บทความต่อเนื่องช่วงปิดภาคฤดูร้อนสิ้นปีที่หนึ่ง... บันทึกของครูน้อยในเดือนที่สิบเอ็ดและสิบสอง กรกฎาคมถึงสิงหาคม 2551
สวัสดีค่ะ ครูใหญ่
ก่อนอื่นต้องขออภัยครูใหญ่และผู้อ่านทุกท่านนะคะที่บทความของครูน้อยหายไปนานผิดปกติ เนื่องจากการวิจัยที่ยังค้างอยู่ในขั้นตอนการวิเคราะห์ผล และอีกสาเหตุหนึ่งก็คือเรื่องการลงทะเบียนเรียนที่ยังไม่ลงตัว ดังนั้น ก็จะขออนุญาตแบ่งบทความในช่วงสามเดือนที่ผ่านมานี้เป็นสองช่วงนะคะ
ช่วงแรกคือเป็นช่วงของเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคม ก็จะขออนุญาตเล่าประสบการณ์ในการทำวิจัยแบบ Field Study เป็นครั้งแรกในชีวิตการเรียนปริญญาเอกของครูน้อย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวิชา Independent Study ค่ะ
ส่วนช่วงที่สองจะขอเล่าเกี่ยวกับวิชาที่เรียนในเทอมแรกของปีที่สองนี้ โดยจะเล่าในบล็อกของเดือนกันยายน 2551
ก็ขออนุญาตเริ่มเลยนะคะ
การเก็บข้อมูลเพื่อทำวิจัยในวิชา Independent Study
ขอเท้าความเดิมเล็กน้อยก่อนเพื่อให้ผู้อ่านที่อาจจะลืมเลือนที่มาของงานวิจัยนี้ไปบ้างแล้ว (เนื่องจากคนเขียนหายหน้าไปนาน) การทำวิจัยนี้ มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลกระทบในเชิงบวกและลบ ต่อการถ่ายทอดความรู้ที่เกี่ยวกับลูกค้า หรือการแข่งขันด้านการตลาด จากฝ่ายที่ติดต่อกับลูกค้าโดยตรงและฝ่ายต่างๆ ที่สนับสนุนกิจกรรมด้านการขายในบริษัท
ในงานวิจัยนี้ จะแบ่งงานช่วงแรกออกเป็นสองส่วน คือการสัมภาษณ์และการให้ทำแบบสอบถาม จากนั้นจึงจะเข้าสู่ช่วงประมวลผลและนำผลมาวิเคราะห์และเขียนเป็นบทความเพื่อนำเสนอต่อไป
สำหรับหน่วยงานที่ได้ให้ความร่วมมืออย่างดียิ่งในการทำวิจัยครั้งนี้ และครูน้อยใคร่ขอขอบพระคุณในความอนุเคราะห์ของท่านผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องทุกท่านมา ณ ที่นี้ด้วย มีรายนามดังต่อไปนี้ค่ะ
ตามที่ได้เกริ่นไปบ้างในความที่แล้วนะคะ ครูน้อยได้ออกแบบแบบสอบถามก่อน ตามที่อาจารย์ที่ปรึกษาของโครงการ คือ Professor Roger Calantone ได้ให้แนวทางมา ซึ่งมีทั้งข้อแนะนำในแง่หลักการและตัวอย่างแบบสอบถามสำหรับปัจจัยต่างๆ จากหนังสือ จากนั้น เราก็ออกแบบแบบสอบถามและส่งให้อาจารย์ดูอีกครั้งหนึ่ง
จากนั้น เมื่อกลับมาถึงประเทศไทย หลังจากได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังหน่วยงานต่างๆ ซึ่งบางหน่วยงาน เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์นั้น ทางครูใหญ่ก็ได้กรุณาติดต่อประสานงานให้ จนได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ทุกระดับของธนาคาร ก็ขอขอบพระคุณครูใหญ่มา ณ ที่นี้อีกครั้งหนึ่งด้วยค่ะ ส่วนหน่วยงานอื่นๆ อีกสี่หน่วยงานนั้น ครูน้อยก็ได้ขอความช่วยเหลือจากบรรดาเพื่อนๆ ที่เคยร่วมชั้นเรียนปริญญาโทด้วยกัน ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้บริหารระดับสูงในหลายองค์กรที่มีชื่อเสียง อีกทั้งเจ้านายเก่าหลายท่านผู้ให้ความเมตตาครูน้อยมาตลอดตั้งแต่เริ่มต้นชีวิตการทำงาน จนแม้กระทั่งไม่ได้ทำงานให้ท่านแล้ว ท่านก็ยังยินดีให้การสนับสนุนในการให้ข้อมูล และอนุญาตให้ครูน้อยเข้าไปทำวิจัยที่บริษัทได้ รวมถึงบรรดาเพื่อนร่วมงานเดิมที่น่ารักทั้งหลายที่สละเวลามาให้สัมภาษณ์ และให้คำแนะนำให้การปรับปรุงงานวิจัยครั้งนี้มากมาย ก็ถือเป็นโชคดีมือใหม่หัดทำวิจัยอย่างครูน้อยเป็นอย่างยิ่งที่ได้เริ่มต้นงานวิจัยชิ้นแรกอย่างราบรื่น และหวังว่าจะได้รับความกรุณาจากทุกท่านในโอกาสต่อๆ ไปด้วยนะคะ
ในช่วงแรกของการทำวิจัยนั้น จะเป็นช่วงทำ Pre-test ค่ะ อาจารย์ที่ปรึกษาให้คำแนะนำในเชิงปฎิบัติว่า ให้เริ่มต้นจากให้แปลงแบบสอบถามให้เป็นภาษามนุษย์ปกติทั่วไปก่อน แล้วให้ทำเป็นภาษาไทย โดยการแปลงเป็นภาษามนุษย์ปกตินั้น ก็เพื่อให้คนอ่านอ่านแล้วเข้าใจอย่างที่เราอยากให้เขาเข้าใจจริงๆ ซึ่งจะมีผลให้เขาสามารถให้คำตอบได้ตรงตามวัตถุประสงค์ที่เราอยากจะศึกษาและต้องการรู้ด้วย
ขั้นตอนนี้ อาจารย์แนะนำว่าคนคิดแบบสอบถามไม่ควรทำเอง ควรหาบุคคลอื่นมาอ่านแล้วลองทำดู ไม่เช่นนั้นตนเองอาจจะคิดว่ามันดีอยู่แล้ว เพราะตัวเองเป็นคนออกแบบมันขึ้นมา และอีกอย่างก็คือ คนคิดมักจะเข้าใจในเนื้อหาของแบบสอบถามดีอยู่แล้ว จึงต้องหาบุคคลที่ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนมาลองอ่านดู
ส่วนอีกขั้นตอนหนึ่งคือ การทำ pilot study คือเลือกบางกลุ่มที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมาคุยก่อน อาจจะให้ลองอ่าน หรือลองทำแบบสอบถามชุดย่อยๆ ดู แล้วดูว่าควรแก้ไขตรงไหน ก่อนจะทำการแก้ไขแบบสอบถามเป็นครั้งสุดท้าย
จากการทำ pilot study โดยการสุ่มสัมภาษณ์ผู้บริหารหลายท่านในหลายหน่วยงาน โดยใช้ข้อมูลคำถามส่วนใหญ่จากแบบสอบถาม ได้ผลที่น่าตกใจสำหรับครูน้อยเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่า กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่ไม่เข้าใจคำถามในแบบสอบถามที่เราใช้ ครูน้อยต้องเรียบเรียงคำถามใหม่เกือบทั้งหมดเพื่อให้ผู้ที่ถูกสัมภาษณ์เข้าใจว่าเรากำลังถามอะไร ยิ่งไปกว่านั้น หลายๆ คำนิยามที่ใช้ในแบบสอบถามก็คลุมเครือ และทำให้คนอ่านสับสน
ดังนั้น ครูน้อยจึงเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์ที่ปรึกษาแนะนำมา และท่านเน้นหลายครั้งมากว่า การทำ pre-test นั้นสำคัญที่สุด และให้ทำมากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เพราะจากประสบการณ์ที่ได้เจอมากับตัวนี้ ทำให้ได้กลับมาแก้ไขแบบสอบถามไปเยอะมาก อีกทั้งยังได้ความรู้ความเข้าใจในกระบวนการถ่ายทอดความรู้ในหลายหน่วยงาน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่องานวิจัยชิ้นนี้ และที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคตอีกด้วย
เมื่อแก้ไขแบบสอบถามเสร็จแล้ว ครูน้อยก็ได้ส่งแบบสอบถามออกไปยังหน่วยงานต่างๆ ค่ะ จากจำนวนประมาณเกือบสี่ร้อยชุด ได้รับกลับคืนมาประมาณ 45% หรือเกือบสองร้อยชุดค่ะ ก็จัดว่าได้รับความร่วมมืออย่างดีพอสมควรทีเดียว เมื่อเทียบกับงานวิจัยเชิงวิชาการในลักษณะเดียวกัน
จากนั้นก็เป็นช่วงสรุปผลการวิจัย และนำเสนออาจารย์ในขั้นต้นค่ะ อาจารย์ที่ปรึกษาท่านก็ค่อนข้างพอใจในผลการวิจัยพอสมควร และคิดว่างานวิจัยนี้น่าจะมีศักยภาพที่จะสามารถพัฒนาต่อเพื่อนำเสนอตีพิมพ์ได้ ซึ่งก็คงจะได้ทำต่อไปหลังจากที่ครูน้อยสรุปความสัมพันธ์ของตัวแปรต่างๆ เขียนในส่วน literature review และได้ทำการวิเคราะห์ในรายละเอียดอีกครั้งหนึ่งโดยใช้ research methodological tools ที่เหมาะสมแล้ว จากนั้น จึงจะเริ่มลงมือเขียนบทความในขั้นสุดท้ายค่ะ
ก็ขอจบในส่วนที่เกี่ยวกับ Independent Study ตัวแรกเพียงเท่านี้นะคะ แต่ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมที่น่าสนใจเกี่ยวกับรายละเอียดการใช้ research methodological tools หรืออื่นๆ ก็จะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมกันอีกนะคะ
จริงๆ ครูน้อยยังต้องทำ Independent Study อีกสองครั้งค่ะ ก่อนจะไปถึง Dissertation ที่จะเป็นงานวิจัยตัวจริงในชีวิตของนักศึกษาปริญญาเอกทุกคนได้ ก็คงได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการทำวิจัยที่แตกต่างกันไปให้ฟังเพิ่มเติมอย่างแน่นอนค่ะ
แต่ตอนนี้.. ก็คงต้องชวนทุกท่านไปอ่านต่อในเรื่องชีวิตการเรียนของครูน้อยในเทอมแรกของปีการศึกษาที่สองนี้กันก่อนนะคะ เพราะบทความของเดือนถัดไปมารออยู่แล้วล่ะค่ะ..
ไปอ่านกันต่อเลยนะคะ
ไม่มีความเห็น