยเก๋ สะอาด ดีเหมือนในรูปจริงๆ ค่ะ http://www.agoda.co.th/asia/china/shenzhen/shanshui_trends_luohu_hotel.html
มีโทรทัศน์ ตู้เย็น กาต้มน้ำ ไดร์เป่าผม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่โรงแรมอื่นๆมี แต่ไม่มีน้ำดื่มฟรีให้นะคะ ต้องเดินมาซื้อที่ร้านข้างโรงแรมค่ะ (เดินออกมาเลี้ยวขวาค่ะ) ถึงจะได้ราคาถูก และไม่มีอาหารเช้านะคะ ที่สำคัญเราสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้ฟรีจริงๆ ค่ะ แต่ที่ใช้เนตอยู่ข้างๆ Lobby นะคะ ไม่ใช่ในห้องค่ะ มีคอมให้ใช้ 2 เครื่องค่ะ และมี Shuttle Bus ของโรงแรมบริการไป-กลับฟรีให้ที่ด่าน Luohu เลยค่ะ สะดวกจริงๆ พี่นิด น้องกิ๊ฟ เราพักห้องเดียวกัน พวกเราก็รีบอาบน้ำพักผ่อนเลย แต่พี่นุชกับพี่หญิงเดินเล่นไปข้างๆโรงแรม สำรวจสถานที่ก่อน พวกเรานัดเจอกันพรุ่งนี้ตอน 9 โมงเช้า
งานนี้ไม่รู้จะเป็นยังไง ทั้งๆที่พี่นุชเรียนจบจากอังกฤษ พี่หญิงเรียนป.เอกที่จุฬา พี่นิดจบด๊อกเตอร์จากอินเดีย น้องกิ๊ฟไปเรียน Summer ที่เมืองนอกตลอด ล่าสุดก็ไปฝึกงานที่ฝรั่งเศสเป็นเดือน แต่ละคนน่ะ เก่งภาษาอังกฤษกันทั้งนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็ช่วยอะไรไม่ค่อยได้ เพราะคนจีนไม่ใช้ภาษาอังกฤษ ใช้แต่ภาษาจีน หาคนพูดภาษาอังกฤษได้รู้เรื่องยากมาก เฮ้อ! เมื่องท่องเที่ยวแท้ๆนะเนี่ย
ตอนต่อไปจะพาเที่ยว Shopping นะคะ อย่าพลาดค่ะ
ชื่อ: อ้อ
หัวเรื่อง: ขอคำแนะนำเรื่องเที่ยวเซิ้นเจิ้นค่ะ
ข้อความ:
กำลังจะไปเดือน ก.พ 52 ไปถึง 5ทุ่มเหมือนกัน น่ากลัวหรือเปล่า เพราะพี่ไปผู้หญิง 2 คน ภาษาอังกฤษก็ไม่แข็ง ภาษาจีนไม่ได้เลย
************************
มีเมลถามเข้ามาค่ะ ขออนุญาตตอบที่นี่นะคะ เผื่อจะเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่นด้วย
ตอบค่ะ
น่ากลัวค่ะ แพรไปกับผู้หญิงอีก 4 คน แล้วเก่งๆทั้งนั้น ยังรู้สึกกลัวเลยค่ะ
ตอบตรงไปหรือเปล่าค่ะ ก็พยายามหาข้อมูลทางเนตค่ะ ก็ได้มาน้อยมาก ไม่เพียงพอที่จะทำให้ความรูสึกกลัวลดไปได้ เพราะที่นั่นหาคนพูดอังกฤษยากเหมือนกันค่ะ
แท๊กซี่จากสนามบินไม่ต้องขึ้นนะคะ ขนาดคนจีนแท้ๆเค้ายังไม่แนะนำให้ขึ้นเลยค่ะ เพราะไว้ใจไม่ได้ จากสนามบินนั่งรถบัสไปนะคะ นั่งไปสุดสายก็จะเจอแท๊กซี่รอรับอยู่ ตรงนั้นขึ้นได้ค่ะ ถ้าจะเดินหาโรงแรมแถวๆนั้น แบบไม่เคยไปเนี่ย มืดๆค่ำๆอย่าเดินลากกระเป๋าหาเองเลยค่ะ มันเปลี่ยวๆยังไงไม่รู้ นั่งรถไปโรงแรมเดียวกับแพรก็ได้ค่ะ หรือไม่ก็จองโรงแรมที่เค้ามีรถรับส่งเลยดีกว่า สะดวก ปลอดภัยกว่าค่ะ
คุณแพรภัทรคร๊าบ ผมกะลังต้องไปเซินเจิ้น แบบตกระกำลำบาก เพราะมีพี่ชวนให้ซื้อตั๋วแอร์เอเชีย ภรรยาเคี่ยวเข็นปนงอน นิด ๆ ว่าอยากไป แต่ผมไม่เคยไปแบบ ไปรเวท เคยเดินทางแต่แบบกรุ๊ป พูดภาษาอังกฤษได้แค่งูกับปลา เรื่องที่คุณแพรภัทรเขียนสนุกมาก อยากให้เขียนให้จบในเวลาอันสั้น ส่งให้ผมหน่อยครับ ถือเป็นประโยชน์ต่อผู้ร่วมชตากรรม ครับผม
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากๆๆๆค่ะ
พอจะให้ข้อมูล เกี่ยวกับ ที่ท่องเที่ยว ที่พัก เมืองเซิ่นเจ้น ได้ไหมครับ เผอิญว่าเดือน ตุลาคม จะไป งานแฟรที่กวางเจา โดย ตั้งแต่ 12 -22/10 ซึ่งเวลาเหลือ มาก อยากจะขอคำแนะนำวว่า จัดโปรแกรมยังไงดี
งานแฟร มีวันที่ 15 -19 /10 ในใจอยากจะไปฮ่องกงด้วย ขอความช่วยเหลืด้วยครับ
ขอบคุณนะคะที่ไว้ใจ
ขอโทษจริงๆนะคะ ที่ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้
เป็นแค่นักท่องเที่ยวธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่เคยไปไม่กี่วัน
จึงไม่รู้รายละเอียดอะไรมาก
ลองติดต่อขอข้อมูลการท่องเที่ยวจากประเทศจีนดูแล้วกันนะคะ
ขอโทษจริงๆนะคะ
ขอบคุณข้อมูลค่ะ ดิฉันจะเดินทางไปเที่ยวที่ เซินเจิ้นวันที่ 10ตุลาคม 09 ไปผู้ใหญ่ 6 เด็ก 4 คน ไปถึงเซินเจิ้นดึกไปกับสารการบินแอร์เอเชียค่ะ อยากรบกวนสอบถามท่านผู้รู้เป็นข้อ ๆ ดังนี้ค่ะ
1. พอทราบไหมค่ะว่ามีโรงแรมแถวหลอหวูที่ไปรับที่สนามบิน
2. จองกับที่ไหนได้ค่ะ ราคาโรงแรม+รถไปรับที่สนามบินเท่าไหร่ (ราคาประหยัดมีไหมค่ะ)
3. โรงแรมใกล้กับตึกที่เที่ยวช๊อปปิ้งสามารถเดินไปได้จะดีมากค่ะ
ขอบคุณผู้รู้ล่วงหน้าค่ะ
ขออนญาตประชาสัมพันธ์ สำหรับเพื่อนๆ ที่ชอบเที่ยวเมืองจีน
เชิญมาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ความประทับใจ สืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับจีนกันที่
เดินทางท่องเที่ยวในจีน เชื่อมต่อเมืองต่างๆ ในประเทศจีนโดยทางเครื่องบิน
บริการจองซื้อตั๋วเครื่องบินภายในจีนราคาถูก
http://www.knowchinese.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=528139
ไปจีนครั้งแรก ตื่นเต้นมาก เลย สนามบินเซินเจินเหมือนบ้านเรามั้ยนะ