เริ่มปีที่สองแล้วค่ะ บันทึกของครูน้อยในเดือนที่สิบสาม กันยายน 2551


ขึ้นปีสองแล้วค่ะ.. เทอมนี้ต้องเรียนอะไรบ้างหนอ..

เริ่มปีที่สองแล้วค่ะ.....บันทึกของครูน้อยในเดือนที่สิบสาม  กันยายน 2551

 

 

 

สวัสดีค่ะ ครูใหญ่

 

 

ต่อเนื่องกันมาจากบทความที่แล้วเลยค่ะ   ต้องขออภัยครูใหญ่และผู้อ่านทุกท่านอีกครั้งที่มาเล่าเรื่องการเรียนปีที่สองนี้ช้าไปหน่อย  ซึ่งเป็นผลมาจากการลงทะเบียนเรียนที่ยังไม่ลงตัว    แต่ตอนนี้เรียบร้อยดีแล้วค่ะ   ก็จะขออนุญาตเล่าเกี่ยวกับวิชาที่เรียนในเทอมแรกของปีที่สองนี้เลยนะคะ

 

 

หลักสูตรเนื้อหาการเรียนเทอมแรกในปีที่สอง

 

ในเทอมนี้ครูน้อยลงเรียนสามวิชาค่ะ  เป็น Coursework 2 วิชาและ Research 1 วิชา

ü      Seminar in Human Resource Management

ü      Causal Modeling in Marketing

ü      Doctoral Dissertation Research

 

 

ü                  Seminar in Human Resource Management   เรียนเกี่ยวกับ Human Resource Management  ทั้งทางด้านทฤษฎีพื้นฐานและการประยุกต์ใช้งานในองค์กร    โดยที่ลักษณะและรูปแบบการเรียนจะคล้ายคลึงกับวิชา Organizational Behavior ที่เรียนในเทอมที่แล้วมาก    แต่แตกต่างกันที่ level of concentration ซึ่ง HRM นี้จะเน้นการวิจัยในระดับ Individual มากกว่าในระดับ Team/Group หรือ Organization 

 

เนื่องจากงานที่ให้ในชั้นเรียนจะคล้ายคลึงกับวิชา Organizational Behavior มาก   ก็จะขอเล่าเพิ่มเติมในส่วนที่แตกต่างนะคะ     อย่างเช่น  การ lead class discussion  ถ้าเป็นวิชาเดิม  เราจะต้องทำคนเดียว   แต่วิชานี้ให้ทำเป็นคู่ค่ะ   และให้ทำสองครั้งในหนึ่งเทอม  โดยเราจะต้องเปลี่ยนคู่ด้วย   ซึ่งก็แปลกไปอีกรูปแบบหนึ่ง  เพราะเราจะต้องทำงานร่วมกับคนอื่นในการวางแผนเกี่ยวกับเนื้อหาของ class discussion ในหัวข้อนั้น  รวมถึงแบ่งหน้าที่กันจัดการให้การเสนอความคิดเห็นต่างๆ ในชั้นเรียนเป็นไปอย่างราบรื่น

 

อีกอย่างที่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างกันมากคือวิชานี้จะไม่เน้นด้าน application มากเท่าวิชาที่แล้ว   แต่จะเน้นเรื่องการทำความเข้าใจในส่วนที่เป็น empirical support information ของแต่ละบทความค่อนข้างมาก    ซึ่งอาจจะมีผลมาจากการที่อาจารย์ผู้สอนค่อนข้างถนัดการทำวิจัยมากกว่าการประยุกต์ก็เป็นได้ค่ะ    แต่ก็ทำให้ได้ความรู้เพิ่มเติมซึ่งน่าจะมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการทำวิจัยของครูน้อยในอนาคต

 

         

ü                  Causal Modeling in Marketing   และวิชานี้ก็เป็นหนึ่งในวิชาที่ต้องเรียนเพราะครูน้อยเลือก minor ในสาขาการตลาดค่ะ    อาจารย์ผู้ดูแลวิชา minor ก็เลยให้ลงเรียนวิชานี้   เพราะท่านสอนเอง   และอีกอย่างก็สามารถนำความรู้ที่ได้มาใช้ประกอบการทำวิจัยได้ด้วย   เนื้อหาการเรียนก็เกี่ยวกับ research methodological tools ต่างๆ เช่น Structural Equation Modeling และ Latent Growth Curve Modeling  (ตอนนี้ห้ามถามครูน้อยเด็ดขาดว่ามันต่างกันยังไงนะคะ   แต่คาดว่าก่อนจบเทอมควรจะตอบได้ค่ะ)   เนื้อหานอกจากมีทั้งทฤษฎีที่ยากโหดหินเป็นที่ทราบกันดีไปทั่วทุกภาควิชาแล้ว   ก็ยังมีส่วนที่เป็นประยุกต์    ซึ่งต้องยอมรับว่า  อาจารย์ผู้สอนค่อนข้างรู้จริง  และทำวิจัยให้บริษัทต่างๆ มาค่อนข้างมาก    จึงสามารถให้ตัวอย่างการประยุกต์ใช้ได้น่าสนใจ  ทำให้การเรียนไม่น่าเบื่อ  (แต่มันยากมากเลยค่ะ ขอบอก)   ส่วนการบ้านต่างๆ  จะเป็นการฝึกหัดทำ analysis โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ประกอบไปตลอดทั้งเทอมค่ะ

 

 

ü                  Dissertation Research    ตัวนี้เหมือนเทอมที่แล้วเลยค่ะ   ครูน้อยเลือกลงวิชานี้เพื่อใช้เวลาในการวิจัยร่วมกับอาจารย์ค่ะ   ไม่มีนักศึกษาปีสองคนไหนไม่ทำเช่นนี้เลย   ทั้งนี้ก็เพื่อที่จะได้จัดสรรเวลาในการทำวิจัยได้มากยิ่งขึ้น    ตอนแรกครูน้อยทำเป็นเก่งค่ะ  ไม่ยอมลง   แต่ไปลงตัว Coursework ในวิชา Econometrics แทน  สุดท้ายก็ไม่ไหวค่ะ  ผ่านไปได้สองอาทิตย์ก็ทำท่าจะตายเอา   เลยต้องไป drop ก่อนแล้วเอาไว้ไปลงใหม่อีกทีตอนปีสามเทอมแรกแทน     สำหรับ research ของเทอมนี้  ได้คุยกับอาจารย์ไปบ้างแล้ว    และคงจะเริ่มทำในเดือนตุลาคมนี้ค่ะ   หากมีความคืบหน้าที่น่าสนใจก็จะมาเล่าสู่กันฟังอีกครั้งนะคะ

 

 

จบแล้วค่ะบันทึกแรกของปีที่สอง     คราวต่อไปจะพยายามมาส่งงานให้ตรงเวลานะคะ   แต่ถ้าหากช้าไปบ้าง  ก็ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้าเลย   เทอมนี้งานเยอะมากๆ เลยค่ะ   หลายคนบอกว่าเรียนปริญญาเอกปีแรกหนักที่สุด   แต่ครูน้อยว่าไม่จริงเลยค่ะ   จริงๆ มันหนักขึ้นเรื่อยๆ     แต่เป็นเพราะว่าเราชินกับปริมาณงาน  และรู้วิธีรับมือหรืออีกนัยหนึ่งบริหารเวลาได้ดีขึ้นต่างหาก  ทำให้เรารู้สึกว่ามันไม่หนักเท่าเดิม   หาใช่เป็นเพราะมันเบาขึ้นไม่     แต่จะหนักหรือเบาก็คงต้องอดทนรับไว้ให้ได้ทั้งหมดนั่นแหละค่ะ   ก็ตัดสินใจมาเรียนแล้วนี่นา   ยิ่งมีนักศึกษาที่น่ารักรอให้กลับไปสอนอยู่ตั้งเยอะ   ก็ต้องพยายามให้มากยิ่งขึ้นไปอีกอยู่แล้วล่ะค่ะ

 

 

เจอกันเดือนหน้านะคะ

คำสำคัญ (Tags): #km#knowledge management
หมายเลขบันทึก: 213810เขียนเมื่อ 3 ตุลาคม 2008 12:37 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

กำลังนึกถึงอาจารย์อยู่พอดี ดีใจที่การวิจัยในเมืองไทยดำเนินไปด้วยดี อาจารย์อย่าลืม confidentially feedback หน่วยงานที่ไปขอเก็บข้อมูลด้วยนะครับ เพื่อเป็นการตอบแทนเขาทางอ้อม

คุณค่าอย่างหนึ่งของการทำปริญญาเอกในมหาวิทยาลัยที่เน้นคุณภาพ คือประสบการณ์ที่ต้องเอาชนะอุปสรรค เอาชนะความเครียดอย่างสุดๆ นศ. ปริญญาเอกน้อยคนที่จะไม่เผชิญภาวะนี้

วิจารณ์

-สมกับที่รอคอยเกือบ 4 เดือน ขออนุญาตอาจารย์เก็บเกี่ยวความรู้ด้วยคน

-แง่มุมหลากหลายต่อการศึกษา ตปท.เปรียบเทียบกับมหาวิทยาลัยในประเทศ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

