· Takt time เป็นการกำหนดจังหวะในการผลิต เช่นการเรียกผู้ป่วยเข้าห้องตรวจทุก...นาที เพื่อนำไปใช้ในการจัดระบบการบริการ จัดความสมดุล ให้ระบบการบริการเกิดความลื่นไหล
· Cycle time เป็นรอบเวลาของการให้บริการของแต่ละกระบวนการ หาก Cycle time ของทุกกระบวนการ = Takt time จะทำให้เกิดความสมดุลยในการผลิต ระบบจะเกิดความลื่นไหลไร้รอยต่อ
· Cell concept เป็นการจัดระบบบริการหรือสายการผลิตแบบเซลเช่นจัดระบบบริการที่สามารถลงทะเบียน พบแพทย์ เอกซเรย์ พร้อมทั้งชำระเงิน ทุกอย่างในที่เดียวกัน (A bone clinic where orthopaedic patients can register , see the doctor , get their X ray done , receive physiotherapy treatment and pay.)
· Quick setup เป็นการจัดเตรียมที่รวดเร็ว เช่น การจัดเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดมาถึงห้อง ICU พร้อมทั้งอุปกรณ์ทำความสะอาด ในเวลาที่ผู้ป่วยจะออกจากห้อง (Cleaners arrive with their with their equipment at ICU rooms just before the patients leave the room.) · Workload Leveling คือการเฉลี่ยปริมาณการผลิต/การบริการให้เป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ลดระดับความผันผวน ไม่ต้องเร่งการผลิตมากเกินกำลัง ทำให้ทำงานได้มากขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง ทำให้มั่นใจว่าไม่ทำให้เกิดความเครียดต่อทรัพยากรของเราโดยไมจำเป็น · Pull systems ระบบการดึงให้ความสำคัญเฉพาะสิ่งที่ลูกค้าต้องการเท่านั้น ทำตามปริมาณและเวลาที่ต้องการเท่านั้น การดึงวัสดุมาเติมเพิ่ม ระบุให้ชัดเจนว่าจะให้เติมเท่าไหร่ เมื่อไหร่จะต้องเติม อาศัยแนวคิดของระบบซูปเปอร์มาร์เก็ต ที่มีระบบการเติมเต็มสินค้าบนชั้นวางสินค้า · Push systems ระบบการผลัก เป็นระบบงานที่ผลิตสินค้าโดยไม่สนใจว่ากระบวนการถัดไป หรือลูกค้ามีความต้องการจริงตามที่คาดการณ์หรือไม่ ทำให้วัสดุคงคลังมีจำนวนมาก อาจมีพื้นที่ไม่เพียงพอสำหรับจัดเก็บ · Batching คือ การจัดกลุ่ม ชุดของชิ้นงาน ที่มีจำนวนของชิ้นงาน /ผู้รับบริการมากกว่า 1 คน โดยจัดการให้บริการเป็นรอบ หรือเป็นรุ่น จำเป็นในบางกรณี แต่เราต้องพยายามลด batch เพื่อให้ผู้ป่วยแต่ละคนเลื่อนไหลไปตามกระบวนการต่าง ๆ ใน รพ. ๆได้ดีขึ้น (Required in some instances but we should seek to minimize it to enhance individual patient flow through the hospital.)
“DOWNTIME” - Defects rework (การทำงานซ้ำเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง) : การตรวจเลือดซ้ำเพราะเขียนสลากผิด - Overproduction (การผลิตหรือบริการมากเกินจำเป็น) : การทำ x-ray ทุกวันใน ICU - Waiting (การรอคอย) : เช่น แพทย์ต้องรอเครื่องถ่าย portable x-ray อยู่ที่ห้องผ่าตัด
- Not using staff talents (ไม่ใช้ภูมิรู้ของเจ้าหน้าที่) : หัวหน้างานเป็นผู้คิดคำตอบ ไม่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเจ้าหน้าที่ จัดเจ้าหน้าที่ไม่ตรงกับความรู้ความสามารถ ไม่นำความรู้ของบุคลากรมาใช้ - Transportation (การเดินทาง) : ใช้สำหรับผู้ป่วย/สิ่งของ เช่น ผู้ป่วยต้องเดินทางไปที่จุดต่างๆ ที่ห่างไกลกันเพื่อรับบริการในการมาตรวจแต่ละครั้ง - Inventory (วัสดุคงคลัง): วัสดุคงคลังรวมทั้งการรอคอยของผู้ป่วย - Motion(การเคลื่อนที่) : ใช้สำหรับบุคลากรเช่น แพทย์ต้องเดินไปเดินมาเพื่อพิมพ์ข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ พยาบาลเดินตามหาเวชระเบียน - Excessive processing (กระบวนการที่มากเกินความจำเป็น) : ถามผู้ป่วยซ้ำแล้วซ้ำอีกในข้อมูลชุดเดียวกัน แบบบันทึกการลงทะเบียนที่ต้องลงชื่อถึง 8 ครั้ง
ดีใจที่เครื่องมือที่ใช้งานได้ดีในภาคอุตสาหกรรมการผลิต กำลังได้รับการยอมรับจากคนที่อยู่ในภาคบริการ
บ่อยครั้งที่เครื่องมือเหล่านี้ เมื่อนำไปแนะนำให้ภาคบริการใช้แล้วได้รับการปฏิเสธกลับมา แล้วบอกว่านั่นมันเครื่องมือของโรงงาน ที่นี่ไม่ใช่โรงงานนะ
แต่คุณลักษมีเห็น และค้นพบแล้วใช่ไหมครับ ว่ามันทำให้เรามองงานของเราอย่างเป็นระบบ เห็นงานไหลลื่นจากต้นน้ำไปสู่ปลายน้ำ เสมือนท่อน้ำ ที่เวลามันยาวไป คดโต้งไป ท่ออุดตันบ้าง เล็กไปบ้าง ใหญ่ไปบ้าง นี่แหละการไหลของงาน(Workflow) เมื่อมันพาดผ่านหลานหน่วยงาน ผ่านมือหลายคน ความสำเร็จหรือล้มเหลวที่ส่วนปลายของท่อ ย่อมถือเป็นความรับผิดชอบของทุกคน ถ้าคิดได้ดังนี้ถือได้ว่าเกิด Cross Functional Alignment ถึงตรงนี้ทุกคนก็จะช่วยกันคิดช่วยกันหาวิธีที่จะทะลุทะลวงปัญหาอุปสรรคต่างๆ ให้มันไหลลื่นไม่ให้เกิดความสูญเปล่าสิ้นเปลือง (Waste)
นี่แหละระบบที่เรียกว่า Lean แล้วถ้าเราสามารถจัดการมันได้ เรียกว่า Lean Management
ขอบคุณค่ะคุณ @Oscar ที่ทำให้เห็นภาพของ Lean Management
มากขึ้น