รอยรำลึกปากเซแห่งลาวใต้


         หลังจากผู้เขียนได้เดินทางไปเยี่ยมชมนครจำปาสักอดีตนครหลวงลาวใต้และไปเยี่ยมชมโบราณสถานปราสาทวัดพูศิลปะขอมโบราณจนถึงเย็นจึงได้เดินทางข้ามแม่น้ำโขงด้วยแพขนานยนต์เมื่อตะวันพลบค่ำข้ามฝั่งกลับมายังเมืองปากเซ เมืองที่ใหญ่ที่สุดในแขวงจำปาสัก รับประทานอาหารเย็นที่ร้านอาหาร เรือนแพแคมของ เสร็จแล้วเข้าพักที่ โรงแรมสายลมเย็น 2 เป็นโรงแรมที่สะอาดสะอ้านปลูกดอกไม้สวยงาม ผู้คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่ เงียบสงบดี

[โรงแรมสายลมเย็น 2]

 

[ภาพวาดในล็อบบี้โรงแรมสวยงามมาก]

 

[ตอนเย็นหลังรับประทานอาหารที่โรงแรมก็มีน้องนักเรียนจากโรงเรียนมัธยมปลายปากเซมาแสดงนาฎศิลป์ร่ายรำเพื่อเป็นการสื่อแสดงประเพณีวัฒนธรรมของพี่น้องชาวลาวให้ได้ชม]

 

[มีการฝึกเต้นรำบาสโลบให้กับแขกต่างถิ่นผู้มาเยือนชึ่งการมาแสดงในครั้งนี้มีครูผู้หญิงเป็นผู้นำนักเรียนมาแสดง ผู้ชมที่นั่งชมต่างก็สนุกสนานเพลิดเพลินและก็มีน้ำใจเล็กๆน้อยๆมอบเงินให้คณะครูและน้องนักเรียนเป็นค่าตอบแทน]

 

[บรรยากาศเมืองปากเซยามเช้าท่ามกลางสายฝนหน้าร้านอาหารทานตะวัน และซุ้มประตูทางเข้าตลาดดาวเรืองซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในเมืองปากเซ]

 

[สภาพบรรยากาศบนถนนหน้าทางเข้าตลาดดาวเรือง มีตึกรามบ้านช่องทันสมัย จากการพูดคุยกับชาวบ้านแถวนั้นบอกว่ารถยนต์ส่วนใหญ่สั่งนำเข้าจากไทย เสียค่าภาษีจะบวกเพิ่มจากราคาค่ารถยนต์มากกว่าราคาในไทยโดยประมาณสองแสนกว่าบาท]

 

[วิถีชาวบ้านร้านค้าเล็กๆข้างทาง]

 

[ผ้าขาวที่ใสซื่อรอคอยการแต่งแต้มด้วยน้ำมือของผู้ที่เกิดก่อน]

 

[บันได กับ บันได]

 

[และบันได ล้วนแต่เป็นบันได]

 

[บันไดพาคนสู่เบื้องสูงได้ฉันใด บันไดย่อมพาคนสู่เบื้องต่ำได้ฉันนั้น...เช่นกัน]

สักทอง ร่มไม้ใหญ่ใกล้ทาง

หมายเลขบันทึก: 214137เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2008 08:09 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (3)

บันไดมีขึ้นมีลงนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท