จริงหรือ ? ที่มนุษย์ต้องอพยพสู่ดาวอังคาร อีก 10 ปีข้างหน้า


จริงหรือ ? ที่มนุษย์ต้องอพยพสู่ดาวอังคาร อีก 10 ปีข้างหน้า

            เรื่องที่กำลังจะบันทึกเป็นเรื่องที่กล่าวกันมาหลายสัปดาห์แล้ว โดยเฉพาะในช่วงที่ ดร.อาจอง มาออกรายการเรื่องเด่นเย็นนี้กับคุณสรยุทธ ก็เป็นประเด็นที่ถกเถียงกันในวงกว้าง ส่วนใหญ่เป็นความกังวลในเรื่องที่เกี่ยวกับความปลอดภัยและอยู่รอดของตัวเองและครอบครัว

            ในระยะเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมา เรารับรู้เรื่องการปรวนแปรของธรรมชาติจากภาวะโลกร้อน ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนัก แผ่นดินไหว เกิดพายุรุนแรงในภูมิภาคต่าง ๆ ปัญหากัดเซาะชายฝั่ง อุณหภูมิของโลกสูงขึ้นจนทำให้คนล้มตาย ล่าสุดคำเตือนจากนักวิทยาศาสตร์ไทยภายใน 30 ปี น้ำจะท่วมภาคกลางของไทยเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้นจากน้ำแข็งขั้วโลกละลาย

            ดร.อาจอง กล่าวว่า ตอนนี้ดินฟ้าอากาศเปลี่ยนแปลงไปเยอะทุกอย่างมาจากภาวะโลกร้อน จะเห็นปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ในประเทศไทยที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ที่ผ่านมาเวียดนามมีหิมะตกเป็นครั้งแรก ล่าสุดมีหิมะตกในเคนยาประเทศเหล่านี้อยู่ใกล้เส้นศูนย์จึงไม่ต้องตกใจหากใน เดือนมกราคมหิมะจะตกในเมืองไทย เดือนมกราคม อากาศจะเย็นที่สุด หิมะน่าจะตกในภาคเหนือ   และให้ระวังเขื่อนในกาญจนบรีจะแตกจากแผ่นดินไหวเพราะมีรอยเลื่อน 2 รอยใหญ่ จนส่งผลให้เกิดน้ำท่วมใหญ่

             เมื่อย้อนไปยังยุคน้ำแข็งตอนนั้นอากาศหนาวเกือบจะทั่วโลกมีหิมะตก น้ำเหล่านี้หมุนเวียนไปเป็นน้ำแข็ง มีน้ำสะสมอยู่บนภูเขา ตรงขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ ถ้าเราเปรียบเทียบ ตอนนั้นน้ำจากระดับน้ำทะเลระเหยขึ้นไปตกมากลายเป็นฝนและหิมะทำให้ระดับน้ำ ทะเลลดลง ตอนนั้นระดับน้ำทะเลอยู่ต่ำกว่าระดับปัจจุบัน 120 เมตร และถ้าน้ำแข็งละลายหมดระดับน้ำทะเลสูงขึ้น 120 เมตรเพราะระดับน้ำทะเลไม่ได้หายไปไหนหมุนเวียนอยู่บนโลก  เมื่อเป็นอย่างนี้ก็หมายความว่าน้ำในทะเลสูงขึ้นจะค่อย ๆ กินฝั่งของไทยไปเรื่อย ๆ อย่างเขตบางขุนเทียนที่กรุงเทพฯ เราสูญเสียแผ่นดินไปแล้ว 1 กิโลเมตร

             ภาวะโลกร้อนแผ่อานุภาพไปทั่วโลก ดูเหมือนว่าจะเป็นปัญหาที่ยากจะเยียวยา อาจตรงกับคำทำนายของนอสตราดามุสว่าโลกจะแตก แต่ทางวิทยาศาสตร์บอกว่าไม่ได้หมายความว่าแตกสลายเป็นเสี่ยง ๆ จะพังเพราะน้ำท่วม แผ่นดินไหว อุณหภูมิสูงขึ้น ทำให้มนุษย์อยู่อย่างลำบาก ประกอบกับจำนวนประชากรของโลกเพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน จำนวนผู้บริโภคมากขึ้นทำให้โลกยิ่งร้อน ซึ่งมีคนคิดถึงทางออกของปัญหานี้ไว้แล้ว

             ดร.อาจอง เล่าว่า องค์การนาซา มีโครงการจะไปเริ่มสร้างเมืองในอวกาศ โดยเลือกพื้นที่ดาวอังคารเพราะมีสภาพเหมือนกับโลก ขณะที่ดาวดวงอื่นเต็มไปด้วยอากาศพิษ ดาวพุธอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์เกินไป ดาวพฤหัสฯมีสภาพเป็นกรด ดาวอังคารแม้อากาศหนาวและมีสภาพไร้น้ำหนัก แต่มนุษย์อยู่ได้ด้วยการไปสร้างเมืองกระจกทำให้มีแรงโน้มถ่วงเหมือนกับอยู่ บนโลกได้ เพราะสภาพไร้น้ำหนักทำให้กระดูกเราอ่อนไม่แข็ง กล้ามเนื้อจะหายไป ใน เบื้องต้นจะส่งคนออกไปสร้างอุตสาหกรรมในอวกาศ ใช้วัตถุดิบจากดวงจันทร์ของดาวอังคาร ซึ่งมีอยู่ 2 ดวง จะมีสารทุกอย่างที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก ยิปซัม แร่ธาตุต่าง ๆ และการ ขนย้ายแร่ธาตุเหล่านี้จะเป็นไปโดยง่ายบนสภาพไร้น้ำหนัก

             มีการวางแผนว่ามนุษย์ครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องอพยพไปอยู่บนดาวอังคาร มีการออกแบบสร้างเมืองจะแบ่งเป็นเมืองขนาดเล็กอยู่สัก 2 แสนคน เป็นเมืองในอวกาศโดยสร้างระบบให้มีน้ำหนัก สามารถเดินไปมา ไม่ใช่ลอยไปมา ส่วนการเดินทางในอวกาศจะสร้างเรือใบรับรังสีพลาสม่าเพื่อให้พาหนะนี้เคลื่อนไปในอวกาศได้

             ดร.อาจองบอกว่าองค์การนาซาวางแผนไว้ปี ค.ศ. 2020 มนุษย์จะลงไปบนดาวอังคารเป็นครั้งแรกเพื่อจะเริ่มไปเยี่ยมไปศึกษาอยู่ที่นั่นสักพักว่าจะอยู่กันได้สะดวกสบายแค่ไหน หลังจากนั้นจะเริ่มเอาคนไปอยู่สร้างตึกสร้างเมือง ตอนแรกจะมีเรือนกระจกแบบกลม ๆ เราเข้าไปอยู่ในนั้นปลูกผักปลูกข้าว ต้นไม้บนดาวอังคารจะโตเร็วกว่าโลกของเรา ที่โตเร็วเพราะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เยอะต้นไม้ชอบก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ขณะเดียวกันเราไม่ต้องขนออกซิเจนไป ปลูกต้นไม้ก็คายออกซิเจนให้กับตัวเราได้

             เมื่อผู้คนอพยพมามากขึ้นอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้น ปกติบนดาวอังคารอุณหภูมิตอนนี้ติดลบ เมื่อมนุษย์อยู่มีเครื่องไม้เครื่องมือก็ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนขึ้นแต่ตรง นั้นไม่ต้องห่วงเพราะอุณหภูมิต่ำอยู่แล้ว อุณหภูมิติดลบ 30 องศาเซลเซียส มนุษย์เข้าไปอยู่ได้อีกเยอะ และยิ่งอยู่เยอะยิ่งดีทำให้อากาศร้อนขึ้น

             ในที่สุดการเดินทางไปดาวอังคารจะกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาเหมือนกับการเดินทางขึ้นเครื่องบินไปต่างประเทศ  ระยะทางจากโลกไปดาวอังคารไม่แน่นอนบางครั้งอยู่ใกล้กัน บางครั้งไกลออกไป แต่ระยะเวลาที่ใกล้สุดระหว่างดาวอังคารกับโลกคือ 3-4 เดือน ขึ้นอยู่กับจังหวะว่าโลกจะหมุนเข้าใกล้ดาวอังคารช่วงไหนของปี       

      

              องค์การนาซ่าได้เริ่มดำเนินการทดลองสร้างโดมที่ประเทศคาซัคสถาน ซึ่งกำลังวางแผนจะสร้างเทองหลวงขึ้นใหม่ ประเทศนี้มีลักษณะภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นทะเลทราย  ฤดูร้อน ร้อนจัด ฤดูหนาว หนาวจัด ซึ่งไม่แตกต่างกับดาวอังคารมากนัก ภายในเต็นท์หรือโดมมีการปรับอุณหภูมิให้เย็นสบาย มนุษย์สามารถดำเนินชีวิตอยู่ได้ โครงสร้างเต็นท์ครอบคลุมกว่า 10 สนามฟุตบอล ยอดเต็นท์สูงกว่า 150 เมตร  มีการผลิตออกซิเจน และทดลองให้มนุษย์อยู่และอาศัยในโดมนั้นจริง

             จะเห็นได้ว่าเรื่องที่มนุษย์สามารถอาศัยอยู่บนดาวอังคารจึงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินความเป็นจริง  ...แล้วคนไทยทำอย่างไรดีเอ่ย ?   แต่ความคิดเห็นดังกล่าวก็ยังมีนักวิชาการออกมีโต้แย้งกันในวงกว้าง และไม่ตื่นตระหนกจนเกินเหตุไป (ฟังหูไว้หู ประมาณนั้น) 

            ผู้บันทึกต้องขอขอบคุณแหล่งที่มาของข้อมูลในบางส่วนจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ และนิตยสารต่วยตูนฉบับพิเศษ โดยคุณทวิชัย สุวพาณิช เป็นผู้เขียน  ต่วยตูนเป็นหนังสือที่ผู้บันทึกอ่านเป็นประจำ (ติดเลยก็ว่าได้)  ความรู้มากมายเหลือคณานัปเลยทีเดียว

หมายเลขบันทึก: 214741เขียนเมื่อ 7 ตุลาคม 2008 15:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (20)

อ่านแล้วน่ากังวลจัง ต้องรักโลกมากขึ้นแล้วนะ

  • แวะมาทักทาย ทำความรู้จักlovefull คะ
  • ถ้าช่วยกันตั้งแต่ตอนนี้ ยังพอเปลี่ยนแปลงทันรึเปล่า
  • ขอบคุณ รายละเอียดดีๆๆนะคะ

ขอขอบคุณค่ะ

ที่มีบันทึกเรื่องราวที่ดี มีประโยชน์

มาติดตามอ่านเรื่องราวดี ๆ

น่าสนใจ  น่าจะมีคนได้อ่านกันมาก ๆ

  • มาดูหนังเรื่องน้ำท่วมโลก
  • อ้าว...ไม่ใช่เหรออออ.....
  • กลัวแต่เขื่อนเมืองจีนครับ..ได้ยินว่าใหญ่มาก..ถ้าแตกเมื่อไหร่โดนกันหลายประเทศมาก
  • ขอบคุณค่ะ คุณ Miranda - Nano
  • สุภาษิตไทยบอกไว้ว่า "รู้จักป้องกัน ดีกว่าแก้ไข"
  • เห็นด้วยไหมคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณ สี่ซี่
  • ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ
  • มี 2 ทางทำได้แน่ "ลดใช้พลังงาน กับ ปลูกต้นไม้กันบ่อยขึ้น"
  • ขอบคุณค่ะ คุณ krukim
  • สบายดีนะคะ
  • ดีใจค่ะ ที่ข้อมูลที่นำมามีประโยชน์บ้าง

 

แค่ผ่านมาและรักโลก

เรื่องนี้ไม่ใช่ละครหรือหนังที่จะเป็นไปไม่ได้นะคุณเกษตร

ในความคิดเห็นคิดว่าน่าจะเกิดขึ้นจริงในไม่ช้านี้

เตรียมตัวไว้บ้าง รู้ข้อมูลไว้บ้าง จะได้ไม่ตกยุค

แค่บล็อกก็ เหมือนอยู่บนดาวอังคารแล้ว เยี่ยมมาก เก่งจริงๆ ชื่นชม

48ba3a216752eee

  • ขอบคุณค่ะ คุณแค่ผ่านมาและรักโลก
  • ต่างคนต่างความคิดค่ะ
  • อาจเหมือนละครถ้าไม่เชื่อ
  • อาจจะเกิดขึ้นจริง ก็ต้องช่วยกันจริง ๆๆๆๆๆ
  • ขอบคุณค่ะ ท่าน ผอ.นายประจักษ์~natadee
  • แต่ง blog เองยังเวียนหัวเองเลยค่ะ

เย้! คนอพยพไปดาวอังคารเยอะ ๆ เลย

โลกจะได้เย็นลง ก่อนอื่นก็ขอให้อเมริกา กับจีนย้ายไปให้เยอะเลย โลกเย็นลงเยอะเลย แล้วก็อพยพชาวไร่ข้าวโพดจากเมืองไทยไปรับรองโลกหายร้อนอีกบานครับ

อ่านแล้วมีประโยชน์มากค่ะ

  • สวัสดีค่ะ คุณโยธินิน
  • ยังแค้นชาวไร่ข้าวโพดไม่หายนะคะ (แค้นฝังหุ่นงานนี้)
  • เห็นด้วยกับการอพยพชาวอเมริกัน จีน อินเดียไปก่อนแล้วโลกเราจะดีขึ้น
  • ขอบคุณนะคะ
  • สวัสดีค่ะ คุณ  อุดมพันธ์
  • อยากบันทึกเรื่องราวที่มีประโยชน์ได้ความรู้ค่ะ
  • ขอบคุณที่แวะมาทักทายนะคะ
นาย ชนะชัย อยู่สุขสม

ยุคนี้คือ 2000ปี อนาคต

ยุคต้นอนาคต

ยุคกลางอนาคต

ยุคปลายอนาคต

ยุคนี้คือ 5000ปี อวกาศ

ยุคต้นอวกาศ

ยุคกลางอวกาศ

ยุปลายอวกาศ

ยุคนี้คือ 20,000ปี มนุษย์กับต่างดาว

ยุคต้นมนุษย์กับต่างดาว

ยุคกลางมนุษย์กับต่างดาว

ยุคปลายมนุษย์กับต่างดาว

น่่าสนใจ อ่านแล้วได้ความรู้เยอะเลย

ขอบคุณค่ะ

ไม่น่าจะได้ไปหรอก ชัวร์

ยกเว้นแต่ว่าเดินทางผ่านมิติแห่งเวลาได้เท่านั้นเอง

แล้วถึงเป็นอย่างนั้น จะไปอยู่ไหนกันเล่า

ดาวอังคาร ไปกันทำไม? เพื่อรักษาเผ่าพันธ์มนุษย์ไว้งั้นเหรอ!

..ยังมีสิ่งที่พัฒนาไปมากกว่าชาวโลกเรามากมายที่เรายังไม่รู้

ปล่อยให้เค้าเหล่านั้น อยู่ต่อไปดีกว่า

ส่วนชาวโลกเราไม่ต้องไปหวังอะไรกับอนาคต

เพียงแค่ใช้ชีวิตทุกวันนี้ให้คุ้มค่าที่สุดก็พอ...

ผมว่าทำได้จิงและดีด้วยจะได้ลดภาวะโลกร้อน ผมอยากไปดาวอังคารมาก ถึงคนอื่นจะคิดว่าบ้าบอแต่ผมว่าทำได้จิง

ผมอยากรู้ว่าต้องทำยังไงบ้างถึงจะได้ไปอยู่องค์การนาซ่าผมอยากไปดาวอังคารให้ผมทำหน้าที่อะไรก็ได้ผมกำลังตั้งใจเรียนเพื่อจะต่อวิศวผมเรียนช่างเชื่อมและเรื่องเกี่ยวกับการก่อสร้างเพื่อได้มีโอกาสไปทำงานที่ดาวอังคารกับเค้าบ้างไปสร้างเมืองที่ใครคิดว่าบ้า

น่า กลัว จัง เลย นะ อีก 10 ปี

เอาเวลามารักษาโลกให้น่าอยุ่ดีกว่าไหม เอาเวลาตั้ง 3-4 ปีไปที่ดาวอังคารเพื่อ เอาเวลาตั้ง 3-4 ปี มาช่วยกันคิดสิว่า จะสร้าง อะไร ที่ทำความสะอาด สร้างสิ่งใหม่ๆที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

มาเวลา อีกตั้ง 30 ปี โลกมันจะไม่หน้าอยุ่ขึ้นเลยหลอ แล้วคนอีก ครึ่งโลกจะไปอยุ่ไหน แล้วลูกหลานมึงล่ะ ได้ไปด้วยป่ะล่ะ ทำไมไม่เอาลูกหลานมึงอยุ่ที่โลกเพื่อศึกษาภัยธรรมชาติ แล้วมึงไปอยุ่ที่ดาวอังคาร ล่ะ

วันนี้ได้ไปดูหนังเรื่อง The Space Between Us ปี 2017 มาแล้ว รู้สึกเป็นไปได้มาก อาจจะมีหวังเล็กๆ ถึงแม้เป็นแค่หนัง ก็เล่าได้ถึงดาวอังคารได้เป็นอย่างดี เป็นหนังแนว ดราม่าโรแมนซ์ ครับ แต่เป็นไปได้ก็ได้นะครับ เรื่องนี้ไม่น่าจะไกลตัวแล้ว เขาศึกษากันจริงจัง ขนาดหนังที่ทำเหมือนมาก ชีวิตจริงอาจจะพอๆกันลองไปดู นะครับ นี้ก็ปี 2017 แล้ว คิดว่า อีกประมานกี่ปี ละครับ 5-10 ปี ผมว่า มีโอกาส แน่นอน โลกพัฒนาไปไกลแล้วครับ ??

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท