“ดื่มอย่างไรจึงจะไม่ทำให้การออกกำลังกายเสียเปล่า”
ท่านตับนก(liver bird) ได้ให้ความเห็นส่วนหนึ่งในเรื่องการออกกำลังกายที่ผมเขียนมาในครั้งที่แล้วว่า “เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์เป็นศัตรูคู่อาฆาตกับการออกกำลังกาย” ตอนแรกผมว่าจะตอบในบันทึกนั้นเลย แต่เขียนไปเขียนมาเห็นว่ายาวพอสมควร ก็เลยเปิดบันทึกใหม่ดีกว่า ขอเรียนว่าอันที่จริงแล้วไม่ใช่มีแต่เครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์เท่านั้นหรอกครับ ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกตั้งเยอะแยะ เช่น สูบบุหรี่ อาหารไขมันสูง น้ำอัดลม พักผ่อนไม่เพียงพอ อดนอน ความเครียด ฯลฯ ก็ต้องศึกษาและปฏิบัติกันไปตามความเหมาะสมนะครับ ส่วนคำถามที่ว่าผมบริหารจัดการการบริโภคเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์กับการออกกำลังกายอย่างไรนั้น ขอสรุปสั้นๆเป็นข้อๆ เพื่อความเข้าใจง่ายนะครับ
1. เลือกโอกาสที่เหมาะสมที่จะดื่ม ไม่ดื่มเปะปะ หรือที่เรียกว่าดื่มเป็นงานเป็นการหรือดื่มเพื่อสังคม มิใช่ดื่มจนเป็นนิสัย เช่น ถ้าท่านตับนกเลี้ยงผมจะไป แต่ถ้าให้ผมเลี้ยงผมจะปฏิเสธ เป็นต้น (น่าคบมั๊ยเนี่ย...)
2. กำหนด Limit ของการดื่มในวันนั้นๆ โดยพิจารณาสภาพร่างกายของเราว่าเรามี Limit แค่ไหน และวันนี้เราจะ Limit ตัวเองแค่ไหน (คนเราทุกคนมีสุขภาพร่างกายแตกต่างกันย่อมมี Limit รวมทั้งพรสวรรค์ในการดื่มไม่เท่ากันหรือที่เรียกว่า “คออ่อน คอแข็ง” ยังไงล่ะครับ ) เช่นวันนี้ผมแข็งแรงดี พักผ่อนเพียงพอ ไม่ต้องขับรถ อาจจะมี Limit สูงสุดได้ 10 แก้ว แต่งานนี้เป็นงานเลี้ยงพิธีการกับผู้บังคับบัญชา ก็คงจะดื่มพอเป็นพิธี Limit ตัวเองไว้ 3 แก้ว แต่ถ้าเป็นการสังสรรค์กับเพื่อนสนิทเช่นท่านตับนก ก็อาจจะดื่มจนเต็ม Limit 10 แก้ว เป็นต้น
3. แอลกอฮอล์เป็นปฏิปักษ์กับร่างกาย ร่างกายจึงพยายามขับออกอยู่ตลอดเวลา โดยทางปัสสาวะ ทางเหงื่อ และแม้กระทั่งลมหายใจ ดังนั้นการเต้นรำ จึงเป็นการขับแอลกอฮอล์อย่างหนึ่ง
4. จริงอยู่ที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วจะไปทำร้ายร่างกาย แต่คงไม่ถึงขนาดดื่ม 1 วัน ต้องออกกำลังกาย 2 เดือนอย่างที่ท่านตับนกว่าหรอกครับ การฟื้นตัวที่รวดเร็วประกอบด้วย ก่อนนอนให้รับประทานขนมหวานเล็กน้อย นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ถ้าทำได้เช้าลุกขึ้นมาออกกำลังกายให้เหงื่อออกซะหน่อย รับประทานอาหารเช้าจำพวกไข่หรือนม ไปทำงานตามปกติ แล้วเย็นๆ ออกกำลังกายอีกครั้ง แค่นี้ก็แทบจะกลับสู่สภาพเดิมแล้วครับ
5. ที่ผมว่ามานี่หมายถึงนานๆ ครั้งนะครับ ไม่ใช่ดื่มทุกวัน ถ้าอย่างนั้นให้ออกกำลังกายเท่าไหร่ก็ไม่ไหวหรอกครับ ดื่มอย่างเดียวให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยดีกว่า
หมายเหตุ เรื่องนี้เป็นวิธีการส่วนตัว ไม่ได้มีเจตนาส่งเสริมให้ดื่มเครื่องดื่มมีแอลกอฮอล์นะครับ
หลังดื่มแล้ว ไม่เคยลุกมาออกกำลังกายเลยค่ะ...แฮงค์
อยากทราบว่าผู้เขียนแก้"ความเครียด" ที่กำลังเผชิญอยู่อย่างไรละจ้ะ( ฮ่า...ฮ่า....ฮ่า ) สม....
การดื่มกับการออกกำลังกายมันไม่น่าจะไปด้วยกันได้เลยนะครับท่าน
พระท่านบอกว่าการดื่มแต่พอดีจะเป็นยา "การดื่มสุราเป็นระยะระยะเป็นยาชูกำลัง"
ที่จักรีนฤเบศรปฏิบัติเป็นหลักประจำตัว หลังผ่านคืนการดวลดื่มก็คือ กินยาบำรุง ซัดนมสดตราหมี อาหารเช้าอย่าขาด ตบท้ายด้วยกาแฟหอม ๆ เท่านี้ก็ไปทำงานได้ตามปกติ
เรื่องการดื่มขอเม้าท์นิดนึง สมัยเป็น เรือตรี-เรือโท อายุ 25 - 27 ไปดื่มกลับตี 4 ตี5 นอนซัก 3 ชม. ก็ทำงานได้ เย็น ๆวิ่งออกกำลังซัก 1 ชม. ค่ำ ๆ ก็ไปใหม่ได้ ตอนเรือเอก อายุ 30 ออกไปดื่มต้องกลับก่อน ตี3 นอนซัก 5 ชม.ก็ OK เย็น ๆ วิ่งออกกำลังกาย ค่ำลุยอีกได้ พอขยับเป็นนายนาวา(นายพัน) ลองทำแบบเดิมดูปรากฏว่า แฮ๊งค์ ทำงานไม่รู้เรื่องและยังต้องพักไปอีก 1 วัน เสียการงาน แสดงว่าการดื่มขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ถ้าร่างกายแข็งแรงก็ดื่มได้มาก เพราะฉะนั้นเราคงดื่มแต่พอเพียงก็พอ
วันนี้ประชุมทั้งเช้าและบ่ายเลยวุ้ย
ประชุมช่วงเช้าเสร็จแล้ว
ระหว่างประชุม ได้ไอ้นี่มาฝาก
1-2-3-4-5 ทั้งหมด 5 ท่านที่เข้ามาแสดงความคิดเห็น
ท่านที่ 1 น้องพิมดื่มเป็นด้วยเหรอ...???
ท่านที่ 2 ท่านตับนก รีบเข้ากอทอมอมานับแก้วได้เลยครับ รอท่านจนม๊อบล้อมที่ทำงานเต็มไปหมดแล้ว
ท่านที่ 3 ท่านทหารอากาศ คราวหน้าจะเขียนเรื่อง กิน กิน กิน เอาใจท่านล้วนๆ เลย แต่ตอนนี้ยังไม่มีไอเดีย ผมว่าพรุ่งนี้เราไปหาอะไรอร่อยๆ กินกันก่อนดีมั๊ย แล้วค่อยกลับไปเขียนบันทึกที่บ้าน
ท่านที่ 4 ท่านคนคลัง ขอบคุณครับที่เป็นห่วง พันธมิตรโทรมาขอโทษผมแล้วครับ
ท่านที่ 5 ท่านจักรีนฤเบศร จริงของท่านครับ ขอแสดงความยินดีกับเป็ดแดงด้วยนะครับ
เมื่อก่อนเคยดื่ม แต่เดี๋ยวนี้เลิ๊กแล้วค่ะ
ขอบคุณแม่น้องพริกไทยครับ ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้เหมือนเหรียญครับ มีสองด้านเสมอครับ