-จิตคารวะครับ

สวัสดีค่ะครูน้อย

ดิฉันได้อ่านบันทึกของครูน้อยเกือบทุกครั้งค่ะ ได้ความรู้เเละกำลังใจมากค่ะ ขอให้เขียนเรื่อยๆน่ะค่ะ ตอนนี้ดิฉันเองก็ทำป.เอก เกี่ยวกับ KM เหมือนกัน เเต่ที่ไม่เหมือนกันคือมหาลัยที่นี่เค้าจัด KM ให้อยู่ภายใต้คณะของไอที บางครั้งทำให้ดิฉันเองสับสนมาก อ่านไปอ่านมาก็เกิดคำถามกับตัวเองว่าตัวเองกำลังทำเกี่ยวกับ Management หรือ IT. เวลาปรึกษากับอาจารย์ทุกครั้งก็ถามเค้าเกี่ยวกับสิ่งที่ตัวเองสงสัย เเต่คำตอบที่ได้มาคืออยู่ภายใต้ IT เพราะไอทีจะเป็น Enabler ให้กับ Sucessful KM. อ่อ ลืมเล่าไปว่า ที่นี่เค้าไม่มีคอร์สเวิก ตัวเองก็ไม่เคยเรียน KM มาก่อนเลย ทุกอย่างต้องเรียนรู้เองหมด ไม่ว่าจะเป็นงานวิจัยหรือการเขียน Journal หรือ Conference paper. เคยท้อเเละอยากเลิกเรียนหลายครั้งน่ะค่ะ เเต่คิดอีกที่ก็เสียดายเพราะได้เก้าเข้ามาเเล้ว ไม่รู้จะทำไงดี

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชมและให้ความคิดเห็นนะคะ

ขออนุญาตตอบคุณ Sureena ค่ะ

ยินดีที่ข้อความในบล็อกนี้ให้ความรู้และสามารถเป็นกำลังใจให้คุณ Sureena ได้นะคะ เรื่องการจัด KM อยู่ภายใต้คณะ IT ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ จริงๆ ต้องบอกว่า KM มีอยู่ในหลายๆ คณะในมหาวิทยาลัยเดียวกันด้วยซ้ำ เพียงแต่ focus จะไม่เหมือนกันไปตามแต่ละคณะอย่างแน่นอนค่ะ ถ้าอยู่ในไอที งานวิจัยของอาจารย์และ นศ. ก็คงจะต้องเน้นการใช้ไอทีเพื่อประโยชน์ทาง KM เป็นหลัก (ซึ่งจริงๆ KM ก็ใช้ไอทีเยอะอยู่แล้วนะคะ) แต่ถ้า KM อยู่ในคณะการจัดการ แบบที่ครูน้อยเรียนอยู่นี้ ครูน้อยก็สามารถเลือกทำงานวิจัยที่เน้น IT เป็น enabler ได้เหมือนกันนะคะ เพียงแต่จุดเน้นของงานวิจัยคงไม่ได้อยู่ที่โครงสร้างงานด้านไอทีเป็นหลักเท่านั้นเองค่ะ

อย่างที่ครูน้อยเรียน ถ้าพูดถึง KM อย่างเดียว ก็ไม่มี coursework ค่ะ (นอกจากสัมมนาที่อาจารย์จัดเสริมให้สี่ครั้งเมื่อเทอมที่แล้ว) ก็ต้องอ่านและเลือกทำ paper ด้านนี้เองเหมือนกัน แต่ตัวเองได้เรียน coursework ด้านอื่นๆ ค่ะ ซึ่งก็มีเกี่ยวข้องกับ KM อยู่บ้าง เช่นในวิชาของ Organizational Behavior หรือ Human Resource Management ที่ได้เล่าไปบ้างแล้ว

เพราะฉะนั้น เลยอยากบอกคุณ Sureena ว่าหลายๆ ที่ก็ไม่ได้เปิดสอน KM โดยตรงนะคะ เราต้องอ่านเองเยอะมากอยู่เหมือนกัน ลองคิดดูดีๆ อีกทีนะคะ ถ้าตั้งใจทำงานวิจัยที่เน้นการนำไอทีไปใช้ใน KM อยู่แล้ว ที่คุณเรียนอยู่ก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดีอยู่แล้วล่ะค่ะ

ก็เป็นกำลังใจให้เช่นกันนะคะ

ครูน้อย

อ่านแล้วรับรู้ถึงความมหาโหดของปีนี้เลยค่ะครูน้อย

คำถามสำหรับครูใหญ่และครูน้อยค่ะ "confidentially feedback " คืออะไรคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท