เหตุผลน่าทึ่ง 5 ประการ ที่คนเราต้องออกกำลังกาย (ตอนที่ 2)


ประโยชน์ของการออกกำลังกาย

เหตุผลน่าทึ่ง 5 ประการ ที่คนเราต้องออกกำลังกาย

 

(ตอนที่ 1)

 

                พวกเราส่วนใหญ่ทราบว่าการออกกำลังกายเป็นผลดีสำหรับร่างกายและจิตใจ  แต่แท้จริงแล้วการออกกำลัยกายมีประโยชน์มากกว่าที่เราคิดไว้มากมาย 

                เมื่อเร็วๆนี้ผู้เขียนได้อ่านบทความเรื่องเหตุผลน่าทึ่ง 5 ประการที่คนเราควรออกกำลังกายจากหนังสือ Reader's Digest แต่ละเหตุผลมีผลการวิจัยทางการแพทย์สนับสนุนครับ  จึงขอถ่ายทอดให้ผู้อ่านได้ทราบดังต่อไปนี้

                เหตุผลที่หนึ่ง  การออกกำลังกายช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย  (It boosts the immune system.)

            จากการวิจัยพบว่าเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ความสามารถในการต่อสู้กับเชื้อโรคและการต่อต้านการติดเชื้อจะมีน้อยลง ร่างกายเราจึงเริ่มอ่อนแอมากขึ้นเมื่ออยู่ในสูงวัย  จากหลักฐานการวิจัยทางการแพทย์ที่ติดตามกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุ (สูงวัย) ที่ออกกำลังกายระดับปานกลาง (moderate exercise) สัปดาห์ละ 6 ชั่วโมง อย่างสม่ำเสมอ เป็นเวลานาน จะมีระบบภูมิคุ้มกันเท่ากับคนอายุในวัย 20 ปี (วัยหนุ่มสาว)

                เห็นไหมละครับว่าการออกกำลังกายมีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้เข้มแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ใหญ่และสูงวัย 

              วันนี้คุณออกกำลังกายแล้วหรือยัง (ออกกำลังกายเบาๆ ไม่ต้องหักโหมครับ)

 

(ตอนที่ 2)

 

                ต่อไปขอเริ่มเหตุผลน่าทึ่งที่สอง นะครับ

                เหตุผลที่สอง - การออกกำลังกายช่วยป้องกันโรคพาร์กินสัน (Parkinson) ได้  (It guards against Parkinson's)

                โรคพาร์กินสันคืออะไร  จากสารานุกรมวิกิพีเดีย ได้ให้ความหมายของโรคพาร์กินสัน ไว้ว่าเป็นโรคทางระบบประสาทที่พบได้บ่อย เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุเป็นส่วนใหญ่ คนไทยเรียกว่าโรคสั่นสันนิบาต โรคพาร์กินสันเป็นโรคที่รู้จักกันครั้งแรกในวงการแพทย์ในปี พ.ศ. 2360 หรือเกือบ 200 ปีมาแล้ว โดยนายแพทย์เจมส์ พาร์กินสัน ชาวอังกฤษ เป็นผู้รายงานโรคพาร์กินสันเป็นคนแรก  โรคพาร์กินสันเกิดจากการเสียสมดุลของสารโดปามีนในสมอง เซลล์สมองส่วนที่สร้างโดปามีนตายไปมากกว่าร้อยละ 80 โดปามีนเป็นสารเคมีในสมอง ทำหน้าที่ควบคุมระบบการเคลื่อนไหวของร่างกาย เมื่อสมองขาดโดปามีน จึงเกิดอาการเคลื่อนไหวผิดปกติขึ้น

                ทีนี้การออกกำลังกายช่วยป้องกันโรคพาร์กินสันอย่างไร  จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัย Harvard ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยศึกษากลุ่มตัวอย่างที่เป็นเพศชาย 48,000 คน พบว่า ผู้ชายที่กระฉับกระเฉงมากและออกกำลังกายสม่ำเสมอมีโอกาสเป็นโรคพาร์กินสันน้อยลงกว่าร้อยละ 50  เมื่อเทียบกับกลุ่มผู้ชายที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกายหรือมีความกระฉับกระเฉงของร่างกายน้อยกว่า  และยังพบผลการวิจัยเพิ่มเติมอีกว่ากลุ่มตัวอย่างที่กระฉับกระเฉงและออกกำลังกายมาตั้งแต่ยังหนุ่ม(สาว) มีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคพาร์กินสันลดลงถึงร้อยละ  60 

            ครับถ้าท่านผู้อ่านยังไม่อยากเป็นโรคสั่นสันนิบาตในยามเฒ่าชราสูงวัย ก็เตรียมตัวออกกำลังกายไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ นะครับ  พอเป็นโรคนี้แล้วมันช่วยตัวเองไม่ได้ จะสร้างความลำบากให้กับลูกหลานเปล่าๆ  มาออกกำลังกายกันเถอะ

                โปรดติดตามเหตุผลที่ 3  การออกกำลังกายช่วยชะลอการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก ในตอนต่อไปครับ

หมายเลขบันทึก: 214188เขียนเมื่อ 5 ตุลาคม 2008 15:11 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:31 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (14)

สวัสดีครับ

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำ

ของดีๆ แต่ผมไม่ค่อยได้ทำ ต้องสละเวลาทำบ้างแล้ว

  • ขอจองไว้ก่อนนะครับอาจารย์ ไปออกกำลังกายก่อน แล้วจะเข้ามาใหม่
  • ขอบคุณครับพี่บำ
  • ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายแล้วจะมีความเสี่ยงเป็นโรคพารืกินสัน ๖๐ % ด้วยเหมือนกันหรือป่าวครับ
  • งั้นคงต้องบังคับตัวเองให้ออกกำลังกายบ้างแล้ว
  • เด๋วขออ่านประโยชน์ที่พี่จะนำเสนอให้ครบก่อนละกัน
  • คือว่ากลัวผอมแล้วจะสวยอ่ะพี่          
  • อาจารย์บำรุงครับ ผมเคยอ่านเจอทำนองว่า การออกกำลังกายหรือการบำรุงรักษาร่างกาย ให้สมบูรณ์แข็งแรง จะขึ้นอยู่กับธาตุทั้งสี่(ดิน-น้ำ-ลม-ไฟ)ในแต่ละคนด้วย แต่จำไม่ได้แล้วว่าธาตุแต่ละธาตุจะแปลผันกับการออกกำลังกายแต่ละชนิดอย่างไร หรือคนธาตุใดจะเหมาะสมกับการออกกำลังกายชนิดใด
  • ถ้าอาจารย์มีข้อมูลก็เพิ่มเติมให้ผมหน่อยนะครับ
  • ขอบคุณมากครับ 

วิ่งมาก ๆ แล้วเริ่มเจ็บเข่า จะออกกำลังกายแบบไหนดีครับ ?

ว่ายน้ำซิครับ ได้ประโยชน์แทบจะครบทุกอย่างเลย แถมน้ำยังช่วยพยุงตัวไม่ให้น้ำหนักมามีปัญหาต่อข้อต่อส่วนต่างๆ ของร่างกายด้วย กล่าวคือ

1.ได้ออกกำลังกายเกือบทุกส่วนของร่างกาย

2.ระบบการหายใจสม่ำเสมอ (ถ้าไม่สม่ำเสมอก็สำลักน้ำซิครับท่าน)

3.ได้ดูสาวๆ (สุภาพสตรีก็ได้ดูหนุ่มล่ำบึ๊ก) ทำให้จิตใจกระชุ่มกระชวย

4.ว่ายน้ำเสร็จก็นั่งดื่มน้ำผลไม้ปั่น คุยกับสาวหรือหนุ่มที่เล็งไว้ (ถ้าเค้ามีเจ้าของก็ตัวใครตัวมันนะครับ)

5.ถ้าวันหนึ่งว่ายน้ำได้ซัก 30 นาทีขึ้นไป รับรองคืนนั้นหลับสบาย

6.อื่นๆ อีกมากมาย

หมายเหตุ สำหรับผู้สูงอายุ น้ำหนักมาก แถมยังว่ายน้ำไม่เป็น ให้ใช้การเดินในน้ำแทนก็ได้นะครับ อาจจะไม่ได้ผลมากเหมือนว่ายน้ำ แต่เป็นการออกำลังกายที่ดีต่อข้อต่อครับ

  • อาจารย์บำรุงครับ นอกจากการออกกำลังกายแล้ว อาจจะต้องเอาใจใส่ในเรื่องต่อไปนี้ประกอบด้วยนะครับ
  • ทานอาหารให้ครบทุกมื้อ
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • หลีกเลี่ยงความเครียดจากการทำงาน
  • ลดการทานของหวานหรือน้ำตาลให้น้อยลง
  • .......ฯลฯ........

*ขอบคุณครับสำหรับทุกความเห็น และรูปสวยๆ ที่โพสต์

*คุณป้อม ถ้าวิ่งแล้วปวดเข่า สงสัยต้องเปลี่ยนเป็นกีฬาอื่นที่ใช้เข่าน้อยลงครับ

*ขอบคุณเสธ ปรินซ์ที่แนะนำกีฬาว่ายน้ำ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ

*ขอบคุณ คุณ liverbird ที่ให้คำแนะนำเพิ่มเติม เห็นด้วยครับ แต่ความเครียดจากงานมักจะขจัดได้ยากนะครับ

*ขอบคุณทหารอากาศฯ และคุณแอ๊ดที่โพสต์รูปได้น่ารักมากครับ

*ขอบคุณ ผศ เพชรากร และป้าแดงครับที่ให้ความคิดเห็น

แวะมาอ่านตอนที่สองครับ...

ครูบอกว่าว่ายน้ำเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด

แต่พอดีที่บ้าน/แถวบ้านไม่มีสรุว่ายน้ำ จึงได้แต่วิ่งครับ

แหะ แหะ ขอแก้หน่อยครับ

แต่พอดีที่บ้าน/แถวบ้านไม่มีสรุว่ายน้ำ จึงได้แต่วิ่งครับ

แต่พอดีที่บ้าน/แถวบ้านไม่มีสระว่ายน้ำ จึงได้แต่วิ่งครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท