เอาใจลงไว้ที่เหนือศูนย์สะดือ ๒ นิ้ว : อนุสติที่มีมาแต่ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


เอาใจลงไว้ที่เหนือศูนย์สะดือ ๒ นิ้ว : อนุสติที่มีมาแต่ครั้งสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

พระรัตนตรัย
พระราชนิพนธ์
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


*************************************

หนังสือ  พระรัตนตรัยนี้  พระวินัยรักขิตผู้เป็นสัทธิวิหาริก  ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว  ได้แต่งไว้  ทรงพิจารณาเห็นอนุสติที่สมควร  ภิกษุบริษัทคฤหัสถ์หญิงชาย  พอเพียงจะพึงปฏิบัติได้  จึงทรงเลือกคัดจัดสรรไว้แต่สมควร  คือพุทธานุสติ  ธัมมานุสติ  สังฆานุสติ  อสุภานุสติ  พรหมวิหาร ๔  อภิณหปัจเวกขณะ ๕  พระไตรลักขณะ ๓  และมรณานุสติ  โดยปริยาย  พอเป็นข้อปฏิบัติสมควรดังนี้เป็นต้นไว้  จึงจักกล่าวอุบายสติความระลึกให้วิตถารไปในเบื้องหน้า...


(คัดย่อมาเฉพาะตอน  ดังนี้)


ควรที่สาธุชนจักเล่าบ่น  ให้แคล่วคล่องชำนิชำนาญในใจ  แล้วระลึกรำพึงไปในใจให้เนืองๆ จักได้ความเห็นในใจว่า  พระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้พระธรรมก่อน  แล้วสำแดงชี้แจงพระธรรม  ให้พระสงฆ์ได้รู้  

พระสงฆ์เป็นผู้ทรงธรรมไว้ในใจ  ความเห็นจริงลงกับความเชื่อจริงลง  ทั้งสองนี้จึงเป็นตัวสรณาคมน์  ถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์เป็นที่พึ่ง  ทางสวรรค์มรรคผลพระนิพพาน  ด้วยประการดังนี้  

อนึ่ง  ในคุณพระรัตนตรัย  ได้สำแดงชี้แจงออกไว้  พิสดารกว้างขวางบ้าง  โดยย่อ ๆ พอเป็นทางปฏิบัติบ้าง  ตามสติกำลังความอุตสาหะความเพียรของสาธุชนสัตบุรุษ  ผู้เกิดพบพุทธศาสนาธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ๆ เป็นรัตนะที่พึ่งอันประเสริฐ

ถ้าจะระลึกโดยย่ออีกนัยหนึ่งดังนี้  จงบริกรรมทำในใจว่า  อรหํ ๆ  แล้วเอาใจวางลงไว้ที่เหนือศูนย์สะดือ  ๒  นิ้ว  หรือที่หว่างอกหรือที่ต้นคอ  จึงบริกรรมทำในใจว่า  อรหํ ๆ  ไป  จึงเอาวิตกกดใจไว้  เอาสติระลึกไปตามความ  เอาวิจารพิจารณาไปตามเนื้อความว่า  อรหํ ๆ  พระพุทธเจ้าท่านมีจิตสันดานบริสุทธิ์  ไกลสิ้นจากกิเลสราคะความกำหนัดยินดี  รักใคร่  ในอารมณ์  รูป  เสียง  กลิ่น  รส  สัมผัส  ถูกต้องอุ่นอ่อน ๆ  จิตสันดานสิ้นจากโทสะ  ความโกรธประทุษร้ายสัตว์สังขารอื่นๆ จิตสันดานสิ้นโมหะความหลงในอารมณ์เป็นที่รักทั้งปวง  สิ้นจากอุปาทานยึดมั่นถือมั่น    ในอารมณ์เป็นที่รัก  สิ้นจากตัณหามานะทิฏฐิทั้งปวงดับสูญสิ้นไป.......


**************************************************************************

นี่เป็นหลักฐานว่าการภาวนาในแบบหลวงพ่อวัดปากน้ำมีมาแล้วตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๔  เท่าที่พอสืบสาวไปถึงได้  อันที่จริงน่าจะมีมานานแล้วในแผ่นดินไทยของเรา...

หมายเลขบันทึก: 215709เขียนเมื่อ 11 ตุลาคม 2008 10:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

น่าสนใจจังค่ะ ดูเนื้อหาคล้ายคัมภีร์ปฏิบัติธรรมของศรีลังกาเลยค่ะ พอจะบอกได้ไหมคะว่าชื่อเอกสารที่เขียนข้อความนี้ไว้นั้นคืออะไร (ขอทราบรายละเอียดบรรณานุกรมเพื่ออ้างอิงค่ะ)

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท